จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ภูเขา พิชชี่ บาย พิชยา ได้ออกมาปกป้องร้านหมาล่าหม้อไฟของตนเองที่โดนโพสต์รีวิวมั่วๆ จนทำให้เสียหายนั้น
ล่าสุด ‘คุณภูเขา’ เจ้าของโพสต์ซึ่งเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ ระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ผ่านมา มีลูกค้า 6 ท่าน เข้ามาใช้บริการ ทางร้านก็ให้บริการตามปกติ ต่อมาลูกค้าก็เลือกน้ำซุปและตักน้ำจิ้ม กดเครื่องดื่ม เพื่อมานั่งทานที่โต๊ะกัน
จากนั้นลูกค้าท่านนึงในกลุ่มนี้ก็ทำท่าเอื้อมมือไปหยิบถ้วยใส่แป้งต็อก ซึ่งเป็นของส่วนกลางของสายพาน หยิบลงมาแล้วไปวางไว้ที่ตักเพื่อแกะฟิล์มถนอมอาหารออก เมื่อผู้จัดการร้านเห็นว่าลูกค้าทำอย่างนั้นจึงแจ้งไปว่า “หนูอย่าแกะออกหมดนะลูก ถ้าแกะแล้วให้ปิดด้วย” ซึ่งพูดด้วยคำสุภาพ ไม่ได้ใช้น้ำเสียงที่ไม่ดี แต่ด้วยความที่ผู้จัดการเป็นคนพูดเสียงดังและมีบุคลิกแบบนั้น อาจจะไปกระทบกระเทือนจิตใจของคนฟังอย่างไรทางร้านก็ไม่ทราบ
หลังจากนั้นประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ลูกค้ากลุ่มนี้ก็รับประทานเสร็จและเช็กบิลออกไป ผ่านไปประมาณ 4 ชม. เวลาประมาณ 22.00 น. ก็มีการโพสต์รีวิวร้านแบบเสียๆ หายๆ ขึ้นมาในกลุ่มเฟซบุ๊ก เมื่อได้อ่านแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตนได้ไล่อ่านคอมเมนต์ในนั้นเกือบร้อยกว่าคอมเมนต์ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวการให้บริการจำนวนมาก จึงได้เข้าไปขออภัยลูกค้าที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น โดยที่ตอนนั้นทางร้านก็ยังไม่ได้เปิดกล้องวงจรปิด เพราะร้านมองว่าอาจจะเกิดการผิดพลาดขึ้นได้ ไม่รู้ว่าในร้านตอนนั้นเป็นยังไง จึงขอโทษลูกค้าไปก่อนในคอมเมนต์ของโพสต์นั้น และจะนำไปปรับปรุงแก้ไขในส่วนตรงนี้
แต่หลังจากขอโทษไปแล้ว กระแสในนั้นก็ยังไม่ลดลง มีทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มคนที่ไม่เคยมาทานที่ร้าน มาคอมเมนต์ปั่นให้ร้านเสียหาย ต่อมาเวลา 22.30 น. ทางร้านจึงโทรไปหาผู้จัดการเพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ผู้จัดการก็บอกว่าก่อนหน้านี้เหมือนจะมีปัญหากับลูกค้า 6 ท่าน
ตนถามว่าทำไมถึงมั่นใจว่าเป็น 6 คนนี้ ทางผู้จัดการเลยบอกว่า ลูกค้ากลุ่มนี้มีปัญหาตั้งแต่รับเข้าร้านมา โดยลูกค้าอยากจะเลือกที่นั่งตามใจชอบ ซึ่งในตอนนั้นผู้จัดการร้านอีกคนซึ่งเป็นผู้ชายได้บอกลูกค้าว่า สามารถเลือกที่นั่งได้ แต่รบกวนขอให้เว้นที่นั่งไว้เป็นคู่ เพราะจะทำให้การจัดการที่นั่งให้ลูกค้าคนอื่นง่ายขึ้น ซึ่งพอดูจากกล้องวงจรปิดก็เห็นได้ว่าลูกค้ามีสีหน้าไม่พอใจตั้งแต่ช่วงนั้น
ตนรู้สึกว่า ในเมื่อเราขอโทษไปแล้ว ยินดีปรับปรุงแก้ไขไปแล้ว ทำเต็มที่สุดความสามารถแล้ว ในความคิดของตนเคสแบบนี้มันไม่ควรมาถึงจุดนี้ด้วยซ้ำ มันควรจะจบที่ตรงนั้น แต่เขาไม่จบ เจ้าของโพสต์ยังดึงเอาตัวผู้จัดการมาต่อว่า พูดจาในลักษณะที่เหยียด ทำร้ายจิตใจไม่หยุด รวมไปถึงมีการเอาเฟซบุ๊กผู้จัดการผู้หญิงมาคอมเมนต์ โดยใช้ถ้อยคำหยาบคาย ท้าทายให้ออกมาบ้าง ผู้จัดการเองก็บอกว่าไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ไม่คิดว่าเขาก็จะโพสต์ว่ารุนแรงขนาดนี้
ตนใช้เวลานั่งดูกล้องวงจรปิดเกือบ 2 ชม. ตั้งแต่รับลูกค้าจนลูกค้าออกไป พบพฤติกรรมของลูกค้าตามที่ผู้จัดการเล่า คือหยิบอาหารตรงถาดกลางลงมาบนตักตัวเอง แต่ไม่มีเหตุการณ์ตามที่ลูกค้าโพสต์ต่อว่าร้านเสียๆ หายๆ เลยขอดูไปอีกว่าใครเป็นคนถ่ายรูปร้านไปลง พอไปเปิดกล้องหน้าร้านดูก็เห็นจังหวะที่เขาถ่ายมาพอดี หลังจากที่ทราบแล้วว่าเป็นลูกค้าท่านนี้ ตนเลยกลับมาดูที่สลิปโอนเงินและตามไปดูที่เฟซบุ๊กเจ้าของบัญชีนี้ เจอว่าคือกลุ่มลูกค้าเดียวกัน เลยสืบต่อจนทราบว่าเป็นน้องคนที่โพสต์จริงๆ
พ่อค้าแม่ค้าในละแวกนี้จะกลัวการโดนแขวนในกลุ่มเฟซบุ๊กมาก เพราะบางทีน้องๆ ไม่ได้ไตร่ตรองก่อนที่จะโพสต์อะไรลงไป บางร้านเจ๊งปิดกิจการไปเลยก็มี จากการโพสต์รีวิวเสียๆ หายๆ
ในส่วนที่น้องคนดังกล่าวทักมาขอโทษ ต้องบอกตามตรงเลยว่ายังไม่ได้มีความรู้สึกที่จะให้อภัยน้องได้ เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นกระทบกระเทือนจิตใจความรู้สึกของเจ้าของร้านและผู้จัดการมากๆ ทำให้สุขภาพจิตไม่ดีและจิตตก วิตกกังวลไปเลย
รวมถึงหลังเหตุการณ์นี้ ในวันที่ 30 ก.ค. ทั้งวัน ยอดขายจากปกติก็ตกลงมาครึ่งต่อครึ่ง ยอดของร้านไม่เคยตกแบบนี้มาก่อน ซึ่งเป็นผลพวงมาจากที่น้องโพสต์ 100% ถ้าในมุมที่ตนเป็นลูกค้าแล้วเจอโพสต์แบบนี้ก็คงไม่กล้าไปลองทานเหมือนกัน ตอนนี้จึงยังไม่อยากจะคุยอะไรกับน้องเป็นการส่วนตัว ขอให้เป็นการดำเนินคดีตามกฎหมายไปเลย ไม่อยากคุยอะไรหลังไมค์กับน้องอีกแล้ว เบื้องต้นได้อ่านรับทราบข้อความของน้องแล้ว แต่มันเยียวยาความรู้สึกไม่ได้ตอนนี้
ทั้งนี้เจ้าของร้านยังฝากถึงลูกค้าทุกท่านด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า ร้านทุกร้านที่ดำเนินกิจการมา ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะบริการลูกค้าให้ประทับใจที่สุดเท่าที่ร้านนึงจะทำได้ กว่าที่จะเป็นร้านมาขนาดนี้ ผู้ประกอบการทุกคนเขาตั้งใจมาก ซึ่งตนก็เคยเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่ามีร้านที่มันเจ๊งจากการรีวิวแบบนี้มาแล้ว
ถ้าทางร้านบริการผิดพลาดหรือมีเรื่องที่ขาดตกบกพร่อง ทางร้านมั่นใจเลยว่าทุกร้านยินดีที่จะรับคำติชม พร้อมรับฟังปัญหาจากลูกค้าอยู่แล้ว ไม่มีร้านไหนที่ปล่อยปละเลยลูกค้า เขาก็ต้องเอามาปรับปรุงแก้ไข เพื่อที่อยากจะดำเนินกิจการต่อไป
“ถ้าลูกค้าไม่พอใจหรือไม่ถูกใจ แนะนำให้ทักเพจหรือแจ้งที่หน้าเคาน์เตอร์ไปเลยจะดีกว่า กว่าจะสร้างร้านร้านนึงได้มันยากจริงๆ เราก็ยังอยากที่จะบริการลูกค้าอย่างเต็มที่ ขอแค่ลูกค้าบอกจุดบกพร่องหรือข้อผิดพลาด เราก็พร้อมจะปรับปรุงแก้ไข” เจ้าของร้านกล่าว
ที่มา : ข่าวสด