จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กไม่ระบุตัวตน ได้โพสต์รีวิวร้านหมาล่าหม้อไฟแห่งหนึ่งใน จ.มหาสารคาม โดยบอกว่าเคยไปใช้บริการที่ร้านนี้บ่อย ไม่เคยมีปัญหา กระทั่งครั้งล่าสุดที่ไป มีคุณป้าคนหนึ่งน่าจะเป็นเจ้าของร้าน มาพูดจาตะคอกใส่ว่าให้ปิดประตูเบาๆ จะหยิบจับทำอะไรก็ถูกตะคอกต่อว่า พูดจาหมาไม่รับประทาน ซึ่งผู้โพสต์ยังใช้คำด่าถึงคุณป้าคนนั้นว่า “…แก่”
โพสต์ดังกล่าวมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเห็นใจทางร้าน และตำหนิผู้โพสต์ที่รีวิวด้วยคำไม่สุภาพและไม่เหมาะสมนั้น
ทางฝั่งเจ้าของร้านได้ออกมาโพสต์ชี้แจงเป็นข้อๆ ดังนี้
1. ลูกค้าในกลุ่มหยิบถ้วยอาหารส่วนกลาง (แป้งต็อก) ลงมาวางบนหน้าตักตัวเอง ย้ำว่าหน้าตักตัวเอง! ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าอีก 4 ท่าน นั่งร่วมรับประทานอยู่ ทางผู้จัดการจึงแจ้งว่าหากลูกค้าเปิดแป้งต็อกแล้วให้ปิดด้วย เนื่องจากแป้งต็อกหากโดนอากาศนานๆ อาจจะทำให้แป้งแตกได้ และไม่ได้เอะอะอะไรตามโพสต์ที่ลูกค้าพิมพ์เลย
2. ตะคอกลูกค้าให้ปิดประตูเบาๆ จากการที่นั่งดูกล้องวงจรปิดตั้งแต่ลูกค้าเข้าใช้บริการ จนลูกค้าเช็กบิลออกไป ยังไม่ได้ยินเสียงตะคอกออกจากปากผู้จัดการแม้แต่คำเดียว
3. โพสต์ชี้นำให้ลูกค้าท่านอื่น “คิดดีๆ ก่อนไปนะคะ” นี่อ่านแล้วรู้สึกแย่ค่ะ คุณควรย้อนกลับไปมองว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้น มันเกิดจากพฤติกรรมบนโต๊ะอาหารของพวกคุณไม่ให้เกียรติลูกค้าท่านอื่น อยากหยิบจับอะไรก็หยิบจับตามอำเภอใจ ซึ่งถ้าการแจ้งให้ปฏิบัติตามกฎกติกาแล้วทำให้รู้สึกไม่พอใจ ควรใช้สติไตร่ตรองก่อนโพสต์นะคะ ไม่ใช่สักแต่จะโพสต์ให้ร้านเสียหาย
เคสนี้ขอจะดำเนินคดีตามกฎหมายกับนางสาว... ให้ถึงที่สุด ไม่ไกล่เกลี่ย ไม่ว่ากรณีใดๆ ทั้งสิ้น ขอให้พึงระลึกไว้ว่า ถึงแม้จะโพสต์แบบไม่ระบุตัวตน ถ้าจะหากันให้เจอจริงๆ มันไม่ได้ยากเกินความสามารถแน่นอน หยุดทำลายคนอื่นด้วยวิธีการสกปรกแบบนี้ มีหลากหลายช่องทางที่จะคอมเพลนเข้ามา ไม่มีร้านไหนอยากให้ร้านตัวเองเจ๊งหรอกค่ะ เชื่อว่าหากแจ้งเข้ามาทุกร้านยินดีปรับปรุงแก้ไขอยู่แล้ว
สุดท้ายนี้ ที่ต้องออกมาโพสต์เพราะผ่านความรู้สึก “อาย” มาแล้ว ขอลุกขึ้นสู้ปกป้องร้านนะคะ ทุกอย่างมีต้นทุน เราใช้เงินลงทุน อย่าเอาน้ำลายของคุณมาทำลายธุรกิจคนอื่น สุดแล้วแต่เวรแต่กรรมจะนำพาค่ะ ขอให้โชคดีแล้วเราจะได้พบกันเร็วๆ นี้แน่นอน
ซึ่งนอกจากคำชี้แจงแล้ว ทางเจ้าของร้านยังได้แนบคลิปจากกล้องวงจรปิด ขณะลูกค้าผู้โพสต์รีวิวกำลังใช้บริการอยู่ ซึ่งจะเห็นว่ามีการหยิบถ้วยแป้งต๊อกลงมาวางไว้บนหน้าตักตัวเองจริง และจะเห็นผู้จัดการ (ถุงมือสีฟ้า) เดินเข้ามาเตือน
หลังจากเจ้าของร้านได้โพสต์อธิบายเรื่องราวลงทางเฟซบุ๊ก ก็มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจจำนวนมาก หลายคนที่ได้ดูภาพวงจรปิดแล้ว บอกว่าลูกค้ารายดังกล่าวสมควรโดนตักเตือน เพราะไม่มีมารยาทบนโต๊ะอาหารในที่สาธารณะ
นอกจากนี้ มีลูกค้าคนหนึ่งโพสต์เล่าประสบการณ์ที่เคยไปใช้บริหารว่า แกไม่ได้ตะคอก แต่แกพูดเสียงดังจริง เราเคยไปกินก็เขินลูกค้าคนอื่นอยู่ แต่เราก็ผิดจริง ตอนนั้นน้ำมันแห้ง แต่ไม่ติดไฟ แกก็พูดดีนะว่าต้องปิดไฟสิลูก หม้อมันจะไหม้ ซึ่งเราก็ไม่ได้ติดใจ แต่แกพูดเสียงดังเลยอายคนเท่านั้นเอง
ซึ่งเจ้าของร้านก็ได้มาตอบว่า ได้บอกให้แกพูดเบาๆ แล้วนะคะ เดี๋ยวจบเรื่องนี้อาจจะต้องให้แกไปตรวจหูค่ะ แกฝากมาขอโทษลูกค้าด้วยนะคะ พร้อมย้ำว่า เรื่องพนักงานเดี๋ยวเราจัดการเอง ไม่ไล่ออกแน่นอน ไม่สามารถให้เหยียบย่ำสุขภาพจิตใจใครโดยที่ไม่เป็นความจริง ส่วนคำแนะนำติชม พร้อมนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น
หลังจากที่เจ้าของร้านได้โพสต์ชี้แจ้ง พร้อมลงบันทึกประจำวันเพื่อดำเนินคดีกับคนที่มารีวิวทำให้ร้านเสียหาย เจ้าของโพสต์ต้นเรื่องก็รีบส่งข้อความขอโทษเจ้าของร้านทันที โดยบอกว่า...
“พี่คะ หนูยอมรับผิดทุกอย่างแล้วนะคะ พร้อมเจอหน้า พร้อมขอโทษทุกอย่างที่ทำลงไป พร้อมกราบเท้าที่โพสต์ใช้คำรุนแรงแบบนั้น สำนึกผิดแล้วจริงๆ จำไปตลอดชีวิตเลยค่ะ และขอชดใช้เงินจำนวน 10,000 บาท เพราะมีเท่านี้จริงๆ กราบขอโทษด้วยใจจริงที่ สภ. ค่ะ ตอนนี้สำนึกมากกราบขอโทษจริงๆนะคะ”
และได้กลับไปโพสต์ลงในกลุ่มที่ไปรีวิวอีกครั้งว่า “จากกรณีที่โพสต์เรื่องร้านหมาล่า เมื่อ 2 วันก่อน ตอนนี้รับรู้แล้วว่าจะโดนฟ้อง หนูต้องกราบขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ทำไปเพราะด้วยความโมโห เพราะคิดว่าป้าแกเหวี่ยงใส่ จนเกิดการโพสต์ถ้อยคำหยาบคาย ไม่สุภาพ ต้องกราบขอโทษอีกครั้ง
ส่วนตัวเป็นลูกค้าประจำ ไปบ่อยไม่เคยคิดมีปัญหาอะไร แต่วันนั้นทำไปด้วยความโมโหจริงๆ ส่วนเรื่องที่ทางร้านจะฟ้อง หนูไม่มีเงินจะจ่าย ไม่มีทรัพย์สินใดๆ ที่จะชดใช้ให้ เพราะทุกวันนี้มีเงินติดตัวแค่พันกว่าบาท หากทางร้านต้องการให้หนูกราบขอโทษ หนูก็ยินดี หนูยังคงเป็นลูกค้าประจำที่นั่น และชื่นชมตลอดว่าร้านอาหารอร่อย
แค่เหตุการณ์วันนั้นที่ทำให้หนูโมโหและโพสต์ไปด้วยความที่โง่ ไม่ทันคิดว่าร้านจะเสียหายขนาดนี้ กราบขอโทษจากใจเด็กคนนึงที่ไม่มีสมองและขาดการยั้งคิด หนูได้ทำการลบโพสต์ออกไปภายในวันที่โพสต์ไม่กี่ชั่วโมงแล้ว”
ล่าสุด ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ร้านมีสุข บุฟเฟ่ต์หมาล่าหม้อไฟสไตล์จีน ตั้งอยู่บริเวณทางเข้ามหาวิทยาลัยมหาสารคาม พบกับคุณสำราญ ผู้จัดการร้าน ซึ่งเป็นคุณยายของเจ้าของร้านด้วย ได้เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ร้านเพิ่งเปิดมาได้ 10 เดือน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาเลย
ในกรณีของลูกค้ารายนี้ที่ไปโพสต์รีวิวร้าน ได้มาใช้บริการร้านช่วงเย็น ของวันที่ 29ก.ค. ที่ผ่านมา ระหว่างที่ลูกค้าใช้บริการ ได้หยิบถ้วยออกจากสายพาน ตนจึงเดินไปเตือนว่าอย่าหยิบถ้วยออกจากสายพาน ซึ่งไม่ได้ใช้คำรุนแรงแต่อยางใด และไม่ได้เตือนลูกค้าคนที่เป็นเจ้าของโพสต์ด้วย แต่ต่อมาร้านทราบเรื่องการรีวิว
“ยอมรับว่าเสียใจ ร้องไห้ 3 วันเต็ม เวลาใครถามเรื่องที่เกิดขึ้นน้ำตาก็ไหล วันแรกไม่ได้นอนเลย คิดทบทวนว่าเราพูดอะไรผิดไป ทำไมถึงต้องว่าเราขนาดนี้ ทางหลานสาวก็รู้สึกว่าลูกค้าด่าแรงเกินไป และทำให้ร้านเสียหาย จึงได้ไปแจ้งความไว้”