ชายแสดงตัวเป็นเจ้าของเงิน 12 ล้าน อ้างเป็นเงินที่ได้จากการประกอบอาชีพทนาย นึกว่ากล่องเปียกน้ำเลยหอบมาทิ้ง ลืมว่ามีเงิน

ความคืบหน้ากรณีพบเงินสดจำนวน 12 ล้านบาท ซุกอยู่ในลังพลาสติก ถูกนำมาทิ้งไว้ที่บริเวณจุดทิ้งขยะหน้าลิฟต์คอนโดแห่งหนึ่งใน ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ต่อมามีชายคนหนึ่งมาแสดงตนเป็นเจ้าของเงิน เจ้าหน้าที่จึงพาตัวไปค้นห้องพักคอนโดดังกล่าว เพื่อหาหลักฐานมาตรวจสอบเพิ่มเติม แต่ยังไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ กับสื่อที่มารอทำข่าวนั้น

ล่าสุด ‘พล.ต.ต.กิตติ์ธเนศ ธนนันท์ทวีสิน’ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าว หลังเดินทางมาสอบปากคำชายที่แสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงินจำนวน 12 ล้านบาท

โดยผู้การจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า เรื่องเงิน 12 ล้าน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากผู้พักอาศัยในคอนโด หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปตรวจสอบ ก็พบจำนวนเงินดังกล่าวตามที่เป็นข่าว

วันนี้ ชายคนหนึ่งได้เดินทางมาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของเงิน แต่ยังยืนยันไม่ได้ โดยเขาแจ้งว่าลืมเงิน บอกว่าภายในห้องพักที่ชั้น 5 มีน้ำท่วม คิดว่ากล่องดังกล่าวซึ่งเป็นกล่องเสื้อผ้าเปียกน้ำ จึงได้หอบจากชั้น 5 ลงมาทิ้งที่ชั้น 4 ซึ่งใกล้ห้องพัก ส่วนเงินดังกล่าว ยืนยันว่าได้มาจากการทำงานอาชีพทนายความ

รายละเอียดในการได้มาของเงิน อยู่ระหว่างการสอบปากคำ ซึ่งผู้ที่มาแสดงตัวมีสิทธิ์ที่จะให้การอย่างไรก็ได้ แต่ทางตำรวจจะทำการสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริง โดยหลังจากนี้เขาต้องนำหลักฐานการเป็นเจ้าของเงินมายืนยัน

สำหรับการนำเงินจำนวนมากมาเก็บไว้ที่ห้องพัก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยังสงสัยในประเด็นนี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ ส่วนเงินที่แจ้งว่าเบิกมาตั้งแต่ปี 2563 ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจรอทางธนาคารยืนยัน

อันดับแรก ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องพิสูจน์ทราบให้ได้ก่อนว่าเงินก้อนนี้ ใครเป็นคนเบิกมา และต้องยืนยันตัวบุคคลให้ได้ เงินจำนวนดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้อายัดไว้ก่อน เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงให้ได้ แล้วนอกจากเงินที่มาทิ้งยังมีขยะอย่างอื่นด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบห้องพักภายในคอนโด และได้สอบปากคำเจ้าหน้าที่นิติฯ พบว่าภายในห้องมีน้ำท่วมจริง

ด้านชายคนดังกล่าวไม่ได้มีความกังวลอะไร โดยวันนี้ที่เข้ามาพบ ได้ประสานผ่านทาง ผกก.สภ.ปากเกร็ด บอกว่าเงินจำนวนนี้เป็นของเขา เขามีหลักฐานมาแสดง

คดีนี้ตนอยากตรวจสอบให้เร็วที่สุด แต่ต้องรอเจ้าหน้าที่ธนาคารยืนยันเรื่องเงินกลับมา ซึ่งข้อมูลของธนาคารสามารถเชื่อถือได้ และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบเส้นเงินอีกครั้ง