บช.ก. สั่งสอบตำรวจทางหลวง นำขบวนรถซูเปอร์คาร์ บนทางด่วน M6 เผยเป็นตำรวจชั้นประทวน ไปนำขบวนโดยไม่ได้แจ้งต้นสังกัด

จากกรณีหญิงสาวรายหนึ่งได้โพสต์คลิปเหตุการณ์บนถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา มีขบวนรถซูเปอร์คาร์สุดหรู มีรถตำรวจขับตามประกบ ทำให้ผู้ใช้ถนนมอเตอร์เวย์ M6 ต้องขับรถตามในความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ไม่สามารถแซงได้

เจ้าของคลิประบุว่ากีดขวางการจราจร และในคลิปภาพยังมีการถ่ายภาพจากกระจกมองข้างรถ ทำให้เห็นรถจำนวนมากที่ขับตามหลัง เพราะไม่สามารถแซงกลุ่มขบวนรถซูเปอร์คาร์ที่อยู่ด้านหน้าได้ ซึ่งโพสต์ดังกล่าวระบุข้อความว่า

"เสียงของประชาชนที่เสียภาษีเหมือนกันขอบ่น รถหรูมีกิจกรรม เหตุอะไร มีประชาสัมพันธ์แจ้งบอกกล่าวไหม ผู้ใช้รถใช้ถนนเดือดร้อน” เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 5 ตุลาคม 2567 ที่ถนนมอเตอร์เวย์ M6 มุ่งหน้าเข้านครราชสีมา ช่วงผ่านเขื่อนลำตะคอง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

สำหรับขบวนรถซูเปอร์คาร์ดังกล่าวได้ขับขี่มาร่วมงานถนนคนเดินเดิ่นโคราช ภายใต้ชื่องาน “เทศกาลกินเจ เดินชมรถหรู ดูดนตรี” ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา ระหว่างวันที่ 4-6 ตุลาคม 2567 โดยภายในงานได้มีการนำคาราวานรถหรูในนามของ “กลุ่มสตรีท คิง ไทยแลนด์” ซึ่งมีรถหรูทั้ง ไฮเปอร์คาร์ ซุปเปอร์คาร์ สปอร์ตคาร์ และรถยี่ห้อดังระดับโลกรุ่นต่างๆ รวมจำนวน 45 คัน ไม่ว่าจะเป็นแลมโบกินี่, เฟอร์รารี่, มาเซราติ, พอร์ช, เบนท์ลี่ย์, ออดี้} แอสตัน มาร์ติน และโลตัส รวมมูลค่ากว่า 1,500 ล้านบาท มาร่วมกิจกรรมโชว์โฉมในงานนี้ด้วย เพื่อสร้างสีสันให้ในงานครั้งนี้ ก่อนที่จะมีดรามาขบวนรถซูเปอร์คาร์ขับกีดขวางการจราจรบนถนนมอเตอร์เวย์ M6 ดังกล่าว

ขณะที่ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. กล่าวว่า กรณีนี้ พล.ต.ต.คงกฤช เลิศสิทธิกุล ผบก.ทล.รายงานเบื้องต้นแล้ว จึงสั่งการให้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว หากพบว่ามีความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน

มีรายงานว่าจากการตรวจสอบพบว่า ตำรวจทางหลวงนำรถขบวนรถหรูดังกล่าว โดยใช้เส้นทางดังกล่าวถนนมอเตอร์เวย์ M6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา เพื่อไปงานเดินเดิ่นโคราช เทศกาลกินเจ ชมรถหรู ดูดนตรี ที่นครราชสีมา

เบื้องต้นพบว่า มีตำรวจทางหลวง ชั้นประทวนเป็นผู้นำขบวน และไม่ได้แจ้งไปยังต้นสังกัด จึงสั่งให้ตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมพิจารณาโทษฑัณฑ์ ในส่วนสารวัตรหัวหน้าสถานีและรองสารวัตรหัวหน้าสถานี ต้องมีการพิจารณาโทษตามขั้นตอน ฐานปล่อยปละละเลยด้วยเช่นกันอีกด้วย