ผู้เสียหายอีกคน เล่าว่า เช่าหอพักแห่งนี้ แล้ววันดีคืนดี สามีของคุณป้ามาเคาะประตูห้อง แล้วเข้ามาตอนตี 3 อ้างว่ามาดูว่าน้ำรั่วหรือเปล่า เราตกใจมาก ไม่รู้จะทำอะไร เขาก็เดินเข้ามาบอกว่า เลขมิเตอร์น้ำเยอะเกิน สงสัยว่าน้ำรั่ว เลยจะมาดูให้ เรางงมากว่า ทำไมถึงเข้ามาตอนตี 3 ทั้งที่ตอนกลางวันก็ดูได้
เราแสดงความไม่พอใจ เขาก็ขู่ว่าถ้าไม่พอใจก็ย้ายออกไปเลย พอเราไปแจ้งว่าจะย้ายออกจริง เขาก็มาโน้มน้าวต่างๆ นานา บอกว่าจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก ตอนแรกจะขอเอาของออกจากหอพัก เพราะว่าจะส่งไปให้แม่ แต่เขาบอกว่า ตราบใดที่ยังไม่หมดสัญญา ห้ามเอาของออกไปไหนทั้งนั้น ทั้งที่เป็นของๆ เรา ซื้อมาเอง เราไปแจ้งความ ตำรวจก็ขู่กลับว่า มันเป็นแพ่ง มาแจ้งความอาญาไม่ได้ ถ้าเขาแจ้งกลับเธอรับผิดชอบไหวไหม
ผู้เสียหายจึงขอความช่วยเหลือจากพี่ที่อยู่ที่โคราช ให้มาช่วยหน่อย พี่ของผู้เสียหายก็ขับรถตรงดิ่งมาคุยกับตำรวจเลย ยืนยันว่าจะเอาผิดอาญา ตำรวจถามกลับมาว่า จะเอาผิดข้อหาอะไร เราก็ตอบตำรวจไปว่า เราได้รับความเสียหาย เรามีหน้าที่มาแจ้ง ส่วนท่านจะแจ้งข้อหาอะไร ตั้งข้อหาอะไรกับเขา มันเป็นหน้าที่ของท่าน ถ้าท่านจะไม่ยอมดำเนินคดีให้ ก็ช่วยทำเป็นหนังสือตอบกลับมาด้วย ว่าไม่รับดำเนินคดีเพราะอะไร
พอแจ้งไปแบบนี้ ตำรวจก็เลยต้องยอมรับแจ้งความแบบเสียไม่ได้ หลังจากนั้นเราเอาบันทึกประจำวันไปที่หอพักแห่งนี้ เพื่อจะไปเอาของออกมา แล้วขอให้สายตรวจไปกับเราด้วย 1 นาย แต่ปรากฎว่าตำรวจไม่มา
พอเราถือบันทึกประจำวันเข้าไปเอาของ สามพ่อแม่ลูกเจ้าของหอก็ปรี่เข้ามา ไม่ให้เข้า แล้วแจ้งความดำเนินคดีกับเราฐานบุกรุก บอกว่าเราเป็นคนนอก เราถูกดำเนินคดีแล้วก็เลยถามกลับไปว่า งั้นขอแจ้งความกลับด้วยฐานแจ้งความเท็จ ปรากฏว่าตำรวจบอกว่า ไม่ให้แจ้ง ต้องไปแจ้งกับร้อยเวรอีกคนแทน
เรื่องคดีบุกรุกที่เขาแจ้งเรา เราบอกว่าแจ้งก็แจ้งมาได้เลย จะเอาผิด จะอะไรก็ได้เต็มที่ เราพร้อมสู้ แต่ผ่านมาถึง 3 ปี แล้ว ยังไม่มีอะไรส่งมาเลย วันนี้พอมีเรื่องนี้เปิดขึ้นมา เราต้องออกมาด้วย เพราะเราต้องการให้คนๆ นี้ ได้รับผลจากการกระทำของเขาเสียที