มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

คนไทยไม่ทิ้งกัน 3 ครอบครัวชาวสุรินทร์ อพยพหนีเหตุปะทะชายแดน ขับรถไร้จุดหมายมาถึงครบุรี จิตอาสาช่วยเหลือ-ต้อนรับอบอุ่น


ภูมิภาค
26 กรกฎาคม 25684,861
คนไทยไม่ทิ้งกัน 3 ครอบครัวชาวสุรินทร์ อพยพหนีเหตุปะทะชายแดน ขับรถไร้จุดหมายมาถึงครบุรี จิตอาสาช่วยเหลือ-ต้อนรับอบอุ่น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย – กัมพูชา ทำให้ประชาชนหลายครอบครัวต้องอพยพหาที่ปลอดภัยกันอย่างเร่งด่วน อย่างเช่นครอบครัวของหญิง อายุ 42 ปี ชาวบ้านไพรพยัคฆ์ ตำบลเทพรักษา อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ ที่ต้องพาสมาชิกในครอบครัว รวม 5 คนประกอบไปด้วย สามี ลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานสาววัย 8 เดือน พร้อมเพื่อนบ้านอีก 2 ครัวเรือน 3 คน รวมทั้งหมด 8 คน ขึ้นรถยนต์กระบะพร้อมข้าวของจำเป็นที่พอจะหยิบฉวยได้ ออกเดินทางอย่างไร้จุดหมาย


ก่อนที่จะมาได้ที่พักพิงไกลถึงบ้านโคกใบบัว หมู่ที่ 21 ตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหมู่บ้านของหญิง อายุ 45 ปี เพื่อนที่รู้จักกันในที่ทำงานเดิมเมื่อกว่า 10 ปีก่อนและตอนนี้เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพร้อมจิตอาสาพระราชทานอำเภอครบุรี ได้ชักชวนให้มาอยู่ด้วยกันชั่วคราวจนกว่าสถานการณ์จะสงบลง


ตัวแทน 8 ชีวิต 3 ครอบครัว ที่ได้อพยพมาอยู่ยังหมู่บ้านโคกใบบัวแห่งนี้ บอกว่า เดิมทีตนเองก็ได้รับแจ้งจากทางเจ้าหน้าที่ให้อพยพออกจากพื้นที่เพื่อให้ไปยังศูนย์อพยพที่อำเภอสังขะ ตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าวันที่ 24 ก.ค.68  แต่ตอนนั้นเห็นว่าการอพยพเร่งรีบต่างคนต่างเร่งเดินทางทำให้การจราจรพลุกพล่าน แออัดวุ่นวายไปหมด จึงออกจากบ้านล่าช้าไปหน่อย แต่ระหว่างนั้นก็มีข่าวแจ้งว่าให้ย้ายไปยังศูนย์อพยพที่อำเภอศรีณรงค์แทน


กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ได้เดินทางไปถึงศูนย์อพยพอำเภอศรีณรงค์ ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้อย่างดี แต่ด้วยการที่ตัวเองมีหลานสาวตัวน้อยมาด้วย และเห็นว่าศูนย์พักพิงก็มีผู้อพยพจำนวนมากอยู่แล้ว จึงตัดสินใจสอบถามไปยังทางญาติที่อยู่กรุงเทพฯ เพื่อขอไปอาศัยอยู่ด้วย ซึ่งทางญาติก็ยินดีที่จะหาบ้านพักให้อยู่ โดยจะออกค่าใช้จ่ายให้ ตนเองและครอบครัวที่เดินทางมาด้วย จึงขับรถมาเรื่อย ๆ พร้อมกับโพสต์เรื่องราวต่างๆที่ได้เผชิญมาลงเฟซบุ๊กส่วนตัว


จากนั้นเพื่อนร่วมงานที่เคยทำงานด้วยกันเมื่อประมาณ 10 ปีก่อนทักมาถามและทราบถึงสถานการณ์ จึงชวนให้มาพักที่หมู่บ้านโคกใบบัว อ.ครบุรี จ.นครราชสีมาก่อน ซึ่งคนในหมู่บ้านยินดีให้ความช่วยเหลือ ตอนแรกตนเองก็ไม่กล้ารบกวน แต่เมื่อมองถึงเงินในกระเป๋า และไม่รู้ว่าสถานการณ์จะยืดเยื้อไปอีกนานแค่ไหน จึงตัดสินใจลองติดต่อเพื่อนไป


เมื่อเพื่อนได้รับการติดต่อจากตน เพื่อนก็ยืนยันว่าพร้อมจะให้มาพักอยู่ด้วยที่หมู่บ้าน ตนจึงตัดสินใจเข้ามาขออาศัยอยู่ชั่วคราว โดยได้นำสมาชิกทั้งหมด 8 คน เดินทางถึงอำเภอครบุรีเมื่อเวลาประมาณ 01.00 น.วันที่ 25 ก.ค.68 และพักที่บ้านของเพื่อนก่อน จากนั้นในตอนเช้าก็มีคนจำนวนมาก เข้ามาถามไถ่และให้กำลังใจ พร้อมกับจัดบ้านให้อยู่ 1 หลังแบบไม่คิดค่าใช้จ่าย พร้อมกับนำข้าวของเครื่องใช้และสิ่งจำเป็นในการดำรงชีวิตมามอบให้อย่างไม่ขาดสายตลอดทั้งวัน ทำให้ตนและทุกคนที่อพยพมาต่างซึ้งใจในน้ำใจของชาวครบุรีเป็นอย่างมาก เพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้การต้อนรับและช่วยเหลือจากคนอื่นที่ไม่เคยรู้จักกันมากก่อนได้ขนาดนี้


ทั้งนี้ ชาวบ้านในชุมชนโคกใบบัว รวมถึงชาวอำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา ที่ในจำนวนนั้นเป็นจิตอาสาพระราชทานหลายครอบครัว ยืนยันว่า พร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ ให้ที่พักพิงและพร้อมรับผู้อพยพ เพื่อเป็นการช่วยเหลือภาระการดูแลของทางหน่วยงานราชการในพื้นที่อื่นๆอย่างเต็มความสามารถทันทีหากได้รับการติดต่อมา และเชื่อว่ายังคงมีอีกหลายชุมชนหลายจังหวัด ที่ต้องการให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ปะทะในครั้งนี้


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#น้ำใจ#คนไทยไม่ทิ้งกัน#ครบุรี#ปะทะชายแดนไทยกัมพูชา#โหนกระแส