จากกรณี ชาย อายุ 50 ปี ชาวบ้านโนนแดง ต.หนองกะทิง อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ที่ก่อเหตุขโมยลูกชิ้นยืนกิน ของร้านจำหน่ายลูกชิ้นไปคิดเป็นมูลค่าประมาณ 300 บาท ก่อนจะถูกตำรวจ สภ.เมืองบุรีรัมย์ จับกุมแล้วตั้งข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ
จนกระทั่งเรื่องบานปลายในโลกโซเชียล มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยที่ทรัพย์สินเพียง 300 บาท กลับถูกแจ้งความดำเนินคดีโทษหนัก ซึ่งมีอัตราโทษรวมกันแล้วถึง 7 ปี 6 เดือน และเป็นอาญาแผ่นดินยอมความไม่ได้ โดยเฉพาะแรงจูงใจที่ต้องขโมยลูกชิ้น เพราะต้องการเอาไปเลี้ยงครอบครัวที่อดอยาก และเอาไปให้พ่อแม่ที่ป่วยติดเตียงที่ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์
ล่าสุดนายวุฒิกาญจน์ กุลสุวรรณ ประธานสภาทนายความจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ออกมาระบุว่า ตอนนี้ได้รับมอบหมายจากสภาทนายความแห่งประเทศไทย ให้เข้ามาช่วยเหลือด้านคดี และการประกันตัวผู้ต้องหา
ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ครั้งที่ถูกจับกุมศาลอนุญาติให้ประกันตัวได้ โดยการให้ญาติหรือผู้ใหญ่บ้านมาทำสัญญาต่อศาลโดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ แต่ไม่มีญาติมาติดต่อ จึงทำให้ต้องฝากขังมาโดยตลอด จนถึงจนครบ 4 ผลัดคือ 48 วันในวันนี้ และคาดว่าน่าจะได้รับการปล่อยตัวในเย็นวันนี้
อีกส่วนหนึ่งนายนาเคนทร์ ทองไพรวัลย์ รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ได้ออกมาให้ข้อมูลว่า การกระทำทีที่ทำไปเพราะยากจนแสนเข็ญไม่เคยมีประวัติอาชญากรมาก่อน ก็อาจเข้าข่ายเป็นคดีที่ฟ้องไปไม่เป็นประโยชน์ ซ้ำผู้ต้องหาถูกขังมานานพอแล้ว จึงสามารถสั่งไม่ฟ้องก็เป็นไปได้ และเป็นอำนาจของอัยการสูงสุดเท่านั้นที่จะสั่งคดีนี้ ตาม พ.ร.บ.อัยการมาตรา 21 ซึ่งมีโอกาสเป็นไปได้หลายช่องทาง