จากกรณีที่เมื่อวานนี้ ลูกๆ ของผู้เสียชีวิตหญิงวัย 68 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรม หลังแม่ปวดศีรษะ เข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉิน รพ.ชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดระยอง แพทย์ระบุ ไม่มีไข้ คุณหมอบอกเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน ให้เพียงยาพาราเซตามอลกลับไปทานที่บ้าน เดี๋ยวก็หาย สุดท้ายมีเลือดออกในสมอง ยื้อไม่ทัน เสียชีวิต
ลูกๆ เผยว่า ค้างคาใจในการทำหน้าที่ของคุณหมอในห้องฉุกเฉิน รอบแรก มาหาหมอวันที่ 1 กรกฎาคม ไล่คุณแม่ตนกลับบ้าน และให้แต่ยาพารา บอกแค่ว่ามีอาการปวดหัวเนื่องจากเครียดและอากาศเปลี่ยนแปลง
รอบที่ 2 พาแม่กลับมาหาหมออีก ในวันที่ 3 กรกฎาคม เนื่องจากคุณแม่อาการไม่ดีขึ้น พอมาถึง คุณหมอก็ให้ไปรับยาและให้กลับบ้านอีก ตอนนั้นคุณแม่เริ่มไม่รู้สึกตัว กลืนน้ำลายไม่ได้ อุจจาระและปัสสาวะแตก ต้องถามคุณหมอกลับไปว่า จะให้แบกคุณแม่กลับบ้านได้อย่างไร ในเมื่อคนไข้ไม่รู้สึกตัวแล้ว
หมอแจ้งว่าถ้าแอดมิดก็ต้องนอนหน้าลิฟต์ เนื่องจากเตียงเต็ม ซึ่งพวกตนก็ยอม เพราะอยากให้คุณแม่อยู่ใกล้หมอมากที่สุด หลังจากที่ได้แอดมิด เขาพาแม่ไปเอกซเรย์ ปรากฏว่าพบเลือดออกในสมอง ก่อนที่คุณแม่เสียชีวิตลง
ลูกๆ ติดใจกับการทำงานของหมอและเจ้าหน้าที่ ที่ไล่คุณแม่ตนกลับบ้าน ขอให้ออกมารับผิดชอบ ออกมาชี้แจงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำไมคุณถึงได้ละเลยกับคนไข้ได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่คุณแม่ เป็นผู้ป่วยที่รักษาที่โรงพยาบาลนี้เป็นประจำ รักษาตัวมา 10-20 ปีแล้ว เช็กประวัติก็จะรู้ว่าเขาป่วยมีโรคประจำตัวอะไรบ้าง
ขณะที่ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าว แสดงความเสียใจกับญาติของผู้เสียชีวิต พร้อมระบุว่า ทางโรงพยาบาลเพิ่งทราบเรื่อง และรับเรื่องไว้แล้ว ทาง รพ.ชี้แจงเบื้องต้นว่า คนไข้นั้นมาหาหมอ คนไข้มีโรคประจำตัวเยอะ ทานยาละลายลิ่มเลือดอยู่ ซึ่งแพทย์ที่รักษาประเมินเบื้องต้น จะต้องทำการหยุดเลือดที่ออกมาก่อน โดยการให้ยาหยุดเลือด เพราะหากเลือดในสมองยังไม่หยุด ไม่สามารถผ่าตัดได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ทางโรงพยาบาลจะไม่ละเลย จะให้ชุดทำงานทบทวน เข้าไปตรวจสอบ ตั้งแต่วันที่คนไข้เข้ามาในวันแรก ถึงสาเหตุและวิธีการรักษา แล้วจะชี้แจงให้ญาติทราบต่อไป
สาเหตุที่แพทย์ให้แค่ยาพารากลับไปในรอบแรกนั้น อาจจะเป็นเพราะว่า คนไข้มีโรคประจำตัวอยู่หลายอย่าง แพทย์ก็ต้องประเมินและวินิจฉัยก่อนว่า ยาที่ให้ไปนั้นจะไม่ไปรบกวนต่อโรคประจำตัวที่มีอยู่ หรือบางครั้งยังไม่สามารถให้ยาที่แรงๆได้ เพราะจะทำให้กัดกระเพาะ
อย่างไรก็ตามทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับญาติ ของผู้สูญเสียด้วยและทางโรงพยาบาล จะมีชุดทบทวน ตรวจเช็กเกี่ยวกับสาเหตุที่เกิดขึ้นต่อไป