จากกรณี ‘ดร.ดำรง ลีนานุรักษ์’ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ออกมาระบุว่า คณะกรรมการกำกับ San Francisco Asian Art Museum (SFAAM) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาถอนสถานะการครอบครองประติมากรรมสัมฤทธิ์ ‘ประโคนชัย’ 4 องค์ เป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งคืนไทย ตามคำร้องต่อศาล โดยหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Homeland Security Investigations: HSI) และอัยการกลาง
เนื่องจากประติมากรรมสัมฤทธิ์ประโคนชัย 4 องค์นี้ อยู่ในรายการโบราณวัตถุ 32 รายการ ที่รัฐบาลไทยส่งหนังสือไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ แบบความร่วมมือรัฐต่อรัฐ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 โดยหน่วยสืบสวนเพิ่มความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Homeland Security
Investigations: HSI) และอัยการกลางนำขึ้นสู่ศาล ขอหมายเรียก โดยอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับพิพิธภัณฑ์ 7 แห่ง
และเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า โบราณวัตถุชุดนี้ เป็นการซื้อหาจากชาวบ้านที่ลักลอบขุดและส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ส่งไปให้ บริษัทที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งยังลุ้นกันว่า สัมฤทธิ์ประโคนชัยจะได้กลับคืนไทยหรือไม่นั้น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ ‘นายสมัคร’ อายุ 83 ปี ชาว ต.สำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็น 1 ใน 6 คน ที่เป็นคนขุดพบโพธิสัตว์ประโคนชัย ที่ยังมีชีวิตอยู่
นายสมัคร เล่าว่า ตอนนั้นประมาณปี 2516-2517 มีคนชวนไปขุดหาสมบัติที่เขาปลายบัด บ้านโคกเมือง ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ไปขุดตอนแรกไม่พบอะไร หลังจากนั้นตนฝันว่าให้ไปขุดอีกจุดหนึ่ง ตนกับพวกรวม 6 คน ในจำนวนนี้มีภรรยาตนไปด้วย ไปขุดตามจุดที่ฝัน ปรากฏว่าพบของโบราณเป็นจำนวนมาก จึงนำมาเก็บไว้ที่บ้าน
ต่อมามีเสี่ยในพื้นที่มาขอซื้อทั้งหมด เป็นเงิน 110,000 บาท แต่พวกตนไม่ขายเพราะไปกันหลายคน สุดท้ายเสี่ยคนดังกล่าวมาขู่ว่า ถ้าไม่ขายจะแจ้งตำรวจ พวกตนจึงยอมขายให้ แล้วนำเงินมาแบ่งกัน หลังจากนั้นก็ไม่ทราบข่าวเลยว่าสมบัติที่ขุดได้ไปอยู่ที่ไหน แต่ลูกสาวได้พูดถึงเสมอ
พอมาทราบข่าวว่าอยู่ต่างประเทศ และมีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้กลับคืนมา ก็รู้สึกดีใจมากเพราะเป็นสมบัติของคนไทย ยอมรับว่าสมัยก่อนไม่มีความรู้ และไม่คิดว่าเขาจะขายไปยังต่างประเทศ
ถ้าได้โพธิสัตว์ประโคนชัยคืนมา อยากจะดูด้วยตาตัวเองว่าใช่หรือไม่
ขณะที่ น.ส.พลอยไพลิน ายุ 37 ปี ลูกสาวนายสมัคร เล่าว่า ตั้งแต่ตนยังเล็ก พ่อจะเล่าเรื่องที่ไปขุดสมบัติให้ฟังมาโดยตลอด จนมีความรู้สึกอยากเห็นและอยากได้กลับมายังประเทศไทย ส่วนตัวเชื่อว่าพ่อมีบุญมากกว่าเพื่อนที่ไปขุดด้วยกัน เพราะทุกคนขุดไม่เจอ แต่พ่อขุดเจอ ถ้าโบราณวัตถุชิ้นดังกล่าวกลับมาถึงไทยจริงๆ ตนก็จะพาพ่อไปชม