ย่าร้องสื่อ หลานชายวัยแรกเกิด นอน รพ. มา 2 เดือน หมอบอกอาการดีขึ้น หวังพาหลานกลับบ้าน แต่สุดท้ายหลานเสียชีวิต

หญิงรายหนึ่งได้ร้องผ่านสื่อ หลังลูกสะใภ้เข้ารับการผ่าคลอดที่ รพ.ดังในจังหวัด แต่หลานชายต้องอยู่ห้องปลอดเชื้อ ผ่านมา 2 เดือน หลานชายเสียชีวิต ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าหมอบอกว่าดีขึ้นแล้ว

ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี พบหญิงผู้ร้องเรียน ซึ่งได้เปิดเผยว่า ลูกสะใภ้ตนตั้งครรภ์ได้ 7 เดือน วันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมาลูกสะใภ้เจ็บท้องน้ำคร่ำเดิน จึงได้พาลูกสะใภ้ไปที่ รพ.แห่งหนึ่งในพื้นที่บางบัวทอง ต่อมาทาง รพ. ได้ออกมาแจ้งว่า เด็กในท้องไม่กลับหัว ต้องส่งตัวไปอีก รพ.หนึ่งในตัวจังหวัด

ช่วงเช้าของวันที่ 23 มี.ค. ลูกสะใภ้ผ่าคลอดที่ รพ.แห่งที่สอง ได้ลูกชายน้ำหนัก 2.2 กิโลกรัม หลานชายตนน่าตาน่ารัก ลูกสะใภ้อยู่ที่ รพ. ไม่กี่วันก็กลับบ้าน แต่หลานตนต้องอยู่ในห้องปลอดเชื้อที่ รพ. ซึ่งทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าหลานชายกินนมไม่ได้ ลำใส้มีปัญหา ต้องผ่าตัด

ตอนหลานรักษาที่ รพ. แห่งที่สอง หมอได้แจ้งตนว่าให้ทำใจ หากรักษาที่ รพ. นี่ไม่รอด จะไปรักษาที่อื่นก็ไม่รอด ตนบอกหมอไปว่า หมอสามารถบอกตนและบอกญาติๆ ได้ไหมว่าที่ไหนมียาดีๆ พอตนพูดจบหมอก็แนะนำคอร์สรักษาราคา 20,000 บาท ตนก็ตอบตกลงทันที และหมอก็ให้ซื้อคอร์สรักษา 2,000-3,000 บาท ซื้อจนครบคอร์ส ทางหมอบอกว่าอาการดีขึ้น ตอบสนองดี จากนั้นหมอบอกว่าจะเปลี่ยนยา ตนก็โอเค

เมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมา ลูกชายและลูกสะใภ้ไปเยี่ยมเด็กที่ รพ. หมอก็ได้ขอเบอร์ลูกชายไป เพื่อโทรคุยเรื่องเอกสารการย้าย รพ. ซึ่งยาจะแพงแค่ไหนตนก็สู้ หากทำให้หลานดีขึ้น ตนคุยกับหมอผ่านไปสักพักตนก็เอะใจ นี่ไม่ใช่หมอคนเดิม ตนจึงถามไปว่าใช่หมอคนเดิมหรือไม่ หมอก็ตอบว่าใช่ แต่ตนคิดไม่ใช่

เมื่อวานที่ผ่านมา หมอได้โทรมาสอบถามตนว่า สะดวกเข้ามาคุยกับหมอผ่าตัดไหม เพราะจะผ่าตัดลำไส้อีกรอบ ตนก็กำลังจะไป ก็เกิดเหตุวุ่นวาย เมื่อ รพ. แจ้งว่าหลานตนอาการหนักขึ้น และหมอก็ขอเจาะเลือดที่เท้าอีกครั้ง ตนเข็ดจากครั้งแรกที่เจาะไปแล้วติดเชื้อราในกระแสเลือดและติดเชื้อราที่ปอด ตนไม่อยากให้เจาะแล้ว จึงถามไปตรงๆ ว่าคุณหมอรับรองหรือไม่ หมอก็ตอบว่ารับรอง แต่อาจจะ 30% ที่จะติดแบบเดิม ตนจึงไม่ยอมให้เจาะ หากจะเจาะจริงๆ ก็ขอให้แม่นยำ หรือให้หมอเฉพาะทางมาทำ หมอก็บอกว่าได้ จะทำให้

เมื่อวานไหนบอกว่าดีแล้ว แต่วันนี้กลับมาติดเชื้ออีก ลูกชายตนก็ร้องไห้ ไหนคุณหมอบอกว่าอาจจะไม่ติดเลย 20-30% แต่นี่มันปางตาย ตนก็รับไม่ได้ คำพูดกับการกระทำคุณหมอไม่เหมือนกัน

การที่คุณหมอได้สื่อสารกับญาติของผู้ป่วยว่าอาการดีขึ้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่และคุณย่ารู้สึกว่าคุณหมอรักษาดี และดีใจมากที่ยาที่เราได้เสียเงินไปโดยที่เบิกไม่ได้ ตอบสนองดีมาก

แต่พอผลลัพธ์บอกมาบอกว่าเด็กที่ได้รับยาไปตอบสนองไม่ได้ เด็กถึงช็อก น็อกวูบไปชั่วขณะ หยุดหายใจสิบวินาที หมอก็เรียกพ่อกับแม่ให้ไปด่วนตอนกลางคืน แล้วก็พูดรายละเอียด ให้เซ็นเอกสาร คือเด็กมันตกใจ จึงเซ็นเพื่อช่วยชีวิตหลาน ผลปรากฏว่าหมอไปปั๊มแล้วก็ใช้เครื่องไฟฟ้ากระตุก

หมอไม่ให้ตนเข้าไป เพราะตนเพิ่งจะหายจากไข้หวัด รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุแบบนี้ เพราะตอนแรกดีใจที่หลานจะได้กลับ แต่กลับกลายเป็นต้องเสียใจที่หลานมาเสียชีวิต

อยากให้เป็นอุทาหรณ์ การที่สื่อสารให้ญาติผู้ป่วยทราบว่า ลูกหลานคุณดี แต่แล้วมาเสียชีวิตอย่างนี้ อย่าสื่อออกมาเลย หายก็หาย ไม่หายก็ไม่หาย บอกตรงๆ เลย อย่าทำอย่างนี้กับผู้ป่วยคนอื่น สิ่งที่คุณหมอพูดมาไม่ได้มีความจริงใจกับญาติผู้ป่วยเลย ตนรอที่หลานจะได้กลับบ้าน เพราะหมอบอกว่าอาการดีขึ้น ตนได้เตรียมของไว้ แต่สุดท้ายหลานอาการทรุดลง และเสียชีวิตตอน 6 โมงเช้าที่ผ่านมา หลานต้องพรากออกจากอกพ่อแม่ตั้งแต่คลอด ยังไม่มีใครได้กอดลูกหลานเลย มาได้อุ้มได้กอดในวันที่ลูกเสีย ลูกหลานใครใครก็รัก

ตนรู้สึกเสียใจในการกระทำของคุณหมอ ปลอบประโลมพูดดีว่าหลานจะได้กลับบ้าน บอกว่าฉีดยาก็ไม่ติดเชื้อ แต่กลับย้อนศรทั้งหมด ตอนนี้ไม่สามารถที่จะเอาเด็กกลับมาได้ ขอให้เป็นครั้งสุดท้าย อย่าให้เกิดกับครอบครัวคนอื่นอีก