เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางคนที ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ต.บางพรม อ.บางคนที จ.สมุทรสงคราม จึงประสานรถดับเพลิง อบต.บางพรม และพื้นที่ใกล้เคียง รวม 4 คัน เข้าควบคุมเพลิงที่กำลังโหมลุกไหม้ บ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ แต่เนื่องจากภายในบ้าน มีว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นศูนย์อนุรักษ์การทำว่าวจุฬาและว่าวไทย จึงทำให้เป็นเชื้อเพลิงอย่างดี ทำให้เพลิงได้เผาบ้านวอดเกือบทั้งหลัง เจ้าหน้าที่ใช้เวลาควบคุมเพลิงประมาณ 30 นาทีจึงควบคุมเพลิงไว้ได้
ชาย อายุ 79 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นปราชญ์ชาวบ้านด้านการทำว่าวจุฬาและว่าวไทย เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนนอนอยู่ในบ้าน จู่ ๆ หลานพังประตูเข้ามาช่วย และถือกระป๋องน้ำขึ้นไปดับไฟ แต่เอาไม่อยู่ไฟไหม้หมดแล้ว ที่ตนเสียดายคือว่าวจำนวนมากที่ตนทำสะสมไว้มาทั้งชีวิตกว่า 100 ตัว ที่ไฟไหม้ไปหมด
ด้านชาย อายุ 26 ปี หลานชายเจ้าของบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ยินเสียงดังคล้ายอะไรแตก จึงเดินออกมาดู ก็พบว่ามีไฟหยดลงมาจากชั้นบน ตนจึงเรียกคนที่บ้านให้หนีออกมาจากบ้าน ขณะเดียวกันตนก็รีบวิ่งขึ้นไปพังประตูห้องนอนชั้น 2 เข้าไปก็พบว่าเปลวเพลิงได้ลูกไหม้รุนแรงจนถึงเพดาน ตนพยายามไปดับไฟแต่ไม่ไหวจริงๆ ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บจากการพังประตูห้องทำให้กระจกบาดมือ
ขณะที่ เด็กหญิง อายุ 8 ปี หลานสาวเจ้าของบ้านกล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุตนกำลังนั่งช่วยคุณย่า(เรียกว่าแม่) เย็บกระทง จู่ ๆก็ได้ยินเสียงระเบิด ปุ ๆ ในบ้าน จึงรีบวิ่งเข้าไปดูก็เห็นเพลิงไหม้จากบนบ้าน จึงรีบมาเรียกย่า จะเปิดน้ำดับไฟแต่ก็ไม่ทัน ไฟไหม้ชุดนักเรียนและเครื่องเขียนของตนที่อยู่ในบ้าน เหลือชุดนักเรียนที่ตากไว้เพียงชุดเดียว ตนอยากไปโรงเรียนอยากมีชุดนักเรียนใส่
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าบ้านหลังเกิดเหตุมี ชาย อายุ 79 ปี เป็นเจ้าของบ้าน อาศัยอยู่กับภรรยา ลูกชายและหลานรวม 9 ชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า สาเหตุเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และอยู่ระหว่างประเมินความเสียหาย
ต่อมาพระเมธีวัชรประชาทร ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดอินทาราม ได้มอบให้ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ลงพื้นที่มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นพร้อมข้าวสาร ให้กำลังใจกับผู้ประสบภัย