มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

ตำรวจยันไม่ได้รุมกระทืบพ่อค้าไก่ปิ้ง ชี้มีแผลอยู่แล้ว แถมตอนอยู่โรงพักยังวิ่งหนีจนชนขอบประตู


ภูมิภาค
30 มิถุนายน 2567808
ตำรวจยันไม่ได้รุมกระทืบพ่อค้าไก่ปิ้ง ชี้มีแผลอยู่แล้ว แถมตอนอยู่โรงพักยังวิ่งหนีจนชนขอบประตู

จากกรณีครอบครัวชาย อายุ 42 ปี พ่อค้าไก่ปิ้ง ร้องเรียนว่าถูกตำรวจ สภ.หนองหิน จำนวน 5 นาย จับกุมตัวเมาแล้วขับ นำตัวไปซ้อมที่โรงพักจนได้รับบาดเจ็บ พร้อมทองรูปพรรณ 1 บาท เงินสด 1,000 บาท หายไป จากนั้นนำตัวมาส่งที่บ้าน ลูกชายรีบพาพ่อไปรักษาที่ รพ.หนองหิน แต่โรงพยาบาลไม่รับรักษา

 

ล่าสุด สภ.หนองหิน สอบถามตำรวจทั้ง 5 นาย ที่ถูกกล่าวหา โดยหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหา เล่าว่า วันดังกล่าวตนออกขี่รถจักรยานยนต์ตรวจพื้นที่กับคู่สาย เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บขี่รถมาด้วยความเมา จึงเรียกตรวจพบว่าอยู่ในอาการที่เมา จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.หนองหิน แต่ผู้บาดเจ็บพยายามขัดขืน จึงเรียกรถกระบะสายตรวจมารับ โดยมีตำรวจมาด้วยกัน 3 นาย เมื่อมาถึงโรงพักพาเข้าไปที่ห้องจราจร แต่ผู้บาดเจ็บมีอาการเมา ด่าทอเจ้าหน้าที่ และทำลายข้าวของ จึงได้ควบคุมตัวและใส่กุญแจมือ จากนั้นก็ไม่ยอมหยุดด่าตำรวจและกัดมือของ ส.ต.ท.จนบาดเจ็บ จากนั้นพยายามหนีออกจากห้องจนหัวไปฟาดกับโต๊ะ และวิ่งออกไปที่ประตูจนศีรษะกระแทกกับประตู โดยที่ตำรวจในห้องไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

ด้าน ผกก.สภ.หนองหิน เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่า วันที่ 26 มิ.ย.เวลาประมาณ 09.00 น. ผู้บาดเจ็บได้เข้าทำการรักษาที่โรงพยาบาลหนองหิน  ให้ประวัติกับพยาบาลว่า มีไม้ดีดฟาดใส่ศีรษะ ลำตัวด้านขวา และไหล่ขวา มีแผลที่คิ้วขวา มีแผลฉีกขาดยาวประมาณ 3 ซม.ลึก 0.3 ซม. และปวดบวมไหล่ขวา พยาบาลจึงได้เย็บบริเวณคิ้ว สอบถามญาติว่าเหตุดังกล่าวไม่ใช่ไม้ดีดใส่ แต่เป็นผู้บาดเจ็บกับภรรยาทะเลาะกัน และได้ทำร้ายร่างกายกัน

 

ต่อมา วันที่ 28 มิ.ย. ผู้บาดเจ็บได้ขี่จักรยานยนต์ไปตามหาภรรยาที่บ้านพี่ภรรยา ขากลับเจอด่านตรวจ ถูกตำรวจจับกุมเมาแล้วขับ จึงให้ไปเสียค่าปรับ 2,000 บาท โดยที่ตำรวจที่จับกุมยังเห็นใบหน้าของผู้บาดเจ็บมีรอบฟกช้ำอยู่แล้ว กระทั่งตอนกลางคืน สายตรวจออกตรวจในเขตพื้นที่เทศบาลบริเวณ หมู่ 4 ต.หนองหิน พบชายนั่งอยู่บนรถกลางถนนจึงได้จอดรถ สอบถามว่าเป็นอะไรมายังไง ทำไมถึงจอดรถกลางถนน

 

ผู้บาดเจ็บก็พูดจาไม่รู้เรื่อง แต่จับใจความได้ว่า มีปัญหากับภรรยา ทะเลาะกัน ลงไม้ลงมือมีแผลบริเวณใบหน้าหลายแห่ง ภรรยาเอาไม้ฟาดตัวเองแล้วก็หนีกลับบ้าน จึงกินเหล้าจนเมาแล้วออกมาจากบ้าน เพื่อจะไปตามเมีย สายตรวจจึงได้เตือนว่า เมาแล้วกลับไปนอนพักที่บ้าน เมามากแล้วเดี๋ยวขับรถไปชนคนอื่น แล้วสายตรวจก็ขับรถผ่านไป สักพักวนกลับมา ก็เจอผู้บาดเจ็บขี่รถเข้าไปในซอยลึกกว่าเดิม สายตรวจจึงได้เข้าไปเรียกให้จอดรถ และได้บอกให้ลงรถและได้ทำการขออนุญาตตรวจค้น

ผู้บาดเจ็บตะโกนโวยวายจนชาวบ้านออกมาดู สายตรวจได้สอบถามข้างบ้าน และผู้คนในซอยว่า ปกติผู้บาดเจ็บเป็นแบบนี้ไหม ชาวบ้านให้ข้อมูลว่า เวลาเมาชอบขับรถออกมาโวยวาย ก่อกวนคนทั้งซอย ข้างบ้านชินกับพฤติกรรมแบบนี้แล้ว สายตรวจจึงได้เชิญตัวไปที่โรงพัก เพื่อที่จะวัดปริมาณแอลกอฮอล์ แต่ผู้บาดเจ็บไม่ยินยอม พยายามขัดขืนต่อสู้เจ้าหน้าที่ สายตรวจจึงได้ขอกำลังและรถยนต์นำตัวไปที่โรงพัก

 

พอนำตัวไปถึงโรงพัก ผู้บาดเจ็บลงจากรถได้โวยวายด่าทอเจ้าหน้าที่เสียงดัง จึงได้นำตัวเข้าห้องจราจรเพื่อจะได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์แต่ก็ไม่ยินยอม และได้พยายามจะหลบหนี สายตรวจจึงได้ควบคุมตัว ระหว่างนั้นผู้บาดเจ็บก็ทำลายข้าวของภายในห้องจราจรสายตรวจ จึงทำการควบคุมตัว ผู้บาดเจ็บขัดขืนต่อสู้ ทำร้ายเจ้าหน้าที่ กัดนิ้ว ดึงเสื้อ ดึงนาฬิกาจนขาด สายตรวจจึงได้ควบคุมตามระดับกำลังที่ผู้บาดเจ็บแสดงออกมา ระหว่างการควบคุมตัว ผู้บาดเจ็บได้ชกและถีบเจ้าหน้าที่ และจะวิ่งออกจากห้องจราจร สายตรวจได้เข้าไปควบคุมตัวและได้เสียหลักล้มพุ่งเข้าไปบริเวณใต้โต๊ะ สายตรวจได้จับกดลงพื้น ควบคุมตัวเพื่อใส่เครื่องมือพันธนาการไว้ และนำตัวไปนั่งที่เก้าอี้เพื่อสงบสติอารมณ์ แต่ผู้บาดเจ็บพยายามลุกจากเก้าอี้และจะวิ่งออกจากห้องจราจร จนชนกับขอบประตู ทำให้บาดแผลบริเวณหน้าที่มีมาก่อนแล้วเปิดออก หลังจากนั้นร้อยเวรสอบสวนได้สอบถามผู้บาดเจ็บ และให้สายตรวจไปส่งที่บ้าน แจ้งให้ญาติทราบว่าก่อนที่จะนำมาส่งบ้านเกิดอะไรขึ้น และทางญาติบอกว่าพฤติกรรมหลังจากดื่มสุราเข้าไปจะเป็นแบบนี้ตลอด

 

ด้าน ผอ.รพ.หนองหิน เปิดเผยว่า เวรเช้าวันที่ 29 มิ.ย. ที่เจอคนไข้เดินมาที่โรงพยาบาล มีอาการเจ็บหน้าอก จึงทำการตรวจพบว่ามีลมรั่วในปอด จึงรีบทำการรักษาโดยการเจาะปอด จากนั้นรีบนำตัวส่ง รพ.เลย  ส่วนในรายละเอียดที่ได้รับแจ้งมาว่าคนไข้มาครั้งหนึ่งแล้วกลางดึกคืนวันที่ 28 มิ.ย.ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน ถ้าคนไข้มาแล้วไม่ได้รับการรักษา อันดับแรกทางโรงพยาบาลต้องขอโทษก่อน ถือว่าเป็นการรักษาที่ล่าช้า และเย็นวันที่ 28 มิ.ย.67 ค่อนข้างยุ่ง มีอุบัติเหตุฉุกเฉิน มีแพทย์คนเดียวและพยาบาลจำนวนไม่เยอะ และมีการส่งตัวคนไข้ฉุกเฉินไปโรงพยาบาลอุดรธานี ระดับการคัดแยกผู้ป่วยฉุกเฉินอาจมีความผิดพลาด เนื่องจากคนไข้เดินพูดได้อย่างปกติ ซึ่งเป็นการประเมินเบื้องต้นว่าปกติด ทางโรงพยาบาลก็น้อมรับและขอโทษญาติคนไข้ด้วย


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ตำรวจ#รุมกระทืบ#ทำร้าย#โหนกระแส