จากกรณีที่เพจ ตลาดล่างอัปเกรด ได้โพสต์ข้อความว่า “ไล่ตบเยาวชน อัดคลิป ไลฟ์ ตบไม่กลัวกฎหมาย หมั่นไส้ใครก็ตบ อยากตบใครก็แค่อ้างว่าคนนั้นมายืมเงิน ปล่อยดอกโหด ส่วนใหญ่คนที่โดนมีแต่เด็ก พร้อมประกาศ ตบ จ่าย จบ มีเงิน หนองแค สระบุรี ส่งเข้าประกวด” ต่อมา หญิงที่ถูกกล่าวหาชี้แจงว่า ตนเองไม่ใช่เจ้าแม่เงินกู้ คลิปที่ปรากฏเป็นการท้าทายกัน ส่วนกรณีเก่าๆ นั้นมีการดำเนินคดีไปแล้ว ตามที่ได้เสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ‘ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์’ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ได้พากลุ่มเด็กและเยาวชนหญิง อายุ 13-16 ปี ที่ตกเป็นเหยื่อของหญิงคนดังกล่าว ไปติดตามทวงถามความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี
เหยื่อรายหนึ่ง เล่าว่า ถูกสาวขาใหญ่คิดดอกเบี้ยสุดโหดกว่า 300 เปอร์เซ็นต์ เช่น ยืมเงินไป 1,300 บาท แต่รวมแล้วให้ทยอยจ่ายต้นจ่ายดอกเบี้ยคืน รวมเป็นเงินกว่า 4,300 บาท เป็นต้น ถ้าลูกหนี้คนไหนไม่จ่าย ก็จะเอาดอกไปทบต้น และไปดักทำร้าย เลือกทำกับเด็กที่ไม่มีทางสู้ มีผู้เสียหายแล้วไม่น้อยกว่า 15 คน
จากนั้น ตำรวจชุดสืบสวน สภ.หนองแค ได้ตามไปจับกุมตัวหญิงคนดังกล่าวได้ที่บ้านพัก ที่อยู่รอยต่อ จ.สระบุรี กับ จ.นครนายก แจ้งข้อกล่าวหา 4 ข้อหา ได้แก่ ค้าประเวณี, ปล่อยเงินกู้นอกระบบ, ทำร้ายร่างกาย และกระทำความรุนแรงกับเด็ก โดยระหว่างนำตัวไปที่โรงพัก ผู้ต้องหาไม่ได้พูดอะไร
เด็กหญิง อายุ 13 ปี เล่าว่า ผู้ต้องหาได้ทักมาถามตนว่า “ติดอะไรกับกู มีอะไรกับกูหรือเปล่า” ซึ่งตนก็ตอบไปว่าไม่ติดอะไร และไม่เคยที่จะนินทาลับหลัง ตนเคยถูกเขาเอานกต่อมาลากตนไปหน้าซอยบ้าน โดยหลอกว่าจะให้ตนไปขอโทษ แต่พอเดินเข้าไปขอโทษ ก็ถูกผู้ต้องหาวิ่งมากระชากหัวจนล้มหัวฟาดกับโต๊ะปูน ปูดบวมนอนไม่ได้หลายวัน และยังโดนต่อยมาที่ใบหน้าจนปากแตก แก้มช้ำ ตาช้ำ
หลังจากนั้นผู้ต้องหายังได้ชวนตนไปค้าประเวณี โดยทักแชตมาว่า “พี่มีคนที่จะแนะนำให้ ได้เงินดีนะ” ซึ่งตนตอบปฏิเสธไป
ผู้ต้องหามีพฤติกรรมชักชวนเด็กๆ ไปค้าประเวณีหลายคนมาก บางคนก็ตกเป็นเหยื่อค้าประเวณี แลผู้ตอ้งหาก็จะเก็บเงินไปจนหมด ตนคิดว่าเขาเป็นคนที่น่ากลัวมาก ตอนนี้รู้สึกสบายใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับได้ หนองแคจะได้อยู่สบายขึ้น
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า วันนี้ตนมาตามความคืบหน้าของคดี เนื่องจากทราบว่ามีการทำร้ายร่างกายกันจนดั้งจมูกหัก จะมาจ่ายจบไม่ได้ ต้องมีการฟ้องศาล และขอให้พนักงานสอบสวนส่งตัวเด็กที่ถูกกระทำไปตรวจร่างกาย เพื่อที่จะแจ้งข้อหาเพิ่ม
ประเด็นที่ตนตกใจคือ กรณีที่มีเด็กพูดว่ามีการค้าประเวณีเด็ก และเมื่อสอบถามกับผู้ต้องหา เขาก็ยอมรับว่ามี จึงอยากติดตามดูว่ามีผู้ถูกกระทำอีกกี่คน ซึ่งเขามีการแนะนำเด็กๆ ว่าถ้าคนไหนไม่มีเงิน ก็จะแนะนำให้ไปขายบริการ มีการแนะนำผู้ชายให้ แล้วก็จะได้เงินมา เด็กๆ ที่มาร้องเรียนได้รับการสื่อสารเหมือนกันหมด
ส่วนที่มีการทำร้ายร่างกายกันนั้น เกิดจากประเด็นอื่น ซึ่งยังต้องคุยกับเด็กๆ แต่การที่ำคลิปเข้ามาเผยแพร่ทางโซเชียลนั้น ผิดพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กฯ แน่นอน
เด็กที่ถูกกระทำมีทั้งหมด 15 ราย ที่จะต้องทยอยกันมาแจ้งความในข้อหาทำร้ายร่างกาย, ค้าประเวณีเด็ก, พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กฯ และเก็บดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด รวม 4 ข้อกล่าวหา ซึ่งทางผู้ถูกกล่าวหานั้นจะยอมรับเฉพาะที่มีหลักฐาน ข้อมูลที่ถูกกล่าวหาจะไม่ยอมรับ
ผู้ที่ถ่ายคลิปและไปร่วมกระทำกับผู้ต้องหา ก็จะถูกเจ้าหน้าที่เรียกตัวมาสอบสวนด้วย หลังจากเจ้าหน้าที่แจ้งให้ประชาชนที่เป็นคู่กรณีกับผู้ต้องหาเข้ามาแจ้งความนั้น ก็จะสร้างความมั่นใจให้กับเยาวชน และคนที่ตกเป็นเหยื่อ