เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมเจ้าหน้าที่หลายฝ่าย ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังจากชาวบ้านในพื้นที่รวมตัวกันขับไล่ หญิงชาวกัมพูชา โดยกล่าวหาว่ามีพฤติกรรมเป็นสายลับ และได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับกิจการทหารในเหตุการณ์ปะทะระหว่างไทย-กัมพูชา สร้างความไม่พอใจและความหวาดระแวงให้กับคนในพื้นที่
เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวชาวบ้านและผู้นำชุมชนเข้าหารือ เพื่อสร้างความเข้าใจ พร้อมดำเนินการตรวจสอบสถานะการเข้าเมืองของบุคคลกลุ่มดังกล่าว เบื้องต้นพบว่า หญิงรายนี้อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จึงถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง ในขณะที่แม่ น้องชาย และลูกเขย ของหญิงรายนี้ถูกดำเนินคดีในข้อหาหลบหนีเข้าเมือง
ส่วนหญิงชาวกัมพูชาที่ถูกขับไล่ กล่าวว่า "แฟนหนูก็อยู่หน้าบ้าน ในชุดเจ้าหน้าที่ป่าไม้ หนูไม่ออก พอดีหนูก็มีที่ มีบ้านอยู่ที่นี่ จะออกทำไม เพราะหนูก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ลูกหลานหนูที่เข้ามาอยู่ในไทยด้วย ก็เข้ามาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย มีพาสปอร์ตถูกต้อง หนูมาอยู่ที่นี่ 27 ปีแล้ว ตอนนี้ลูกๆ ก็มีครอบครัว มีบัตร มีพาสปอร์ตทุกคน พอดีลูกโต เขาก็ได้สามีคนไทยกันหมดแล้ว ยอมให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทุกอย่าง เพราะมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด"
จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.ด่านช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ ได้นำตัวหญิงรายนี้พร้อมกับลูกชาย ลูกสาว และหลาน รวม 7 คน มาที่สถานีตำรวจภูธรภูสิงห์ เพื่อลงบันทึกการจับกุม สอบสวนบุคคลทั้ง 7 คน โดยแยกแจ้งข้อหา คือ อยู่อาศัยในราชอาณาจักรไทยเกินกว่ากำหนด ใบอนุญาตสิ้นสุด 8 พฤษภาคม 2566 จำนวน 2 ราย คือหญิงรายนี้พร้อมลูกสาว 1 คน และคดีหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย 5 ราย สอบสวนเตรียมส่งตัวฟ้องศาล ผลักดันออกนอกประเทศไทยต่อไป