ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดสุรินทร์รายงานว่า ได้รับคลิปจากชาวบ้านที่อ้างว่าพบดวงไฟปริศนาสีแดง ลอยอยู่เหนือป่าช้า และสามารถถ่ายคลิปไว้ได้ จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังผู้ที่ส่งคลิปดังกล่าวเข้ามาเพื่อสอบถามรายละเอียด ก่อนที่จะรุดไปยังจุดที่อ้างว่าพบดวงไปปริศนาสีแดง
โดยจุดดังกล่าวเป็นป่าช้าเก่า อยู่ในเขตพื้นที่ บ.กระวัน ต.บ้านไทร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ซึ่งถ้ามองด้วยตาเปล่า ก็เหมือนป่าทั่วไปตามพื้นที่ต่างจังหวัด และคาดว่าป่าแห่งนี้น่าจะมีพื้นที่ประมาณ 20-30 ไร่ ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พบกับหญิง อายุ 43 ปี ผู้ที่ถ่ายคลิป ให้ข้อมูลต่อผู้สื่อข่าวว่า ช่วงเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ของวันที่ 6 พ.ค.ที่ผ่านมา ตนกับสามีขับรถผ่านมาทางนี้ พอมาถึงจุดนี้ ตนก็บังเอิญเหลือบไปเห็นแสงไฟสีแดงกะพริบ ตอนแรกก็สงสัยว่ามันคือแสงอะไร ก่อนจะบอกให้สามีจอดรถดู
จากนั้นก็เห็นแสงไฟปริศนาลอยขึ้นลง ความสูงประมาณ 15-20 เมตร ตนกับสามีตัดสินใจเฝ้าดูอยู่ประมาณ 1 ชม.แล้วก็เห็นแสงไฟนั้นพุ่งลงที่พื้น แล้วหายไปเลย ป่าแห่งนี้มันคือป่าช้าเก่า ที่สมัยก่อนใช้ในการเผาศพและฝังศพ ส่วนตัวก็เคยเจอเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกับเหตุการณ์นี้มาเหมือนกัน แต่มันนานมากแล้ว ตอนนั้นเห็นแค่แสงไฟจ้า ไม่ได้เห็นเป็นดวงไฟที่วิ่งขึ้นวิ่งลงแบบนี้
ด้านชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ตนไม่เคยเจอแต่ก็ได้ยินชาวบ้านในพื้นที่ลือกันหนาหูว่า เวลาขับรถผ่านป่าช้าแห่งนี้ บ้างก็ได้ยินเสียงร้องไห้ดังออกมาจากในป่า บ้างก็เห็นดวงไฟขนาดใหญ่พุ่งลงจากท้องฟ้า เข้ากลางป่า ซึ่งสิ่งที่ชาวบ้านร่ำลือกันนั้นก็เพิ่งจะผ่านมาประมาณ 1 เดือนกว่าๆ นี่เอง ตนก็เชื่อว่าเรื่องแบบนี้มันมีอยู่จริง เพราะป่าแห่งนี้เป็นป่าช้าที่เก่าแก่มากๆ
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ทำการเดินสำรวจโดยรอบ ไม่พบว่ารอบป่าช้านั้นจะมีเสาสัญญาณโทรศัพท์ มีเพียงทุ่งนา และที่สำคัญ ผู้สื่อข่าวได้เดินสำรวจเข้าไปในบริเวณป่า ก็พบว่า ระหว่างทางเดินนั้น จะพบเศษซากของเจดีย์ที่ใช้สำหรับบรรจุอัฐิ และเศษซากของศาลพระภูมิที่ถูกทิ้งไว้จำนวนมาก