จากกรณีเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ที่ผ่านมา ชาย อายุ 33 ปี ชาวบ้านกอไผ่โทน ต.กกดู่ อ.เมืองเลย จ.เลย ได้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง ‘ร.ต.ต.ไพโรจน์’ รอง สวป.สภ.เมืองเลย เสียชีวิต ขณะเข้าตรวจค้นยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายในกระท่อมกลางสวนยางพารา บ้านกอไผ่โทน ก่อนที่คนร้ายจะหลบหนีเข้าไปในป่า หลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ระดมกำลังกว่า 200 นาย เร่งติดตามจับกุมตัว พร้อมทั้งตั้งด่านสกัดทุกจุดทุกเส้นทางตามแนวชายแดนไทย-สปป.ลาว ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
(อ่านข่าว : ผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด ยิง ‘ร.ต.ต.’ เสียชีวิต ก่อนหลบหนีเข้าสวนยาง เจ้าหน้าที่ระดมกำลังล่าตัว)
ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. วันที่ 16 เม.ย. ที่ผ่านมา ขณะเจ้าหน้าที่ ตำรวจ บก.สส.ภ.4 ได้ออกลาดตระเวนริมแม่น้ำเหือง เขตบ้านปากห้วย ม.7 ต.หนองผือ อ.ท่าลี่ จ.เลย พบร่างผู้เสียชีวิตลอยมาติดแก่ง อยู่บริเวณกลางแม่น้ำเหือง ชายแดนระหว่างไทย-สปป.ลาว ลักษณะการแต่งกายคล้ายกับคนร้ายที่ก่อเหตุยิง ร.ต.ต.ไพโรจน์ มีกระเป๋าคาดเอว ในกระเป๋ามีบัตรประชาชน ซึ่งพบว่าเป็นคนเดียวกับคนร้าย, ทอง 2 เส้น ไม่ทราบน้ำหนัก, ปืนขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก และเงินจำนวนหนึ่ง
จากสภาพร่าง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วหลายวัน เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำร่างไปชันสูตรอย่างละเอียดที่ รพ.เลย และเพื่อพิสูจน์ตัวบุคคลต่อไป
ขณะเดียวกัน ที่วัดศรีสุทธาวาส พระอารามหลวง (วัดเลยหลง) ได้มีพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร.ต.ต.ไพโรจน์ โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นประธานในพิธี
หลังเสร็จงานพิธี พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.ฉัตรชัย สุรเชษฐ์พงษ์ ผบช.ภ.4 ว่าพบผู้เสียชีวิตที่แม่น้ำ จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นผู้ต้องหาที่หลบหนีไป ในเบื้องต้นเรารับทราบเท่านี้ แต่ได้สั่งให้มีการตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพตามกฎหมายก่อน หลังจากนั้นจะเป็นขั้นตอนการดำเนินการสอบสวน
“ต้องพิสูจน์ว่าผู้เสียชีวิตเป็นใคร เป็นคนเดียวกันหรือไม่ เสียชีวิตด้วยสาเหตุอันใด หากเสียชีวิตผิดธรรมชาติก็ให้รู้ว่าด้วยอะไร และใครทำให้เสียชีวิต จากนั้นเมื่อพิสูจน์แล้วก็ค่อยว่าการตามกระบวนการสอบสวนต่อไป วันนี้ยังไม่มีความชัดเจนอะไร ขอตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง” ผบ.ตร. กล่าว