จากกรณี ชาย อายุ 33 ปี ถูกผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.เชียงราย อายุ 43 ปี ขับรถยนต์พุ่งชนท้ายจนเสียชีวิต ขณะปั่นจักรยานออกกำลังกายกับเพื่อนอีก 9-10 คน เหตุเกิดบนทางหลวงชนบทหมายเลข 1063 หมู่บ้านหนองบัวแดง ต.แม่ข้าวต้ม อ.เมืองเชียงราย เมื่อวันที่ 9 ต.ค. ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตเป็นเจ้าของคาเฟ่ใน ต.ท่าสุด และเป็นแชมป์ Mighty Mix Bartender and Barista Thailand 2023 ประเภท NAN DRIP BATTLE x HARIO และแชมป์ดริปกาแฟของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปี 2564 นั้น
ปัจจุบันผ่านมากว่า 2 เดือน ยังไม่มีการยื่นฟ้องต่ออัยการ และการเจรจาเยียวยาไม่มีความคืบหน้า ภรรยาและญาติๆ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเดินทางเข้าร้องทุกข์ที่สำนักงานอัยการจังหวัดเชียงราย
นายสมชาย จันทรประเทือง อัยการจังหวัดคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดี จ.เชียงราย พร้อมเจ้าหน้าที่ ได้รับเรื่องและแจ้งให้ญาติทราบว่า จนถึงเย็นวันที่ 17 ธ.ค. ทางพนักงานสอบสวนยังไม่ยื่นคดีนี้ต่อสำนักงานอัยการ แต่ตามกฎหมายนับตั้งมีคดี จะฝากขังได้ 84 วัน หรือ 7 ฝากขัง ดังนั้นยังถือว่าอยู่ในเกณฑ์ และพนักงานสอบสวนคงจะส่งเรื่องถึงอัยการตามกำหนด จากนั้นอัยการจะพิจารณาว่าจะส่งฟ้องศาลหรือไม่ต่อไป เบื้องต้นทราบว่าผู้ต้องหาได้ถูกดำเนินคดีข้อหาขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และหลบหนี
ส่วนเรื่องเงินเยียวยานั้น ผู้เสียหายจะได้รับจาก พ.ร.บ. ภาคบังคับและภาคสมัครใจ ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับค่าเสียหายที่คู่กรณีจะมอบให้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยบางคนแสดงความรับผิดชอบทันที แต่บางคนก็ไม่ทำเช่นนั้น ดังนั้น ผู้เสียหายสามารถฟ้องเรียกค่าสินไหมทดแทนได้โดยคำนวนจากการสูญเสียผู้เสียชีวิต เช่น ค่าเลี้ยงดูพ่อแม่ ภรรยา ค่าขาดงาน กิจการร้านกาแฟ รายได้ตามปกติ ฯลฯ
แม้เรื่องนี้จะยังไม่ถึงอัยการ แต่ก็จะให้ผู้เสียหายได้บันทึกปากคำ และจะมีหนังสือไปถึงผู้ต้องหาเชิญไปสอบถาม ก่อนจะให้ทั้งสองฝ่ายเจรจากัน หากตกลงกันได้ก็จะบันทึกไว้ โดยฝ่ายเจ้าทุกข์ควรเสนอให้อีกฝ่ายมีการค้ำประกันด้วย เพราะจะต้องนำบันทึกนี้เสนอต่อศาลเพื่อเป็นหลักประกัน
คาดว่าผู้ต้องหาจะไปพบอัยการภายในสิ้นเดือน ธ.ค. นี้ ซึ่งในขั้นตอนนี้ถือว่าไม่ซ้ำซ้อนกับคดีอาญา และยืนยันว่าในชั้นอัยการจะไม่มีการช่วยเหลือวิ่งเต้นใดๆ
ทางอัยการฯ ได้ยกตัวอย่างคดีที่ผู้ก่อเหตุเป็นครูเหมือนกัน ขับรถชนคนแต่กลับไม่เยียวยาต่อผู้เสียหาย และผลักภาระให้กับ พ.ร.บ.-ประกันฯ ปรากฏว่าเมื่อถึงชั้นศาล ได้พิจารณาว่าไม่มีความรับผิดชอบตั้งแต่ต้น จึงลงโทษจำคุกโดยไม่รอลงอาญา ในชั้นอุทธรณ์จึงมีท่าทีที่เปลี่ยนไป แต่ถือว่าสำนึกเมื่อสายแล้ว และโอกาสที่จะถูกรอลงอาญาก็มีน้อย
ทั้งนี้ มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สภ.บ้านดู่ จ.เชียงราย ได้ไปดูสถานที่เกิดเหตุตั้งแต่ต้น และะชุดสืบสวนสืบทราบว่าหลังเกิดเหตุ 1 วัน รถยนต์ที่ชนนั้นถูกขับไปจอดอยู่ที่บ้านไม่มีเลขที่ ต.รอบเวียง อ.เมืองเชียงราย เจ้าหน้าที่จึงตามไปยึดไว้เป็นของกลาง ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินทางไปแสดงตัวต่อพนักงานสอบสวนในวันเดียวกัน และถูกดำเนินคดีดังกล่าว