มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

สายข่าวแจ้ง "น้ำ" ข้ามไปฝั่งเพื่อนบ้านแล้ว ผู้ต้องหาไม่มีใครซัดทอด "มุ้ย" ครอบครัว "ดีเจเตเต้" ผวาเรื่องความปลอดภัย


ข่าวด่วน
19 พฤษภาคม 25682,197
สายข่าวแจ้ง "น้ำ" ข้ามไปฝั่งเพื่อนบ้านแล้ว ผู้ต้องหาไม่มีใครซัดทอด "มุ้ย" ครอบครัว "ดีเจเตเต้" ผวาเรื่องความปลอดภัย

เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2568 รายการ โหนกระแส ได้เชิญแฟนสาวของดีเจเตเต้ และพ่อของดีเจเตเต้ มาร่วมพูดคุยเปิดใจ กรณีการเสียชีวิตของดีเจเตเต้ หรือ นายวราพงษ์ อายุ 33 ปี ซึ่งถูกอุ้มหายไปตั้งแต่เช้ามืดวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา ก่อนพบศพในป่าลึก บ้านทุ่งนานางหรอก หมู่ 3 ตำบลลาดหญ้า อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม โดยศพอยู่ในสภาพนอนตะแคง ถูกมัดมือไพล่หลังด้วยเชือกเปลสีเขียว และมีบาดแผลลักษณะคล้ายถูกยิงที่กระหม่อม 2 นัด 

 

นิด แฟนสาวของดีเจเตเต้ ให้ข้อมูลว่า ย้อนกลับไป คืนวันที่ 13 พ.ค. ดีเจเตเต้ รับงานเอนเตอร์เทนลูกค้าในผับแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นงานวันเกิดของหญิงสาวรายหนึ่ง ตามข้อมูลจากผู้จัดการผับ ดีเจเตเต้ไม่ได้เป็นพนักงานประจำของร้าน แต่รับงานเฉพาะกิจในลักษณะของเด็กเอ็นฯ หรือเอนเตอร์เทนลูกค้า โดยคืนวันเกิดเหตุ มีโต๊ะจัดเลี้ยงลูกค้าประมาณ 10 กว่าคน เป็นผู้หญิง 8 คน และผู้ชายอีก 4 คน ไม่มีเหตุการณ์ทะเลาะเบาะแว้งใด ๆ เกิดขึ้นภายในร้าน

 

แต่นิดตื่นมาช่วงตี 5 เตเต้น่าจะเลิกงานแล้ว แต่ยังไม่กลับบ้าน โทรหาไม่รับ จนช่วงสายก็ยังไม่รับ จึงไปขับรถตามหาทั้งที่ผับที่ไปทำงาน ไล่ดูมาตามทาง ว่าเขาจอดรถนอนหลับที่ไหนหรือไม่ ก็ไม่เจอ เพื่อนๆ ก็บอกว่าจะช่วยกันตามหา จนกระทั่งไปเจอรถของเตเต้ จอดไว้ที่ หมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ซอย 7 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี ใกล้กับบ้านของ “นางสาวนิตยา”

 

นิดเล่าอีกว่า เพิ่งมาทราบว่า เตเต้ แอบมีโลกอีกใบ คือ นางสาวนิตยา จากการสอบถามนิตยา ทราบว่า หลังเลิกงานตอนกลางดึกวันที่ 13 ต่อเนื่องเช้า 14 พ.ค. เตเต้ขับรถไปหา นิตยา ที่บ้าน ขณะอยู่ระหว่างการเดินทาง ทั้งคู่ยังคงคุยกันทางโทรศัพท์ ซึ่งในระหว่างนั้นดีเจเตเต้สังเกตว่ามีรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ได้แก่รถกระบะสีขาวและเก๋งสีดำ ขับตามประกบ จนเมื่อไปถึงบริเวณหน้าหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 และจอดรถ รถทั้งสองคันก็ขับมาประกบ แล้วมีชายหลายคนลงจากรถ ตะโกนสั่งให้ดีเจเตเต้ลงจากรถไปขึ้นรถของพวกเขา

 

หลักฐานจากกล้องวงจรปิดระบุว่า เหตุเกิดเวลา 03.53 น. มีเสียงคนตะโกนให้ดีเจเตเต้ “ลงจากรถ” และเสียงของดีเจเตเต้พูดตอบว่า “อะไรพี่?” ก่อนที่ชายเหล่านั้นจะบังคับให้ดีเจเตเต้ขึ้นรถเก๋งสีดำ ซึ่งรีบขับออกไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งรถยนต์ของดีเจเตเต้ไว้ในจุดเกิดเหตุ

 

ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พร้อมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดพบศพ ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในป่า ต้องใช้รถโฟร์วีลขับลุยเข้าไปถึง 20 นาที ก่อนเดินเท้าเข้าไปพบศพ ด้านชาวบ้านที่ไปหาเห็ดในพื้นที่ ให้ข้อมูลว่าเห็นขาคนโผล่ออกมาจากชายป่าเมื่อ 3 วันก่อน แต่ไม่กล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ กระทั่งกลับไปบ้านแล้วภาพดังกล่าววนเวียนอยู่ในหัวทั้งคืน เมื่อเห็นข่าวการหายตัวของดีเจเตเต้ จึงกลับไปตรวจสอบอีกครั้งและพบเสื้อผ้าที่ตรงกับที่ดีเจเตเต้ใส่ในวันหายตัวไป จึงรีบแจ้งตำรวจ

 

ก่อนหน้านี้ตำรวจตั้งประเด็นชู้สาวเป็นแรงจูงใจหลักของการอุ้มฆ่า เนื่องจากดีเจเตเต้หน้าตาดีและมีหญิงสาวมาติดพันหลายคน หนึ่งในนั้นคือหญิงที่มีสามีอยู่แล้ว ชื่อว่า น.ส.น้ำ ซึ่งเป็นภรรยาของ “นายมุ้ย” ผู้ต้องหาคดีค้ายารายใหญ่ใน จ.กาญจนบุรี และมีหมายจับติดตัวอยู่ ปัจจุบันหนีคดีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน

 

โดยนายมุ้ยเคยส่งคนไปเคลียร์ให้เลิกยุ่งกับ น.ส.น้ำ แต่ไม่สำเร็จ คาดว่าเรื่องนี้อาจจะนำมาสู่การอุ้มฆ่าในครั้งนี้ และเชื่อว่าเหตุที่เกิดขึ้นน่าจะทำเป็นขบวนการ

 

โดยเมื่อวานนี้ ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร ได้พาบิดาและญาติของดีเจเตเต้เดินทางไปยังสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่เร่งดำเนินการคดีอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ยังได้แจ้งข้อหาเพิ่มเติมในคดีอุ้มฆ่า เป็นข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน และซ่อนเร้นอำพรางศพ

 

ทนายรณณรงค์ บอกว่า ทราบมาจากสายข่าวว่า “น้ำ” หนีข้ามฝั่งไปฝั่งเพื่อนบ้านตั้งแต่วันที่เตเต้โดนอุ้ม และที่บอกว่า เตเต้เคยถูกตบหน้าในผับ ก็เพราะว่าถูกขู่ให้เลิกยุ่งกับน้ำ แต่พอไม่เลิก ก็อาจจะนำมาสู่เหตุการณ์นี้ ทราบว่าล่าสุด ผู้ต้องหาไม่มีใครให้การซัดทอดไปถึงมุ้ยเลยสักคน และที่บอกว่าน้ำอ้างว่า เลิกรากับมุ้ยมานานแล้ว ก็ต้องถามว่า แล้วจะหนีไปทำไม ถ้าบอกว่าไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่รู้เรื่อง ก็ให้กลับมาให้การกับตำรวจก่อน

 

พล.ต.ต.พรชัย ชลอเดช ผู้บังคับการตำรวสจภูธร จ.กาญจนบุรี เผยว่า ล่าสุด ศาลจังหวัดกาญจนบุรีได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 ราย ประกอบด้วย นายนพพิจิตร, นายธราเทพ, นายภคนัท และนายณรงค์เดช ซึ่งทั้งหมดถูกตั้งข้อหา 12 กระทง โดยในจำนวนนี้มีข้อหาหนัก 5 ข้อ ได้แก่ ร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นโดยข่มขู่ให้กลัวว่าจะได้รับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือเสรีภาพ และกระทำผิดโดยมีลักษณะคล้ายอั้งยี่หรือซ่องโจร, ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อนและซ่อนเร้นทำลายศพ, ร่วมกันกระทำต่อศพก่อนการชันสูตร, ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ และร่วมกันมีอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงสมคบกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดตามกฎหมาย

 

ขณะนี้มีผู้ต้องหาในคดีนี้รวมทั้งสิ้น 5 คน โดยก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมนายธนเดช ได้แล้ว และอยู่ระหว่างการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่เหลือตามหมายจับอีก 4 รายเพื่อดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัวนายธนเดช  ผู้ต้องหาคนสำคัญในคดีอุ้มหายดีเจเตเต้ เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม ขณะเดียวกันมีรายงานว่า นางสาวน้ำ ภรรยาของนายมุ้ย ผู้ที่เชื่อว่าเป็นผู้สั่งการฆ่าดีเจเตเต้ ตอนนี้ไม่อยู่ที่บ้านแล้ว แต่ยังยืนยันไม่ได้ว่า อยู่ฝั่งประเทศเพื่อนบ้านจริงไหม
 


ด้านนายวิเชียร พ่อของดีเจเตเต้ หลังได้ฟังเรื่องร่องรอยกระสุน ที่ร่างของลูกชาย ว่ามีรอยกระสุนถึง 3 รูที่ศีรษะ ทั้งที่ถูกมัดมือมัดเท้า ทำให้คุณพ่อถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เพราะสิ่งที่ลูกเจอโหดร้ายเกินไป 

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ดีเจเตเต้#อุ้มฆ่า