รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกรณีกลุ่มนักศึกษา มาร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน อ้างว่าถูกรุ่นพี่หลอกไปค่ายอาสา อ้างว่าเป็นค่ายที่ไปทำกิจกรรมจิตอาสา ได้เจอเพื่อนต่างสถาบัน แต่พอไปถึงกลับเจอค่ายไม่ตรงปก ถูกพาไปเข้าลัทธิ ที่สอนคำสอนให้กราบไหว้เทพเจ้า อ้างคำสอนพุทธที่ผิดบิดเบือน มีทำพาสปอร์ตสวรรค์ ให้ยมบาลดูตอนตาย เพื่อถอดรายชื่อออกจากบัญชีนรก
กลุ่มผู้เสียหายที่มาร่วมรายการ เป็นกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในจังหวัดทางภาคอีสาน เล่าว่า เห็นรุ่นพี่โพสต์รับสมัครนักศึกษาไปร่วมเข้าค่ายอาสา มีค่าใช้จ่ายคนละ 390 บาท ในโปสเตอร์อ้างว่าเป็นกิจกรรมที่พาไปทำจิตอาสาช่วยเหลือชุมชน ได้พบเจอกับเพื่อนๆ จากสถาบันอื่นๆ หลายคนสนใจก็สมัครไปค่ายนี้
โดยออกเดินทางจาก จ.มหาสารคาม ตั้งแต่เวลา 19.00 น.ของวันศุกร์ที่ 12 ก.ค. เดินทางไปถึงค่าย ที่ จ.มุกดาหาร ประมาณเที่ยงคืน ซึ่งกิจกรรมจัดขึ้นวันเสาร์-อาทิตย์ที่ 13-14 ก.ค.
ในค่ายนี้สถานที่จะมืดมาก มีการทำพิธีกรรมแปลกๆ เช่น ให้พูดชื่อ เผาชื่อ และจิ้มหน้าผากเพื่อเปิดตาที่ 3 มีการเล่นตามฐาน แต่ละฐานจะมีคำสอนอ้างว่าเป็นคำสอนตามศาสนา แต่ผิดไปจากที่เคยรับรู้มา ที่อ้างว่าเป็นการสะเดาะเคราะห์ ไม่มีการแจ้งรายละเอียดว่ากิจกรรมในแต่ละวันต้องทำอะไรบ้าง ให้กินเจ ก้มกราบรัวๆ เป็นร้อยๆ ครั้ง ถามอะไรไปเหล่าสตาฟฟ์ค่ายก็ตอบเหมือนๆ กัน เหมือนโดนล้างสมอง
ผู้ที่พาทำกิจกรรม เหมือนเขาเป็นผู้นำลัทธิของสถานที่ดังกล่าว สอนว่าพวกเขาเป็นศาสนาพุทธ แต่คำสอนดูเป็นไปในทางจีน และคำสอนดูผิดไปจากที่เราเคยเรียนรู้มาจากพระพุทธศาสนาทั่วไป
ที่สำคัญก็คือ เขาบอกว่า เขามีพระสูงสุดคือ พระแม่องค์ธรรม ซึ่งเป็นผู้ส่งศาสดาของทุกศาสนาลงมายังโลก เพื่อสอนศาสนาให้มวลมนุษย์ เมื่อถึงเวลาที่สมควร ศาสดาของทุกศาสนาก็จะกลับคืนสู่พระแม่องค์ธรรม
นอกจากนี้ยังมีการทำพาสปอร์ตสวรรค์ ซึ่งทางค่ายอ้างว่าเอาไว้ให้ยมบาลดูตอนตาย เป็นการถอดรายชื่อออกจากบัญชีของนรก เพื่อจะได้ไปสวรรค์ โดยในนั้นจะระบุข้อมูลส่วนตัวคล้ายบัตรประชาชน
ขณะที่ อาจารย์หยาง เจ้าของสถานที่ สถานปฏิบัติธรรมแห่งนี้ ใน ต.โชคชัย อ.นิคมคำสร้อย จ.มุกดาหาร เผยว่า กิจกรรมดังกล่าว ทางกลุ่มผู้จัดเขามาขออนุญาตมาขอใช้สถานที่ เราก็อนุญาตให้ใช้ โดยมีข้อแม้เดียวคือ ไม่ให้เอาอาหารทางโลกเข้ามาประกอบอาหารในนี้ เขาก็รับข้อตกลง แล้วให้แม่ครัว เข้ามาทำอาหารในแบบที่กลุ่มปฏิบัติธรรมของเราทานกัน
ส่วนตัวตนไม่ได้อยู่ที่สถานปฏิบัติธรรมในวันเกิดเหตุ เพราะตนไปทำธุระที่อื่น การปฏิบัติธรรมแบบนี้ จริงๆ ก็เป็นความเชื่อที่เหมือนๆ กัน ปฏิบัติธรรมด้วยความเชื่อแบบเดียวกัน หลายกลุ่มที่เขาปฏิบัติเหมือนกัน เขาก็มาขอใช้สถานที่เพื่อปฏิบัติ หรืออบรม หรือบรรยายธรรม ก็เป็นอย่างนี้เป็นปกติ
ส่วนที่บอกว่ามี “พาสปอร์ตสวรรค์” ตนก็มีอยู่ แต่ไม่ใช่พาสปอร์ตสวรรค์ ตนไม่ได้เรียกแบบนี้ มันเป็นเพียงใบรับรองว่าได้ผ่านการอบรมธรรมะในค่ายแห่งนี้มา ก็เท่านั้น
ส่วนที่มีการโพสต์เกี่ยวกับการสอนแบบประหลาดๆนั้น ทางเราไม่รับรู้อะไร เพราะเป็นการมาเช่าสถานที่จัดค่าย ซึ่งแต่ละค่ายเขาก็จัดการกันเอง ทางเราไม่ได้รับรู้ด้วย
อาจารย์จตุรงค์ จงอาษา พูดในมุมมองของนักวิชาพระพุทธศาสนา เผยว่าลัทธิลักษณะนี้ ไม่ใช่เรื่องใหม่ เป็นลัทธิเก่าแก่ มีมานานแล้ว ผู้ก่อตั้งเป็นชาวจีนโพ้นทะเล ชื่อนายหวัง ก่อตั้งลัทธิ ก่อนจะถูกอัปเปหิออกจากจีน ไปตั้งรกรากในประเทศต่างๆ และส่งต่อกันมาเป็นเวลานาน
แต่สำหรับตน คำสอนของเขาไม่ใช่พุทธ ไม่ใช่พระพุทธศาสนาแน่นอน คำสอนที่อ้างตัวเป็นบิดา เป็นผู้ให้กำเนิดของทุกศาสนา เป็นผู้สร้างทุกสิ่งทุกอย่าง ลัทธินี้เขาจะสอนให้คนเชื่อแบบนี้ แล้วก็พยายามจะสอดแทรกคำสอน ผ่านการหลอกคนไปเข้าค่าย ทั้งค่ายธรรมะ ค่ายอาสา ทำแบบนี้มาหลายต่อหลายเคส เราได้เห็นกันมาเยอะแล้ว ซึ่งในทางพุทธมันไม่ใช่แน่นอน