ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดลพบุรี เรื่องให้พระสังฆาธิการ ลาออกจากตำแหน่ง โดยระบุว่า ด้วยหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จึงอนุญาตให้ หลวงพ่ออลงกต ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
โดยเนื้อความของคำสั่ง ระบุดังนี้ “ด้วยพระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกฺขปญฺโญ อายุ 65 พรรษา 38 วิทยฐานะ น.ธ.โท เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ตำบลเขาสามยอด อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ นั้น
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 37 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ.2551) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535
จึงอนุญาตให้พระราชวิสุทธิประชานาถ (อลงกต) ฉายา ติกขปญฺโญ เจ้าอาวาส วัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งดังกล่าว ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป”
ขณะที่ความคืบหน้าที่ ทำเนียบรัฐบาล นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงกระแสข่าวพระราชวิสุทธิประชานาถ หรือ หลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุว่า การลาออกจากเจ้าอาวาสไม่มีผลอะไร เพราะเจ้าอาวาสคือเจ้าพนักงาน ถึงลาออกแต่เหตุการณ์เกิดขึ้นไปแล้ว ถ้าเกิดมีการกระทำความผิด ที่ผ่านมาเจ้าอาวาสก็ถือเป็นเจ้าพนักงาน ซึ่งทราบว่า การลาออกเพื่อไม่ให้ขัดขวางการสอบสวน
เมื่อถามว่าการลงพื้นที่ลพบุรี ช่วงบ่ายวันนี้ ได้รับรายงานจากสำนักพุทธศาสนาจังหวัดลพบุรีถึงความผิดหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ยัง จะรอไปฟังการรายงานในวันนี้ และไปติดตามความคืบหน้า โดยเฉพาะเรื่องมูลนิธิ 4-5 แห่ง ที่สงสัยว่าเป็นเทคนิคหลบการบริจาคเงินวัดจากการตรวจสอบ
จึงต้องดูจุดประสงค์จริงๆว่าหลบหรือไม่ มีการใช้เทคนิคหรือไม่ และจะไปดูการรักษาผู้ป่วยโรคเอดส์ รวมถึงการตรวจสอบของกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการอย่างไร รวมถึงการใช้เงินของมูลนิธิ
นายสุชาติ กล่าวว่า แม้ตนจะไม่ได้รับผิดชอบโดยตรง แต่ในฐานะกำกับดูแลจะต้องเข้าไปดู ส่วนจะไปเจอจิตอาสาหรือผู้ที่ได้รับการรักษา ที่ออกมาเปิดเผยข้อมูลความผิดปกติหรือไม่นั้น ยังไม่ทราบว่าจะเจอใครบ้าง ถ้าพบว่าอยู่ตรงนั้นก็จะเรียกมาซักถาม หากทุกคนพร้อมให้ข้อมูลก็น่ายินดี แต่คงจะเจอเจ้าหน้าที่
เมื่อถามว่ากรณีการใช้เงินบริจาคที่เป็นชื่อบัญชีส่วนบุคคลของพระ ซึ่งมีมูลค่าเข้าไปในบัญชีแต่ละเดือนจำนวนมากจะมีความผิดหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ถ้าผิดวัตถุประสงค์ หรือใช้เงินไม่ถูกต้องตามที่ตนได้เคยพูดไปแล้วว่าเจ้าอาวาสเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ การจะใช้เงินก็เหมือนกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะต้องมีการไปตรวจสอบ ทั้งนี้ เงินในส่วนของการบริจาคไม่จำเป็นต้องเสียภาษี