ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่หมู่ที่ 2 ตำบลทรงธรรม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร หลังทราบว่ามีชาวบ้านกำลังรวมตัวกันเรียกร้องให้ทางคณะสงฆ์และฝ่ายปกครองเอาผิดและขับไล่ เจ้าอาวาสให้พ้นวัด เนื่องจากชาวบ้านไร้ซึ่งความศรัทธาในพระรูปนี้แล้ว โดยไม่สนว่าผลการไต่สวนจะออกมาอย่างไร ส่วนสาเหตุจุดแตกหักกับญาติโยมมาจากเรื่องเงินกฐิน
โดยมีพระอธิการไพโรจน์ ฐิตธมฺโม เลขาเจ้าคณะตำบลทรงธรรม นายธัญวิทย์ คุณสมบัติ ปลัดอำเภอเมืองกำแพงเพชร นายชเอม คำฟู กำนันตำบลทรงธรรม พร้อมด้วยคณะกรรมการวัดตลอดจนตัวแทนชาวบ้านจำนวนหนึ่งร่วมพูดคุยและยื่นข้อเรียกร้องในปัญหาดังกล่าว
ชายอายุ 60 ปี หนึ่งในกรรมการวัด เล่าให้ฟังว่า เมื่อวันที่ 5 พ.ย.68 เวลาประมาณ 13.00 น. ที่วัดแห่งนี้ได้มีการทอดกฐินสามัคคี โดยมีชาวบ้านเข้าร่วมจำนวนมาก และจากการนับเงินกฐินได้มีเงินสดที่ชาวบ้านร่วมมาทำบุญจำนวน 276,637 บาท แต่ทราบว่ามีเงินทำบุญจากวัดธรรมกาย อีกจำนวน 100,000 บาท โดยสั่งจ่ายเป็นเช็คเงินสดแต่กลับหายไป เมื่อนับเงินสดแล้วเสร็จ ชาวบ้านได้ถามถึงยอดเงินของวัดธรรมกาย ซึ่งไม่ทราบว่าได้ขึ้นเงินแล้วหรือไม่และหายไปไหนทำไมไม่นำมารวมยอดกฐิน โดยเจ้าอาวาสวัด แจ้งว่ายังไม่ได้รับเช็ค แต่ชาวบ้านทราบว่าเช็คจำนวนดังกล่าวเจ้าอาวาสได้รับไปแล้ว แต่เจ้าอาวาสกลับอ้างว่าต้องไปรับที่ศูนย์ธรรมกาย ซึ่งอยู่อีกวัดในหมู่ที่ 4 ตำบลทรงธรรม
จากนั้นเวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าอาวาสและไวยาวัจกรวัด ได้ออกไปยังศูนย์ธรรมกาย ซึ่งอ้างว่าไปรับเช็ค ก่อนถึงจุดหมายเจ้าอาวาสได้หยิบซอง ที่ภายในมีเช็คดังกล่าวยื่นให้ไวยาวัจกรวัด แต่ไวยาวัจกรวัดไม่กล้ารับเช็คฉบับดังกล่าว เมื่อไปถึงวัดศูนย์ธรรมกาย เจ้าอาวาสได้หยิบเช็คออกจากย่ามพระ ยืนให้พระลูกวัดที่อยู่บริเวณวัดและรับเช็คคืนกลับมา พร้อมกับขับรถกลับวัด ระหว่างทางได้ยื่นเช็คให้ไวยาวัจกรวัด ไวยาวัจกรวัดจึงรับไว้และวางไว้ที่คอนโซนหน้ารถ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
พฤติกรรมแบบนี้ถือเป็นพฤติกรรมไม่โปร่งใส อีกทั้งยังมุสา ทำให้ชาวบ้านไม่ไว้วางใจต่อพระรูปนี้แล้ว และไม่ต้องการพระรูปนี้แล้วให้ท่านไปอยู่ที่อื่น เพราะปัญหาเป็นแบบนี้มาตลอด พอจะมาถามเอาความจริงกลับหนีหน้าหลบออกจากวัดตลอด
ด้านหญิงอายุ 64 ปี อดีตกรรมการวัด ที่ถูกกล่าวหาว่าโกงเงินวัดและถูกให้ออกจากคณะกรรมการวัด เล่าว่า จริงๆเรื่องแบบนี้ไม่สมควรที่จะเกิดแต่เพราะท่านทำตัวท่านเอง หากท่านยอมรับแต่แรกว่ากลัวหายแล้วเก็บกลับมาแล้วเอามาให้กรรมการวัดก็จบ อันนี้มาอ้างว่าไม่มีไม่รู้ เหมือนที่ผ่านมาก็อ้างว่าเงินกฐินหายไปไหนไม่รู้ พอไม่มีใครเอาเรื่อง เนื่องจากไม่มีหลักฐานเลยเหมือนได้ใจ ปีนี้ก็มาทำแบบนี้ ครั้งหนึ่งตนก็เคยถูกกล่าวหาว่าตนโกงเงินวัด แต่สุดท้ายเหมือนกรรมตามทันมาทำพฤติกรรมแบบเดิมจนชาวบ้านจับได้
ขณะที่นายธัญวิทย์ คุณสมบัติ ปลัดอำเภอเมืองกำแพงเพชร ปลัดอำเภอผู้รับผิดชอบพื้นที่ตำบลทรงธรรม เปิดเผยว่า ที่ทราบข่าวในเบื้องต้น ทราบว่า เจ้าอาวาสได้ไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม ว่ากลุ่มผู้ใหญ่บ้านเข้ามาแทรกแซงการบริหารจัดการเงินของวัด ต่อมาตนก็ทราบเรื่องอีกว่ามีเงินจากวัดพระธรรมกาย เข้ามายังวัดนี้และทราบว่าเจ้าอาวาสไม่ได้ชี้แจง ว่าได้รับเงินมา จึงได้แนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านไปร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม หากไม่มีความไว้เนื้อเชื่อใจในตัวเจ้าอาวาสท่านนี้แล้ว หน่วยงานของรัฐก็จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้ต่อไป ซึ่งก็ได้อธิบายข้อกฎหมายและการดำเนินการให้ชาวบ้านฟัง
ทั้งนี้ได้มีการขอมติในการรวมตัวของชาวบ้านในครั้งนี้แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีความประสงค์ที่จะให้เจ้าอาวาสอยู่ในวัดนี้อีกต่อไป อย่างไรก็ตามก็คงจะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในการบริหารเงินวัดต่อไป โดยจะเร่งดำเนินการให้ภายใน 7 วัน หรือไม่เกิน 15 วัน
ขณะเดียวกันพระอธิการไพโรจน์ ฐิตธมฺโม เลขาเจ้าคณะตำบลทรงธรรม ได้กล่าวกับญาติโยมว่า การที่พระสงฆ์ยักยอกทรัพย์หรือลักทรัพย์นั้นเข้าข่ายปาราชิกอยู่แล้ว แต่อาตมาเองก็ไม่สามารถจะไปชี้ความผิดเจ้าอาวาสท่านได้ว่าท่านเป็นปาราชิก เพราะต้องให้พระผู้ใหญ่และคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่พิจารณาและตัดสินใจออกมาก่อน
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามไปยังพระลูกวัดซึ่งบางส่วนก็เห็นด้วยที่จะไม่ขอให้เจ้าอาวาสนั้นอยู่ต่อภายในวัด แต่ก็ยังไม่ทราบว่าเจ้าอาวาสหลบออกไปไหนและจะกลับเข้าวัดมาหรือไม่