เปิดใจ “มายด์” เปิดหน้าเคลียร์ทั้งหมด “โตโน่” พูดอะไรไว้บ้าง กับหลังเกิดเรื่อง เขาทำยังไงกันแน่

หลังจากที่ เมื่อวานนี้ เพชร อดีตคนรักของ มายด์ ออกมาเปิดใจในรายการโหนกระแสเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2568 โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ของมายด์กับพระเอกนักร้องชื่อดัง โตโน่ ภาคิน ที่ดูเหมือนจะล้ำเส้นเกินกว่าการเป็นเพียงเพื่อนร่วมงาน ทั้งที่ในเวลานั้นฝ่ายหญิงยังคบหากับตนอยู่

ขณะที่วันนี้ (17 เมษายน 2568) มายด์ มาออกรายการโหนกระแส เปิดใจเล่ามุมมองของตนเองหลังจากที่ เพชร ได้พูดไปก่อนหน้านี้

มายด์เล่าว่า ตลอดเวลาที่คบหากันมา มายด์เป็นคนที่เอาใจใส่ดูแลเพชรมาตลอด แต่ด้วยนิสัยเพชร เวลาที่เขาโฟกัสกับอะไรสักอย่าง ทั้งเรื่องงานหรืออะไรก็ตาม เขาจะไม่สนใจคนอื่นๆ รอบตัวเลย รวมไปถึงการดูแลเอาใจใส่ในฐานะแฟน แต่เวลาทะเลาะกัน เพชรจะเป็นคนอารมณ์ร้อนกว่า และมักจะเป็นคนบอกเลิกก่อนเสมอ

มายด์มองว่า ความสัมพันธ์ในแง่ของการเป็นคู่รักระหว่างมายด์กับเพชร มันกำลังแย่ลงไปเรื่อยๆ ถ้ารอให้นานกว่านี้ก็คงจะเอาความรู้สึกดีๆ กลับมาไม่ได้อีก มายด์ตัดสินใจบอกเลิกเพชรตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่มายด์เป็นฝ่ายบอกเลิก

สำหรับมายด์ ในมุมของมายด์ เรื่องราวความสัมพันธ์ของมายด์กับเพชร มันจบตั้งแต่ตอนนั้น แต่ที่เขามาขอร้อง มาขอให้เราให้โอกาสเขาอีกครั้ง เราก็ตกลงให้โอกาส ทั้งให้โอกาสเพชร และให้โอกาสตัวเองด้วย 

แต่มุมมองของเพชรที่บอกว่า ยังไม่เลิกกัน ยังพูดคุยกัน ยังทักหากัน เอาแชตเอาอะไรมาเปิด ก็เป็นมุมของเขา ยืนยันว่ามายด์ห่วงใยในฐานะคนที่เคยรักกัน กับเพื่อนๆ มายด์ก็ห่วงแบบนี้ 

ส่วนสรรพนามที่เรียกเพชรว่า “ที่รัก” ในไลน์ จนถึงวันที่เกิดเรื่อง ก็เพราะเป็นความเคยชินที่เรียกกันมาแบบนี้อยู่แล้ว จึงไม่ได้เปลี่ยนสรรพนาม ยืนยันว่าที่ยังอยู่ด้วยกันแม้จะเลิกกันไปหลายเดือนแล้ว เป็นเพราะยังมีหลายเรื่องที่ยังต้องใช้ด้วยกัน เรื่องคอนโด เรื่องรถ อะไรต่างๆ มันยังเลิกกันแบบขาดไม่ได้ในทันที

โดยพี่หน่วงเล่าในรายการว่า ตอนที่เกิดเรื่อง ได้คอนแท็กมายด์มาตั้งแต่วันศุกร์ที่ 11 เม.ย. และได้ทักไปเพื่อสอบถาม เผื่อว่ามายด์จะอยากพูด แต่มายด์อ่านไม่ตอบ จนกระทั่งผ่านไป 2 วัน มายด์ทักกลับมาว่า พร้อมจะพูดแล้ว จึงได้มีการนัดพูดคุยเรื่องราวกันที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ก่อนจะมานั่งในโหนกระแสวันนี้

มายด์เผยว่า สาเหตุสำคัญที่ตัดสินใจออกมาพูด เพราะเรื่องนี้มันไปไกลเกินกว่าจะเป็นเรื่องของเรากับพี่โตโน่แล้ว มันเริ่มส่งผลกระทบในวงกว้าง อย่างเมื่อไม่นานมานี้ มายด์ไปทำงานที่ห้างแห่งหนึ่ง จังหวะที่เข้าห้องน้ำ ถูกผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งไม่รู้จักกัน มากระชากแขน แล้วถามว่า “ใช่มายด์ไหม?”

เรื่องนี้ทำให้มายด์ตกใจ และพยายามเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ และสุดท้ายเพื่อนก็มารับออกจากจุดที่เกิดเรื่อง และเริ่มรู้สึกว่า เรื่องทั้งหมดนี้กำลังจะกระทบคนที่ไม่เกี่ยวข้องด้วย ถ้าเราไม่ออกมาเคลียร์ให้จบ

มายด์เล่าไทม์ไลน์การทำงานกับโตโน่ ว่าเคยร่วมงานกันตอนปี 2567 แล้วโตโน่ก็ยังส่ง DM มาชวนคุยเรื่องอยากจ้างมา ส่งบท ต่อบทละคร แต่ตนไม่ว่างก็เลยไม่ได้ร่วมงานกัน จนกระทั่งมาถึงงานสโมสรฟุตบอล เขาคงเห็นว่าเราดูฟุตบอลอยู่แล้ว ก็เลยชวนเรามาทำงานเป็น “เลขาประธานสโมสร” และทำหน้าที่เป็น ผู้ช่วยผู้จัดการ หรือ ผู้ช่วยของคุณเมษ์ เพราะงานมันเยอะมากจนเริ่มคิวงานไม่ทัน โดยให้มายด์ทำทุกหน้าที่ ตั้งแต่ขับรถรับส่ง ช่วยคิด ช่วยฟัง ทุกเรื่อง

ช่วงเกษตรแฟร์ ที่ไปออกบูท ที่บอกว่ามีกัปตันทีมมาจีบเรา มายด์ยืนยันว่า มายด์ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าถูกจีบ แต่ก็ยอมรับว่าพี่โตโน่ส่งข้อความมาถาม เรื่องมีคนจีบเหรอ มีข้อความเตือนว่า นักบอลคนนี้คบแต่เด็กนะ เราอาจจะไม่เหมาะกับเขานะ เขาก็คิดว่า เขาพูดด้วยความเป็นห่วงมากกว่า

แล้วพี่โตโน่ก็แสดงตัวว่าทำกับเราพิเศษมากขึ้น ก่อนจะเฉลยกับเราว่า เขาชอบเราจริงๆ เขาดูแลเรา เทคแคร์อย่างมาก ชอบอะไรก็จะหามาให้ เราไม่ได้รับสิ่งเหล่านี้มานาน เราก็เลยหวั่นไหว และรู้สึกชอบ

มายด์ตอบคำถามพี่หน่วง ที่ถามว่า ในช่วงที่คุณบอกว่า คุณรู้สึกดี ต่างๆ นานา คุณเคยคิดถึงณิชาบ้างไหม 
 

มายด์ตอบว่า “ก่อนที่จะรู้สึกอะไร หนูจะถามพี่โน่เสมอ ว่าพี่โน่มีแฟนแล้วนะ พี๋โน่เขาก็ชอบมาเล่าปัญหาของคู่เขามาให้เราฟังเรื่อยๆ ตอนที่อยู่ด้วยกันแรกๆ หนูยังคิดเลยว่า เขาจะพูดอะไรก็ได้ เพราะว่าเราฟังจากเขาฝั่งเดียว 

แต่มันมีวันหนึ่งที่เราอยู่กันสามคน มีพี่เมษ์ ด้วย เขาก็พูดขึ้นมาว่า พี่เมษ์ ผมมีเรื่องจะปรึกษา มันจะเป็นเรื่องที่ใหญ่มากๆ เขาพูดขึ้นมาว่า เขา..คิดกับณิชาแค่น้องสาว เขาไม่ได้รักณิชาแล้ว เขาบอกเขาไปแช่ว่านมา เขาโกหกไม่ได้ มันคือวันที่หนูเชื่อเขาจริงๆ เชื่ออย่างหมดหัวใจเลย

สิ่งที่พี่เมษ์ตอบกลับพี่โน่ ยิ่งทำให้เราเชื่อยิ่งกว่าเดิมอีก ก็คือ พี่เมษ์ตอบว่า “พี่รู้สึกมาสักพักแล้ว”

แล้วประกอบกับการที่โตโน่มาบอกว่า เขาตกลงกับณิชาแล้วว่าจะห่างกัน แล้วณิชาก็โพสต์บางอย่างในไอจีว่า “ถึงเวลาดูแลหัวใจตัวเอง” แล้วหลังจากวันนั้น เขาพาเราไปที่บ้าน เจอว่าณิชาอยู่ที่บ้าน พี่โน่ก็ยังมาขอโทษเราว่า “พี่ขอโทษนะที่ทำให้รู้สึกไม่ดี พี่ไม่รู้ว่าณิชาอยู่ที่บ้าน”

สิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น ณ ตอนนั้น ทำให้เราเชื่อจริงๆ ว่าเขาจะเริ่มต้นกับเรา คบกันแบบที่รู้กันสองคน เราโอเคกับความสัมพันธ์ตรงนี้ แต่ก็ให้เขาไปจัดการเรื่องของตัวเอง

ส่วนความสัมพันธ์กับเพชร ด้วยความที่ก่อนหน้านี้ เราต่างฝ่ายต่างไม่มีใคร จึงไม่ได้จัดการความสัมพันธ์นี้ ปล่อยให้มันคาราคาซังมาถึงวันที่เกิดเรื่อง โดยที่เราตั้งใจจะเคลียร์ และตัดขาดกับเพชรให้จบ โดยที่ไม่สนใจด้วยว่า เราจะเริ่มต้นใหม่กับพี่โน่หรือไม่ 

แต่พอมันเกิดเรื่องนั้นขึ้นมา เราไม่ได้ระวัง ไม่ได้คิดด้วยซ้ำว่า เขาจะไปตามสืบไปอะไร แม้แต่โลเคชัน Find my iPhone ก็ไม่ได้ปิด ทำให้เขามารอที่คอนโด เพียงแต่ตอนที่เจอเขา เราไม่ได้วิ่งหนี เราเพียงแต่ไม่หยุดคุย เรากลัวเพชรจะใจร้อน ไม่อยากให้ทะเลาะกัน ก็เลยคุยทีละคนดีกว่า

แต่สิ่งที่พี่โน่มาถามเราว่า พี่เป็นชู้เหรอ ในวันที่เจอเพชร เราบอกเขาไปว่า นี่คือแฟนเก่า ที่เราจบไปแล้ว แต่เขาไม่ยอมจบ มันถูกที่พี่เมษ์เคยพูดว่า ทุกคนรู้ว่าเราโสด แต่พอสนิทกันมากขึ้น เราบอกพี่เมษ์กับพี่โน่ ว่า ก็โสด แต่ยังคุยกับแฟนเก่าอยู่ พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ก็เลยทำให้เขาเข้าใจได้ว่า เขาเป็นชู้หรือเปล่า แต่จริงๆ มันไม่ใช่

หลังเกิดเรื่อง เรายังคุยกับโตโน่ดีๆ อยู่เลย แต่พอเพชรโทรไปหาพี่เมษ์ แล้วพี่เมษ์ไปคุยอะไรกับเขาไม่รู้ เขาบอกว่าเขาอยากจะเคลียร์กับเรา แต่ยังไม่ทันได้คุยเลย เขาก็เหมือนแสดงออกว่าเขาโกรธเรา แล้วเขาก็บอกเราว่า “จบกันดีกว่า ถ้ามายด์ยังมีแฟนอยู่”  เราเห็นว่าเขายังร้อนอยู่ ก็เลยไม่ได้อธิบายอะไร แต่พอวันต่อมา เขาไม่ได้อยากคุยกับเราแล้ว 

วันต่อมา มันมีคำหนึ่งที่หลานของโตโน่ เคยพูดกับเรา มีอยู่วันหนึ่งที่พี่โน่เขาอารมณ์ไม่ดี แต่ต้องไปให้สัมภาษณ์สื่อ เขาก็ให้สัมภาษณ์ได้แบบมืออาชีพมากๆ เราก็เลยพูดกับหลานเขาว่า “อาโน่เขาเก็บความรู้สึกเก่งเนอะ” หลานของพี๋โน่เขาก็ตอบกลับมาว่า “อาโน่เขาเป็นนักแสดงครับพี่มายด์”

คำนี้มันเปิดโลกเราเลย มันทำให้เราอ๋อกับทุกอย่าง สิ่งต่างๆ ที่ทำให้เราอินกับเขามากๆ เชื่อเขามากๆ คำนี้มันตอบทุกอย่างได้หมด

ส่วนเรื่องที่มีคนไปย้อนเรื่องว่า เราไปทำให้นักร้องอีกคนเลิกกับแฟน ก็คือ “โต้ง ทูพี” มายด์ยืนยันว่า คุยกับโต้งในวันที่โต้งเลิกกับดาราสาวช่วงหนึ่ง โต้งเป็นคนทักมาหาเรา คุยกัน ไม่ได้คบ แล้วก็หยุดคุยกันไป แล้วโต้งเขาก็ไปคุยกับดาราสาวคนเดิม

แล้วที่มีคนบอกว่า เราคบกับเพชร โดยที่เพชรไปแย่งมายด์มาจากแฟนเก่า เรายืนยันว่าไม่จริง กับคนเก่ามันก็มีปัญหาที่ไปกันไม่ได้ มีบางเรื่องที่แฟนเก่าเราไม่ได้บอกแม่ของเขา ทำให้แม่เขาเข้าใจผิดว่าเพชรเป็นคนแย่งแฟนของลูกชายตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ ตัวเขาเองรู้ดี

พี่หน่วงถามว่า รู้สึกผิดไหม กับเหตุการณ์ทั้งหมด มายด์ตอบว่า รู้สึกผิดแน่นอนค่ะ คนแรกคือ รู้สึกผิดกับณิชา ที่มายด์ออกมาวันนี้ เพื่ออยากจะออกมาขอโทษ ณิชา และอยากจะขอโทษเพชร และครอบครัวของเพชร ยืนยันว่ายังเป็นห่วงและหวังดีกับทั้งเพชรและครอบครัวเพชรเสมอ ขอโทษพ่อแม่ของมายด์เอง ที่ต้องมาคอยตอบคำถามทุกคนเรื่องที่เราทำผิดพลาดไป และอยากขอโทษสังคมที่ทำให้เกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้น

ส่วนคลิปต่างๆ ที่ออกมาหลังมีดรามา ที่โตโน่ออกมาพูดบนเวที บอกว่าจะไปง้อณิชา บอกว่าจะไปง้อแฟน มายด์บอกว่าไม่รู้แล้วว่า อะไรจริง หรือไม่จริง มันไม่เหมือนกับที่เขาเคยพูดกับเราก่อนจะมีเรื่อง แต่การที่เขาไปพูดบนเวทีแบบนั้น มายด์คิดว่า เขาควรไปพูดกันเองนอกรอบ ไม่ใช่มาพูดบนเวทีแบบนี้ แต่ส่วนตัว มายด์ไม่รู้สึกอะไรแล้ว และคิดว่า คงไม่ต้องมีอะไรต้องคุยกันอีก