จากกรณีชายคนหนึ่งโพสต์คลิปเหตุการณ์ที่ตนเองโดนต่อว่าเรื่องการจอดรถ โดนสามีภรรยาคู่กรณี เจ้าของรถวอลโว่ ต่อว่าว่าจอดรถชิดจนทำให้เขาเข้ารถไม่ได้ ซึ่งทางเจ้าของโพสต์ก็พยายามอธิบายว่าตนเองจอดตรงเส้นแล้ว แต่คู่กรณีต่างหากที่จอดไม่ตรง ทางคู่กรณีก็ยังโต้แย้งว่า จอดเบี้ยวตามคันก่อนหน้า ไม่เช่นนั้นจะเข้ารถกันไม่ได้ ทางเจ้าของโพสต์ก็บอกว่าหากจอดเบี้ยวตาม รถตนจะเลยเส้น แต่สุดท้ายก็จะขยับรถให้นั้น
จากกรณีที่ชาย อายุ 37 ปี เจ้าของร้านจิวเวลรีใน จ.นนทบุรี พาครอบครัวและพนักงานไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง โดยได้จอดรถในที่จอดรถที่ร้านกำหนดไว้ตามปกติ ต่อมามีเด็กรับรถประกาศเรียกให้ไปขยับรถ เมื่อเขาไปถึง สามีภรรยาคู่กรณีแสดงความไม่พอใจอย่างมาก ใช้คำหยาบคายด่าทอต่อว่าว่าจอดรถไม่มีมารยาท แม้ชายคนดังกล่าวจะพยายามอธิบายว่าจอดรถตามช่องที่ร้านกำหนดไว้แล้ว แต่คู่กรณีก็ไม่รับฟังและยังคงโต้แย้งว่า เขาจำเป็นต้องจอดเบี้ยวตามคันก่อนหน้า มิฉะนั้นจะไม่สามารถเข้ารถได้
นอกจากนี้ ชายคนดังกล่าวยังเล่าว่าเห็นภรรยาของคู่กรณีหยิบสิ่งของบางอย่างส่งให้สามี ซึ่งเขาถือไว้ด้านหลัง ทำให้มองไม่เห็นว่าเป็นอะไร แม้จะไม่แน่ใจว่าเป็นอาวุธหรือไม่ แต่ก็ไม่ได้ต้องการมีเรื่องมีราวกับใครอยู่แล้ว
ชายคนดังกล่าวยอมรับว่ารู้สึกกลัวและไม่ปลอดภัย กำลังตัดสินใจว่าจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ หรือไม่ พร้อมฝากข้อความถึงคู่กรณีว่า อยากให้ใจเย็นลงและใช้สติในการพูดคุยกันด้วยเหตุผล ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดมีข้อมูลว่า ชายคนดังกล่าวได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ ให้ดำเนินคดีกับคนขับรถวอลโว่ ข้อหาดูหมิ่นซึ่งหน้า และข่มขู่ทำให้เกิดความหวาดกลัว ซึ่งทางพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งความไว้ พร้อมทั้งสอบปากคำผู้เสียหายทันที และจะดูว่าเข้าข่ายข้อหาใดบ้างที่จะดำเนินคดีได้
จากการตจรวจสอบเบื้องต้น พบว่าคู่กรณีเป็นทนายความ ซึ่งพนักงานสอบสวนได้บอกกับผู้เสียหายว่า ถึงแม้จะเป็นทนายความ แต่ถ้าทำผิดก็ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่มีข้อยกเว้น ทำให้ผู้เสียหายรู้สึกอุ่นใจมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ร้านอาหารที่เกิดเหตุ แต่เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดประจำเดือนของทางร้าน จึงไม่สามารถสอบถามหรือขอดูกล้องวงจรปิดได้