จากกรณีหญิง อายุ 55 ปี ขับรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์สีดำ ไล่ชนผู้เสียหายที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ทั้ง 3 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ตำบลพิมลราช อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี หลังเกิดเหตุ ผู้เสียหายซึ่งประกอบด้วยชายวัย 36 ปี และชายวัย 23 ปี ที่เป็นน้าหลาน พร้อมด้วยชายวัย 26 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง
ความคืบหน้าล่าสุด หญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์สีดำ เปิดเผยข้อมูลกับผู้สื่อข่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ ตนกำลังจะไปซื้อของที่ตลาด มีรถจักรยานยนต์ 2 คันขี่อยู่ด้านหน้าแต่เขาขับช้ามาก ตนจึงบีบแตรไป 1 ครั้ง และไม่ได้บีบแตรยาวด้วย หลังจากนั้นจึงขับแซงออกทางด้านขวาและเข้าเลนซ้ายแต่ไม่ได้ปาดหน้าเขาเลย พอตนขับมาถึงทางโค้งตรงจุดเกิดเหตุตนก็ได้ยินเสียงตุ๊บจากทางฝั่งซ้ายตนเข้าใจว่าเป็นเสียงทุบรถและอีกสักพักก็มีเสียงจากด้านหลังไม่รู้ว่าเสียงอะไร พอมองกระจกก็เห็นหมวกกันน็อกตกอยู่ที่พื้น หลังจากนั้นก็มีคนขี่รถจักรยานยนต์มาทางฝั่งซ้ายและตะโกนถามว่า “มึงรีบเหรอ” และก็มีรถจักรยานยนต์อีกคันขี่มาทางขวาและขี่มาจอดด้านหน้ารถ หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องตามคลิป
ส่วนที่ตนไม่ยอมหยุดรถเพราะว่ากลัวว่าจะโดนทำร้ายและตอนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาแล้วตนก็ไม่ยอมหยุดรถเพราะคิดว่าตำรวจ 2 นาย อาจจะไม่สามารถดูแลความปลอดภัยให้ตนได้ เพราะตอนนั้นรอบข้างเริ่มมีคนเข้ามามุงกันเยอะ มีทั้งวินรถจักรยานยนต์ที่ขี่รอบรถตนและทางฝั่งคู่กรณีก็คอยจะเข้ามาหาตน ตนจึงทำได้เพียงขับรถวนไปเรื่อย ๆเพื่อกันไม่ให้ทางคู่กรณีเข้าถึงตัว ยืนยันว่าไม่ได้คลุ้มคลั่งแต่อย่างใด
หญิงคนขับฟอร์จูนเนอร์สีดำยังกล่าวถึงกรณีที่มีข่าวออกไปว่าตนไปวางยาในอาหารเพื่อนบ้านว่าไม่เป็นความจริงและเป็นเรื่องหลายปีแล้ว คือตอนนั้นบริเวณหลังบ้านของเพื่อนบ้านเขาต่อเติมครัวเวลาทำอาหารเขาจะเปิดหน้าต่างเพื่อระบายควันออกมา คงเป็นเพราะตอนนั้นตนได้วางปุ๋ยใส่ต้นไม้ที่เป็นผงสีขาวคล้ายแป้งเอาไว้ตรงกำแพงบ้าน พอลมพัดมันก็เลยปลิวเข้าบ้านเขา คงปลิวไปหล่นใส่อาหารที่เขาทำเอาไว้ ส่วนตัวแล้วตนไม่ค่อยสุงสิงกับใครในหมู่บ้านเพราะเขาแบ่งพรรคแบ่งพวกกัน