เกิดเหตุแม่ชีวัย 84 ปี จุดไฟเผาตัวเองภายในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงราย ตรวจสอบพบจดหมายสั่งเสีย ระบุตั้งใจเอาตัวเองเป็นประทีปถวายเป็นพุทธบูชาครั้งสุดท้าย
เมื่อเวลา 00.10 น. วันที่ 6 พ.ย. 68 ร.ต.อ.ธีรกิตต์ ไชยสุภาพ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย ได้รับแจ้งเหตุแม่ชีจุดไฟเผาตัวเองบาดเจ็บ ภายในสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 21 ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย จึงรายงาน พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ จิตรประสาร ผกก.แม่จัน รรท.ผกก.สภ.เมืองเชียงราย ทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ
สายตรวจตู้ยามขุนกรณ์ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุได้ออกไปตรวจสอบก่อน และพบว่าแม่ชีที่จุดไฟเผาตัวเองได้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นแม่ชี อายุ 84 ปี พักอาศัยอยู่ที่สำนักสงฆ์ดังกล่าวใน ต.ป่าอ้อดอนชัย อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงประสานหน่วยกู้ภัยและเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเพื่อตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัด
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามกรณีดังกล่าว พบอุบาสกอุบาสิกามาช่วยกันทำความสะอาดตามปกติ โดยแม่ชีและผู้ปฏิบัติธรรมไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ แต่ให้ข้อมูลว่า แม่ชีผู้เสียชีวิตเคยมาปฏิบัติธรรมที่สำนักสงฆ์แห่งนี้ตั้งแต่สมัยอดีตเจ้าสำนักยังมีชีวิต ต่อมาได้ตัดขาดกับครอบครัวที่อยู่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย และมาปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2566 โดยแม่ชีเป็นคนเคร่งในการปฏิบัติอย่างมาก สมัยที่อดีตเจ้าสำนักยังมีชีวิต แม่ชีเคยตัดนิ้วก้อยถวาย แต่อดีตเจ้าสำนักไม่รับและยังต่อว่าว่าไม่เคยสั่งสอนให้ทำเช่นนั้น
ในคืนเกิดเหตุซึ่งเป็นวันลอยกระทง ที่สำนักสงฆ์ได้จัดกิจกรรมก่อกองทราย จุดประทีป และเดินจงกรมในช่วงเวลาประมาณ 23.30 น. แต่ขณะกำลังเดินจงกรม มีผู้สังเกตเห็นไฟลุกที่ด้านหลังศาลเจ้าแม่กวนอิม เมื่อพากันไปดูก็พบร่างของแม่ชีวัย 84 ปีกำลังลุกไหม้ จึงช่วยกันตักน้ำมาดับไฟ ทั้งนี้ ทราบว่าที่ผ่านมาแม่ชีป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้ และไม่มีญาติพี่น้องมาเยี่ยมหา ช่วงที่ยังทำกิจกรรมลอยกระทง แม่ชีได้นำกระดาษที่เขียนข้อความโดยสรุปว่า ตั้งใจจะทำประทีปถวายเป็นพุทธบูชาครั้งสุดท้าย มาอ่านให้คนอื่นฟัง แต่ก็ไม่มีใครคิดอะไร นึกว่าหมายถึงการทำประทีปธรรมดา และไม่มีใครคาดคิดว่าแม่ชีจะจุดไฟเผาตัวเองเพื่อถวายเป็นพุทธบูชา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้อ่านจดหมายสั่งเสียฉบับดังกล่าว และพบว่ามีเนื้อหาตามนั้นจริง ขณะที่กระบวนการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่พบมูลเหตุต้องสงสัยอย่างอื่น จึงคาดว่าผู้ตายฆ่าตัวตายด้วยตนเอง อย่างไรก็ตาม หากข้อมูลของทางหน่วยพิสูจน์หลักฐานชี้ออกมาเป็นอย่างอื่น ก็จะดำเนินการสอบสวนเพิ่มเติมตามกระบวนการต่อไป