จากกรณีชาย อายุ 23 ปี ชาวบ้านนาคำ หมู่ 15 ต.บ้านเม็ง อ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น ใช้มีดปาดคอชาย อายุ 86 ปีซึ่งเป็นตาแท้ๆ เสียชีวิตอยู่บนเก้าอี้ภายในที่นาของตา ในสภาพคอขาด ส่วนศีรษะถูกวางไว้ที่ตัก หลังเกิดเหตุแม่และพ่อเลี้ยงของผู้ก่อเหตุ ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เห็นลูกชายกำลังถือศีรษะของตาเดินไปเดินมาอยู่ภายในกระท่อมนา จึงแจ้งตำรวจ ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะวางศีรษะตาตัวเองไว้บนตักของตา แล้วเดินลงไปที่ทุ่งนา กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้ดังกล่าว โดยผู้ก่อเหตุยอมรับว่าใช้มีดปาดคอตาจริง และให้การเพียงว่าเครียด ก่อนจะเงียบ ไม่ยอมพูดจา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่ายังมีคราบเลือดกระเซ็นไปทั่วพื้นและเก้าอี้ ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับป้าของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นลูกสาวของผู้เสียชีวิต เล่าว่า หลานชายคนนี้กินยาจิตเวชมานานแล้ว แต่ก่อนจะหูแว่วได้ยินว่าคนนั้นคนนี้จะมาฆ่า ก็ถือมีดออกมาโวยวายอาละวาดบ่อยๆ แต่พอกินยาก็อาการลดลง ครั้งนี้คาดว่าจะไม่ยอมกินยา
ตารักหลานชายมาก เพราะไม่มีลูกชาย ส่วนหลานชายก็รักตามาก แต่หลังเกิดเหตุเหมือนไม่มีสติแล้ว แต่รู้ตัวว่าตัวเองฆ่าตา แต่ไม่พูดอะไร สีหน้านิ่งเฉย ไม่พูด ไม่จากวาดสายตามองไปรอบๆ ดูชาวบ้านที่มาและตำรวจที่มาควบคุมตัว แต่แม่ของหลานชายบอกว่า หลานไปเสพยาบ้า จึงไม่ได้ให้กินยาจิตเวชเพราะกลัวว่าฤทธิ์ยาจะตีกัน และก็ไม่มีใครทราบว่าไปเสพยาตอนไหน
ด้านพ่อเลี้ยงผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุตาได้มานั่งที่กระท่อมริมสระน้ำตามปกติ โดยผู้ก่อเหตุก็ไปเล่นกับตาตามปกติ กระทั่งตนเองได้ยินเสียดังผิดปกติ ดังตุบๆ หลายครั้ง ทีแรกคิดว่าผู้ก่อเหตุทำร้ายสุนัขที่เลี้ยงไว้ จนกระทั่งสุนัขเห่าผิดปกติ ตนจึงได้ออกจากบ้านมาดู พบผู้ก่อเหตุถือหัวตามาหาและบอกฆ่าตาตาย เมื่อตั้งสติได้ตนเองจึงบอกให้นำหัวตาไปไว้ที่ร่าง โดยผู้ก่อเหตุได้นำหัวไปวางไว้ที่ตักของตา แล้วไปนอนที่เปลด้านหลังร่างตา พร้อมกับสูบบุหรี่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โดยเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ตนแอบเห็นผู้ก่อเหตุเสพยาบ้า จากนั้นก็จะนั่งสูบบุหรี่ไม่กินข้าวกินปลา และไม่คิดว่าจะมาก่อเหตุแบบนี้
ขณะที่ พ.ต.ท.สำเนียง สำโรงพล รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.หนองเรือ จ.ขอนแก่น กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตำรวจได้ไปค้นห้องนอนผู้ก่อเหตุ พบว่ามียารักษาอากรทางประสาท หลังเข้ารักษาที่โรงพยาบาลจิตเวช โดยเข้ารักษาตัวล่าสุดเมื่อเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา แต่ผู้ก่อเหตุไม่ค่อยได้กินยา เพราะทางผู้ปกครองต้องเดินทางไปขายของทุกวัน ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่ได้กินยารักษาอาการทางประสาทสม่ำเสมอ ส่วนผลตรวจหาสารเสพติดในร่างกายเบื้องต้น ไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด และได้แจ้งข้อกล่าวหา ฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา