ในโลกออนไลน์มีการแชร์เรื่องราว กรณีพ่อ ชาว จ.สุพรรณบุรี จบชีวิตตัวเอง หลังเครียดเรื่องลูกชายถูกทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ แจ้งความไปแล้วคดีไม่คืบหน้า นำไปสู่ความเครียดจนเกิดเหตุการณ์เศร้า
เหตุการณ์เกิดขึ้นที่ ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี คุณพ่อออกมาร้องขอความเป็นธรรมให้กับลูกตนเอง อายุ 14 ปี ที่โดนทำร้าย ครอบครัวน้องมีกัน 3 คน พ่อ พี่ชาย และน้องที่ถูกทำร้าย ส่วนแม่เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้แล้ว พ่อน้องประกอบอาชีพทั่วไป พี่ชายทำงานอยู่ต่างจังหวัด
จุดเริ่มต้นมาจาก ลูกชายคนเล็กไปเล่นฟุตบอลตามปกติ แล้วเกิดมีปากเสียงกับเพื่อนที่เล่นด้วยกัน แต่พ่อของคู่กรณีมาเห็นว่ากำลังทะเลาะกัน พ่อเด็กเข้ามาพูดไปว่า "มึงทำอะไรลูกกู" น้องจึงตอบไปว่า “ไม่ได้ทำอะไร ก็ทะเลาะกัน” โดยน้องบอกว่า ได้กลิ่นเหมือนสุราจากพ่อของคู่กรณี เขาด่าและข่มขู่ว่า "ไอเด็กเxย มึงระวังไว้ มึงรู้ใช่มั้ยว่ากูขับสิบล้อ ระวังจะโดน" น้องก็เถียงไปว่า "ตนก็ไม่ได้เxยนะ อย่าพูดแบบนี้" พ่อเด็กคนนั้นก็ต่อยเข้าเบ้าตาน้อง จนเขียวปูด แล้วก็กลับบ้านไป
น้องก็มาเล่าให้พ่อฟัง รุ่งเช้าน้องก็เข้าไปแจ้งความ ตำรวจบอกว่า เป็นเรื่องทะเลาะวิวาท อยากจะให้เข้ามาไกล่เกลี่ยกัน ให้จ่ายคนละ 1,000 บาท หลังจากพี่ชาบทราบข่าว จึงกลับมาจากต่างจังหวัด
พ่อ พี่ชาย และตัวน้อง ก็นั่งคุยปัญหาที่เกิดขึ้นว่าจะทำอย่างไร เพราะน้องก็ไม่มีเงิน 1,000 บาท จะไปจ่ายที่สถานีตำรวจ ช่วงที่คุยกัน พ่อได้พูดว่า "เราคนจน จะไปสู้อะไรกับเขาได้ เงินไม่มี ถ้าเรามีเงินก็สู้เขาได้ มีทางเดียวที่จะมีเงิน คือเงิน ฌาปนกิจของพ่อ" พี่ชายได้ฟังจึงเอ่ยปากห้ามพ่อ บอกว่ามีอีกหลายวิธีให้พ่อเลิกคิด อย่าทำแบบนั้น หลังจากนั้นต่างคนก็ได้แยกย้ายกันไปนอน
ช่วงตี 4 น้องตื่นมา เพื่อจะไปหาปลามาขายที่ตลาด แต่ต้องตกใจ เพราะเห็นพ่อจบชีวิตตัวเอง ที่ขื่อกลางบ้าน น้องทำอะไรไม่ถูก ก่อนไปเรียกญาติให้มาช่วยส่งโรงพยาบาล แต่ก็สายไปแล้ว วันจัดงานศพ แม้แต่โลงก็ยังไม่มี ญาติก็ต่างช่วยกันจัดงานให้พ่อน้อง โลงทางวัดก็จัดการให้
ส่วนคู่กรณี ตอนนี้หลังจากที่เป็นข่าว มีคนไปหาที่บ้านก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน อยากให้มาคุยให้รู้เรื่อง เป็นผู้ใหญ่ไปทำเด็ก
ส่วนบรรยากาศที่ วัดบางบอน ต.หัวโพธิ์ อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของคุณพ่อ ลูกชายคนโตเล่าว่า พ่อเกิดอาการเครียดเรื่องน้องไปโดนชกต่อย แล้วคดีไม่คืบหน้า พ่อเขาเครียด ถามตนทุกวัน ว่ามีเงินไปช่วยน้องขึ้นศาลไหม ตนก็ไม่มี พ่อก็ไม่มี ไม่รู้จะทำยังไง ตนทำงานหาเงินให้ทุกวัน จะให้เขาเอาเงินไปขึ้นศาล ก็ไม่คิดว่าเขาจะมาทำแบบนี้ เรื่องชกต่อยเกิดขึ้นที่โรงเรียน แต่คดี 1 เดือน 1 วัน ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย ตนเป็นคนไปแจ้งความให้ แต่ตำรวจเขาไม่เอาตนเป็นผู้ปกครอง แต่ตนเป็นพี่คนโตของเด็ก แต่เขาจะเอาพ่อเป็นคนแจ้ง พ่อไม่สบาย ป่วย เขาก็จะเอาพ่อ แต่ถ้าเอาตนไปแจ้ง ก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เพราะตนก็ไม่อยากบอกเขา พ่อเขาเครียดกลัวไม่มีเงินไปสู้คดี ถึงมีเงินไปสู้คดีเราก็แพ้ เพราะเราไม่มีอะไรไปสู้กับเขา เงินติดตัวกินข้าวยังไม่มีกันเลย ทางคู่กรณีเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะอย่างไง
เรื่องที่เกิดขึ้นมันเป็นเรื่องของเด็ก 2 คน แล้วพ่อของฝั่งโน้นมายุ่ง เขาเมาด้วย แล้วเขามาต่อยน้องตน เหมือนมาเคลียร์ให้ลูก ลูกเขาก็คนละชั้น คนละโรงเรียนกันด้วย วันนี้จริงๆตำรวจเรียกขึ้นศาลวันนี้เพื่อไกล่เกลี่ยกับคู่กรณี ส่วนเงิน 1,000 บาท ตนก็ไม่เข้าใจ แต่พ่อบอกตนมาว่าร้อยเวรปรับคนละ 1,000. บาท แต่พ่อบอกเขาว่าไม่มี รอขึ้นศาลได้ไหม เดี๋ยวค่อยให้ พ่อเขาพูดกับตนทุกวัน เป็นอาทิตย์แล้ว เขาก็รู้ว่าตนไม่มี แต่ตัวเขาเองมีประกันหมู่บ้านอยู่ ตนคิดว่าเขาน่าจะเอาตัวนี้มาช่วย มาขึ้นศาล แต่เขาไม่น่าทำแบบนี้
ด้าน พลเมืองดี อายุ 27 ปี คนที่เข้ามาช่วยเหลือน้อง กล่าวว่า มีผู้ประสงค์ดี หวังดีกับน้อง ติดต่อมาอยากให้ตนเข้ามาดูแลเคสนี้ ตนมองว่า เรื่องนี้ ในทางคดี อาจจะมีนอกมีในกัน ช่วยเหลือกัน อยากให้ผู้เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยกัน ครอบครัวนี้น่าสงสาร ขนาดโลงศพยังไม่มีเงินซื้อเลย คนตายพอเขารู้เรื่อง เขาก็เครียด แล้วเขาก็ไม่รู้กฎหมาย
ตัวพ่อเขาเองก็ไม่มีเงินอยู่แล้ว มีการท้าให้แจ้งความกลับ ฝั่งโน้นเขาก็ท้า ถ้าแน่ก็แจ้งความเลย พูดแบบนี้ตนก็ไม่รู้ว่ามีอะไรกับตำรวจ ถึงได้พูดแบบนี้ อยากให้หน่วยงานเข้ามาดูแลน้อง สนับสนุนน้อง บ้านก็ยากจนมาก และระแวงเรื่องความปลอดภัยด้วย แต่ตัวเองก็ต้องยอมดำเนินคดีเพื่อพ่อ เพราะพ่อทำเพื่อเราถึงที่สุด