สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีคนทะเลาะวิวาทกันบริเวณสี่แยกไฟแดงสนามกีฬาเวสสุวัณ หน้าปากซอยประชาสันติ ถนนนิตโย เขตเทศบาลนครอุดรธานี สายตรวจ 191 รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาย อายุ 68 ปี ชาวนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ยืนอยู่ข้างรถยนต์สีแดง โดยมีภรรยานั่งอยู่ในรถเบาะหลังคนขับ บริเวณกระจกประตูด้านซ้ายฝั่งคนขับแตกเสียหาย
สอบถามชายเจ้าของรถ เล่าว่า เช้าวันนี้ตนขับรถข้ามมาพบหมอตามนัดที่ รพ. แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี พอหาหมอเสร็จตนกับภรรยาก็ไปเดินเที่ยวห้า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถออกจากห้าง เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองอุดรธานี ต่อมามีฝรั่งขี่ จยย. มีเด็กนักเรียนผู้ชาย อายุประมาณ 7-8 ขวบ ซ้อนด้านหลัง เข้ามาประกบรถตนแล้วก็ด่าทอ โวยวายหาว่าตนขับรถปาดหน้า ตนก็แปลกใจว่าตนขับปาดหน้าตอนไหน หรือเป็นจังหวะที่ตนเลี้ยวออกจากห้าง
เมื่อขับมาติดสัญญาณไฟแดงที่สี่แยกสนามกีฬาเวสสุวัณ ฝรั่งที่ด่าตนก็จอดรถเดินลงมาด่าอีก ก่อนจะชกกระจกมองข้าง แล้วชกกระจกประตูรถด้านซ้ายฝั่งคนขับจนแตก แล้วชกเข้าที่ดั้งจมูกตน 1 ครั้ง แล้วขี่ จยย. หลบหนีไป
ตนได้ยกมือถือถ่ายรูปไว้ได้ 1 รูป เพื่อเป็นหลักฐาน ตนไม่เข้าใจว่าไปขับรถปาดหน้าตอนไหน ตนขับรถมาตามปกติ ตามประสาคนสูงอายุ ถนนก็โล่ง คิดว่าไม่ได้ปาดหน้าใคร อยากให้ตำรวจ เรียกฝรั่งคนดังกล่าวมาตักเตือน และชดใช้ค่าเสียหายให้ตนด้วย
หญิง อายุ 68 ปี ภรรยาที่นั่งอยู่ในรถ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่เบาะหลัง เห็นฝรั่งโวยวายว่าขับรถปาดหน้า ตนก็ลดกระจกลงมาแล้วบอกว่า “Sorry sorry” เพราะเขากำลังโมโห เราก็ต้องใจเย็นไว้ แต่เขาก็ไปโวยวายแล้วชกกระจก ชกหน้าสามีตน ผู้ก่อเหตุอายุประมาณ 40-45 ปี เป็นฝรั่ง แต่ไม่ทราบสัญชาติ พูดภาษาอังกฤษ มีลักษณะโมโหร้ายมาก
จากนั้น ตำรวจสายตรวจ 191 ได้แนะนำให้ผู้เสียหายไปที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับชายชาวต่างชาติที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย และทำลายทรัพย์สิน
จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณดังกล่าว พบว่ากล้องพังเสียหาย ยังไม่ได้ซ่อม จึงได้ประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่ผู้ก่อเหตุหลบหนี เพื่อเป็นเบาะแสติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป