เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ผ่านมา ที่โรงเรียนมัธยมเเห่งหนึ่ง ใน จ.นนทบุรี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชันเ เละกองกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาตลิ่งชัน กระทำความผิดฐานกระทำโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่สำนักงานอัยการสูงสุด พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550
และสวมเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของเจ้าพนักงานสำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ์ เพื่อให้บุคคลอื่นเชื่อว่าตนมีสิทธิ์ และ พ.ร.บ.เครื่องหมายราชการ พ.ศ. 2482 ตามความในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 141 วรรคหนึ่ง
สำหรับคดีนี้ เดิมทางสำนักงานอัยการสูงสุดโดยคณะกรรมการอัยการ ได้รับการร้องเรียนให้ชี้แจงกรณีที่มีการสอบถามเกี่ยวกับสถานะของชายคนดังกล่าว ซึ่งได้แสดงตนในสถานที่หลายแห่งว่าเป็นที่ปรึกษาอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ซึ่งพบหลักฐานในสื่อสังคมออนไลน์
ทางอัยการสำนักงานการสอบสวนได้ตรวจสอบพบว่า เมื่อช่วงปี พ.ศ.2565 ชายคนดังกล่าวเป็นที่ปรึกษาอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน ในลักษณะที่ปรึกษาส่วนตัว โดยไม่ได้จัดพื้นที่หรือห้องให้ปฏิบัติงาน
เพื่อให้ได้ความชัดเจน อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน จึงได้มอบหมายคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการกระทำของชายคนดังกล่าว ว่ามีการกระทำที่อาจเข้าข่ายในทางที่ให้เกิดความเสียหายต่อสำนักงานการสอบสวน และสำนักงานอัยการสูงสุด และให้รายงานการตรวจสอบพร้อมความเห็นประกอบการพิจารณา เพื่อรายงานอัยการสูงสุดต่อไป
เมื่อคณะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้พิจารณาเกี่ยวกับการกระทำของชายคนดังกล่าว พบว่า การกระทำที่โพสต์ภาพตนเองขณะแต่งกายเครื่องแบบปกติขาวของข้าราชการฝ่ายอัยการ โดยประดับเครื่องหมายคล้ายเครื่องหมายของสำนักงานอัยการสูงสุด ในลักษณะเผยแพรโดยสาธารณะ ซึ่งบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงได้ และเข้าใจได้ว่าเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการ อาจเป็นการกระทำที่มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 141 และ พรบ.เครื่องหมายราชการฯ มาตรา 6, 8 เเละการตรวจสอบพบว่า ชายดังกล่าวมิได้มีสถานะข้าราชการอัยการ และยังได้แต่งกายเครื่องแบบหรือประดับเครื่องหมายของของสำนักงานอัยการสูงสุดโดยไม่มีสิทธิ์
เจ้าพนักงานคดี สำนักงานอัยการ สำนักงานการสอบสวน จึงดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับชายคนดังกล่าว เมื่อวันที่ 5 ม.ค. 2567 ต่อพนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน เเละยังพบว่ามีพยานพบเห็นชายคนดังหล่าวมีพฤติการณ์แต่งกายคล้ายเครื่องแบบปกติขาวและกากี และเครื่องหมายแสดงสังกัดสำนักงานอัยการสูงสุดผ่านทางเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรมอีกหลายสิบครั้ง จนอัยการสูงสุดได้มอบหมายให้เเจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก เมื่อวันที่ 20 มี.ค. 2567 จนมีการขอออกหมายจับ เเละศาลอนุญาตออกหมายจับเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. และสามารถจับกุมตัวได้เมื่อวันที่ 25 ก.ค. โดยขณะถูกจับกุม ผู้ต้องหาใส่ชุดเลียนเเบบข้าราชการอัยการเเบบเต็มยศ เเละต่อมาภายหลังได้รับการประกันตัว
สำหรับการดำเนินคดี พนักงานสอบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้สรุปสำนวนมีความเห็นทางคดี เมื่อวันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญาตลิ่งชัน 2 พิจารณาดำเนินการ จนภายหลังจับกุมได้ตัวมาตามหมายจับของศาล ทราบว่าขณะนี้พนักงานอัยการมีคำสั่งให้ทำการสอบสวนเพิ่มเติม โดยนัดหมายสอบคำให้การผู้กล่าวหาเพิ่มเติมในวันที่ 31 ก.ค. นี้
สำหรับผู้ต้เองหา ได้ปรากฏภาพเเละข่าวตามสื่อมวลชนในงานของหน่วยราชการต่างๆ เช่น พิธีประดับยศของข้าราชการ หรืองานจัดอบรมตำเเหน่งสำคัญของข้าราชการในบางกระทรวง เเละยังมีพฤติการณ์ไปพบปะบุคคลระดับสูงของหน่วยงานราชการต่างๆ จนมีผู้หลงเชื่อว่าเป็นข้าราชการฝ่ายอัยการจริง เเละพบว่ายังมีพฤติการณ์อื่นๆ นอกจากเรื่องเเสดงตัวเป็นอัยการ ที่ถูกร้องเรียนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดอีก