เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล ได้ไปออกรายการ สถานีประชาชน ให้ความรู้ประชาชนเกี่ยวกับภัยไซเบอร์ โดยช่วงหนึ่ง ‘สารวัตรแจ๊ะ’ ได้พูดถึงอุบายที่ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่อันตรายที่สุดในตอนนี้ นั่นก็คือ ‘ฟีลแฟน’ มิจฉาชีพจะเข้ามาในเชิงจีบ พูดคุยสานสัมพันธ์แบบคนรัก ก่อนจะหลอกให้ลงทุนต่างๆ นานา สุดท้ายผู้เสียหายก็เสียทรัพย์

สารวัตรแจ๊ะ เผยว่า วิวัฒนาการการหลอกของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มุกเดิมๆ คนรู้ทัน เขาเลยพัฒนารูปแบบ จะเรียกกันว่า ‘ฟีลแฟน’ อันตรายที่สุดในตอนนี้ ลักษณะคือจะใช้เรื่องความรักมาก่อน ก่อนจะพาไปเชือด เช่น หลอกลงทุน หลอกให้เทรดหุ้น
มิจฉาชีพจะมาในรูปแบบโปรไฟล์เป็นผู้หญิงสวยหรือผู้ชายหล่อ จะเลี้ยงความรักเลี้ยงฟีลแฟนประมาณ 2 สัปดาห์ โดยจะไม่พูดถึงการลงทุนเลย จนกว่าเหยื่อจะกินเบ็ดเอง ประมาณว่าเธอทำอะไร เขาก็จะเริ่มใส่ข้อมูลว่าฉันทำแบบนี้ๆ แล้วก็ลากเข้าไปสู่ขบวนหลอก เข้าไปในห้องไลน์ มีหน้าม้า 3-4 คน เอาเงินเข้าแล้วออกไม่ได้
ที่มันสร้างความรุนแรงเพราะนอกจากจะเป็นการเล่นกับความรู้สึกแล้ว สถานะของผู้ถูกหลอกบางคนไม่สามารถที่จะปรึกษาใครได้ เช่น คนที่มีแฟนอยู่แล้ว แต่ไปคุยกับอีกคน (มิจฉาชีพ) หรือทำอาชีพที่สังคมไม่ยอมรับ ไม่สามารถเปิดเผยเรื่องความรักให้ใครทราบได้ ตัวผู้ถูกหลอกเจ็บปวดมากที่สุด โอนอย่างเดียว
เพราะฉะนั้นวิธีป้องกันก็คือ ดูความสมเหตุสมผลอย่างเช่นว่า “ผู้ชายที่หน้าตาธรรมดาแบบผม แต่มีคนสวยอย่างพิธีกรมาเปิดเกมรุกใส่ แบบนี้ผมต้องเอ๊ะแล้ว” จากนั้นให้ปรึกษาคนที่ปรึกษาได้ ถ้าพูดภาษาชาวบ้านคือปรึกษาเพื่อนที่มันแสบๆ ที่เราจะปรึกษาเรื่องแบบนี้ได้ เพื่อนจะให้คำตอบว่าแบบนี้ไม่ใช่แล้ว ไม่อย่างนั้นอาจจะเกินเลย บางรายถึงกับถ่ายรูปถ่ายคลิปโป๊เปลือย ซึ่งพอไปถึงขั้นนั้นแล้วเหยื่อจะอยู่ในสภาวะจำยอมไปตลอด
บางที่บางบริษัทคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน จะมีผู้หญิงสวยๆ ประจำเอาไว้คนหนึ่ง เพื่อคอยวิดีโอคอล ไว้เลี้ยงฟีลแฟน แต่ฉากหลังของคนที่คุยกับเราไม่ใช่คนนี้ และอาจจะเป็นชายหรือหญิงก็ได้

จากนั้น ทางพิธีกรหญิงได้แอบแซวสารวัตรแจ๊ะว่า หลังเวทีสารวัตรแจ๊ะบอกว่าขอคุยน้อยหน่อย พูดไม่ค่อยเก่ง แต่พอขึ้นมาเก่งมาก สุดยอดมาก พิธีกรจึงเล่าเสริมว่า ก่อนขึ้นเวทีพิธีกรมาฟ้องว่าตอนไปขอถ่ายรูป สารวัตรไม่ยอมคุยด้วยเลย
รวมถึงเพจ สืบนครบาล IDMB เอง ก็ได้นำคลิปช่วงดังกล่าวมาลง พร้อมแซวว่า “คนตื่นแฟน! มาฟังพ่อไมโครเวฟเตือนเรื่องฟีลแฟนที่ต้องระวังกัน นี่แค่เปิดตัวนะ แหม่… แล้วบอกพิธีกรว่า ขอพูดน้อยๆ พูดไม่เก่ง แถมหยอดไป 1 กรุบ”

สำหรับเวทีการพูดคุยดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Cyber Booster #สร้างภูมิสู้ภัยไซเบอร์ จากสถานการณ์สังคมไทยในปัจจุบันที่ต้องเผชิญปัญหาที่มาจากภัยไซเบอร์ การแสวงหาประโยชน์จากกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกลวงประชาชนในรูปแบบต่างๆ โครงการ Cyber Booster จะเข้ามาสร้างการตระหนักรู้ในภัยไซเบอร์ในช่องทางออนไลน์ เพื่อสร้างความเข้าใจและเสริมภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
