รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกับ เจ๊กันย์ ดอนเมือง หรือ คุณกรรณิกา สุทธิ ถึงปมปัญหาดรามาที่เกิดขึ้น หลังจากที่น้าสาวของ แอนนา ทีวีพูล หรือ นายวรินทร วัตรสังข์ ได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับเจ๊กันย์ในข้อหายักยอกทรัพย์ ซึ่งทรัพย์สินที่เป็นประเด็นคือรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ของแอนนา เรื่องราวบานปลายจนมีข่าวว่า แอนนาเมื่อทราบเรื่องก็เกิดความเครียดอย่างหนักจนพยายามจบชีวิตตัวเองในเรือนจำ
จุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด เกิดขึ้นหลังจากที่แอนนา ทีวีพูล ถูกดำเนินคดีฉ้อโกงประชาชน จากกรณีการขาย "กล่องสุ่มทอง" และถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ โดยก่อนหน้านี้แอนนาประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนไม่มีที่อยู่อาศัย ต้องมาอาศัยกินอยู่หลับนอนที่บ้านของเจ๊กันย์
สำหรับรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ที่เป็นต้นเหตุของปัญหานั้น มีชื่อผู้ครอบครองเป็นน้าสาวของแอนนา เนื่องจากตัวแอนนามีปัญหาเรื่องเครดิตบูโร จึงไม่สามารถออกรถในชื่อของตัวเองได้ ในช่วงที่แอนนากำลังมีปัญหาทางการเงินอย่างหนักก่อนจะเข้าเรือนจำ ต่อมาแอนนาได้ยกรถคันนี้ให้ น้องชายของแอนนาได้นำรถคันดังกล่าวไปจำนำเพื่อนำเงินสดมาใช้หนี้สินต่างๆ
ต่อมา เจ๊กันย์ ดอนเมือง ได้ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ โดยเป็นคนนำเงินไปไถ่ถอนรถยนต์คันนี้ออกจากที่จำนำให้ และได้ทำข้อตกลงกับแอนนาว่า ให้แอนนามาเป็นหนี้เจ๊กันย์แทน เมื่อไถ่รถออกมาแล้ว รถเบนซ์คันดังกล่าวก็ได้ถูกนำมาจอดไว้ที่บ้านของเจ๊กันย์ เพราะในช่วงเวลานั้นแอนนาก็อาศัยอยู่ที่บ้านของเจ๊กันย์อยู่แล้ว
หลังจากที่แอนนาถูกควบคุมตัวเข้าเรือนจำ ปัญหาจึงได้เกิดขึ้น เมื่อน้าสาวของแอนนาซึ่งเป็นผู้มีชื่อครอบครองรถยนต์ตามกฎหมาย ได้เดินทางไปแจ้งความดำเนินคดีกับเจ๊กันย์ในข้อหายักยอกทรัพย์ โดยอ้างว่าเจ๊กันย์ได้นำรถไปและไม่สามารถติดตามคืนได้ การกระทำดังกล่าวสร้างความลำบากใจให้กับเจ๊กันย์เป็นอย่างมาก เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาตนเป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแอนนามาโดยตลอด จนตัวเองก็มีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น
เจ๊กันย์เล่าว่า ในช่วงที่แอนนาประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนักจนต้องมาอาศัยกินอยู่หลับนอนที่บ้านของเจ๊กันย์ เจ๊กันย์เล่าว่า แม่และน้องชายของแอนนามักจะมาหาที่บ้านบ่อยครั้ง มาร้องไห้และขอเงินอยู่เสมอ ทำให้แอนนาเกิดความเครียดและได้มาระบายปรึกษาเจ๊กันย์ถึงความเดือดร้อนเรื่องเงินของครอบครัว จนในที่สุด เจ๊กันย์ได้ตัดสินใจมอบเงินสดจำนวน 480,000 บาท ให้กับแนน น้องชายของแอนนา ซึ่งมาพร้อมกับคุณแม่ เพื่อให้นำเงินไปไถ่ถอนรถยนต์คันดังกล่าวออกจากที่จำนำ และนำเงินส่วนที่เหลือไปใช้หนี้สินอื่น
อย่างไรก็ตาม เจ๊กันย์เพิ่งมาทราบความจริงเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา จากคำบอกเล่าของแนนเองว่า เงินสด 480,000 บาทที่เจ๊กันย์ให้ไปในวันนั้น แนนได้นำไปให้กับแอนนาทั้งหมด
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ผู้ดำเนินรายการถามว่า รู้สึกเหมือนถูกแอนนาหักหลังหรือไม่ ที่อาจจะให้น้องชายมาเป็นคนกลางในการขอเงิน แต่สุดท้ายเงินกลับไปอยู่ที่แอนนา เจ๊กันย์ตอบว่า คนเราเวลาเดือดร้อนก็อาจจะต้องมีการโกหกกันบ้าง แต่ตนเชื่อว่าแอนนาไม่ได้คิดร้ายกับตน และยังคงเชื่อใจในความเป็นเพื่อน
เรื่องรถเบนซ์นี้ น้าของแอนนาเขารู้อยู่แล้วว่ารถอยู่ไหน เราเอาไปจอดไว้ให้ ให้เขามาเอากลับไป เขาก็ไม่มาเอา แล้วเขาก็ไปแจ้งความเรา ว่าเรายักยอก ในต้นเดือนตุลาคม 2567 แล้วพอมาช่วงสิ้นเดือนตุลาคม น้าติดต่อมาหากันย์ ว่าขอเงินไปจ่ายค่างวดรถเบนซ์ กันย์ก็ยังโอนเงินไปให้ โอนเข้าบัญชีน้านั่นเอง ทั้งที่เขาแจ้งความกันย์แล้วแท้ๆ แต่ไอ้เงินค่างวด 57,000 บาท ที่โอนไปให้จ่ายค่างวด ไม่รู้ว่าเขาจ่ายไม่จ่าย แต่แค่คิดว่า เราไม่อยากให้เขาทะเลาะกันในครอบครัว จะได้ทำงานหาเงินมาใช้หนี้เรา
ช่วงที่แอนนาใช้รถเบนซ์คันนี้อยู่ เรายังทำประกันชั้น 1 ให้เขา 3 หมื่นกว่าบาท เพราะกลัวว่าแอนจะไปประสบอุบัติเหตุ เปลี่ยนยางรถให้ใหม่อีกหลายหมื่น เพราะรู้ว่าเขาใช้รถเดินทางบ่อย
พอถึงเวลาแอนนาติดคุกแล้ว น้ายังโทรมาบอกว่า รถเบนซ์ที่มีปัญหาอยู่นี้ ให้เจ๊กันย์ปิดไฟแนนซ์ให้ได้ไหมล่ะ จะได้หมดเรื่องหมดราวกันไป พอเช็กยอดปิด เหลืออีก 8 แสนกว่าบาท เราหมดเงินกับรถคันนี้ไปตั้งแต่แรกแล้ว ก็หลายแสน ถ้าจะให้จ่ายอีก 8 แสนเราคงโง่น่าดู ก็เลยไม่จ่าย
เจ๊กันย์ยังได้หลั่งน้ำตาออกมา พร้อมกล่าวว่า ตนเชื่อมั่นว่าหากวันนี้แอนนายังไม่ได้เข้าเรือนจำ เรื่องราวทั้งหมดนี้คงไม่เกิดขึ้น เพราะแอนนาจะไม่มีวันยอมให้ใครมาแจ้งความดำเนินคดีกับตนอย่างแน่นอน เจ๊กันย์ บอกว่า ที่ผ่านมา น้องสาวของแอนนามายืมเงินตน 150,000 บาท ยังมีแชตอยู่เลย เขามาร้องห่มร้องไห้ เราก็ยังให้เขาไป
ขณะที่แนน น้องชายแอนนา โทรเข้าในรายการ บอกว่า ที่ไปหาแอนนาที่บ้านบ่อยๆ ที่แอนนาบอกว่า แนนกับแม่ไปขอเงินเขา จริงๆแล้วไม่ใช่ แอนนาให้ตนกับแม่ไปกู้เงินคนอื่นมาให้เขา แล้วแอนนาไม่ใช้หนี้ ตนกับแม่ก็เลยต้องไปทวงเงินเขา ไม่ได้ไปขอเงิน
ช่วงนั้นที่แอนนาทำการค้าขาย เขาล้ม เขาไม่มีเงินจ่ายลูกน้อง เขาก็ให้ตนไปกู้เงินมาก่อน เอามาจ่ายค่าแรงลูกน้อง กับค่าของในบริษัท กู้นอกระบบเสียดอกแพง พอเข้าเดือนที่ 3 ก็กลับมาติดลบอีก ตนบอกว่าถ้าไม่ไหวให้เลิก อย่าไปดันทุรัง เขาก็ไม่เลิก บอกว่าถ้าไม่ทำต่อ ล้มแน่ เขาก็ให้ตนไปกู้เงินมาจ่ายค่าแรงลูกน้องอีก ตนกับแม่จ่ายดอกเบี้ยทั้งหมด แอนนาไม่เคยมาช่วยเลย ที่ต้องไปตามทวงเงินแอนนาที่บ้าน ก็เพราะเจ้าหนี้เขาทวง
แล้วที่เจ๊กันย์ให้เงินมา 480,000 บาท ตนเอาเงินไปไถ่รถออกมาทั้ง 3 คัน เพราะเจ๊กันย์บอกว่า เอาเงินก้อนนี้ไป แล้วอย่าเพิ่งมายุ่งกับแอนนาอีกพักใหญ่ๆ แล้วกัน ให้แอนนาได้ตั้งสติ ได้ทำงานก่อน แล้วถามว่า ในเมื่อเอาเงิน 4.8 แสนไปไถ่รถ ทำไมถึงไปพูดกับเจ๊กันย์ว่า เอาเงินไปให้แอนนา แนนตอบว่า คึวามหมายของตนคือ แอนนาบอกว่าจะรับผิดชอบหนี้ของเจ๊กันย์ ก้อนนี้ 480,000 เอง ไถ่รถออกมาแล้ว 3 คัน รถเบนซ์ทิ้งไว้กับแอนนาที่บ้านเจ๊กันย์ ส่วนรถฟอร์จูนเนอร์ และ รถกระบะ เอากลับไปให้คนที่บ้านใช้
เท่ากับ กล่าวโดยสรุป เจ๊กันย์ ให้เงิน แนนกับแม่ ยืมแบบไม่คิดดอกเบี้ย 480,000 บาท เพื่อเอาเงินไปไถ่ถอนรถทั้ง 3 คนออกมา แล้วเอารถทั้ง 3 คันที่ได้คืนมา เอามาเป็นประกันเงินกู้กับเจ๊กันย์ แต่เป็นแค่ประกันในตัวหนังสือ เพราะสุดท้าย รถทั้ง 3 คัน ก็กระจายออกไป รถเบนซ์แอนนาใช้ รถฟอร์จูนเนอร์แนนเอาไปใช้ และ รถกระบะ พ่อเลี้ยงเอาไปใช้
แนนบอกว่า เรื่องหนี้ 480,000 บาทที่เจ๊กันย์ให้มา ตอนแรก เจ๊กันย์บอกว่าจะเอาบ้านของแอนนาล้างหนี้ โดยพูดพร้อมกันตอนที่ไปเยี่ยมแอนนาในเรือนจำ พอเจ๊กันย์บอกว่าจะเอาบ้าน ค่าเช่าบ้านที่มีคนเช่าอยู่แนนก็ให้เจ๊กันย์เก็บไปเลย แต่พอผ่านไป 3 เดือน เจ๊กันย์บอกว่าไม่เอาแล้วบ้าน เพราะว่าบ้านถูกธนาคารยึดไปแล้ว เพราะบ้านติดจำนอง จนถูกธนาคารยึด แล้วจะขายทอดตลาด แนนก็คิดว่าแนนล้างหนี้ก้อนนี้ไปแล้ว
เจ๊กันย์บอกว่า การที่แนนพูดออกรายการวันนี้ แนนจะเถียงให้ได้ว่า กันย์ผิดเรื่องบ้าน แต่แนนไม่พูดเลยว่า แนนกับแม่ไปขนข้างของในบ้านออกมาหมด เฟอร์นิเจอร์ในบ้านไม่เหลืออะไรเลย โซฟาก็ไม่เหลือ รถเข็นหมาก็เอาออกมา แล้วที่บอกว่าให้เจ๊กันย์เก็บค่าเช่าบ้าน เจ๊กันย์บอกว่าเก็บได้แต่ 6 หมื่น เดือนเดียว แล้วลูกค้าเขาก็ออก แล้วลูกค้ามาเอาเงินมัดจำไปแสนกว่าบาท ถามว่ากูได้อะไรจากเรื่องนี้
คนดูในรายการถึงกับอึ้ง เพราะเจ๊กันย์ที่พูดในทีวี ดูนิ่งๆ เนิบๆ ไม่ยอมพูดหยาบ เพราะเซ็นสัญญาไว้ว่าจะไม่พูดหยาบออกทีวี แต่พอเข้าช่วงโซเชียล เจ๊กันย์ไฟแลบ จนอึ้งไปเลยว่า นี่คนเดียวกันไหม สุดท้ายแนนเคลียร์ในรายการว่า เมื่อเจ๊กันย์ไม่เอาบ้าน ก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้ 480,000 บาท
แนน อธิบายอีกเรื่องรถเบนซ์ ที่น้าของแอนนาเป็นคนฟ้องเจ๊กันย์ ที่มาเพราะว่า ก่อนแอนนาจะติดคุก น้าไม่รู้เลยว่าใครเอารถไปใช้ เอาไปจำนำอะไร แต่พอแอนนาติดคุก น้ามาถามว่ารถเบนซ์อยู่ไหน ถามกับแนน และถามกับ แม็กซ์ที่เป็นอดีตแฟนของแอนนา ก็บอกไปว่ารถอยู่กับเจ๊กันย์ ให้ไปคุยกันเอง เขามีแชตกลุ่มกันสามคน (เจ๊กันย์-น้า-แม็กซ์) แต่พอถึงเวลาค้างค่างวดนาน แล้วติดตามเอารถคืนไม่ได้ ไฟแนนซ์เขาก็เลยไปฟ้องน้า แล้วน้าก็เลยมาฟ้องเจ๊กันย์อีกที
แต่ทางทนายแก้วบอกว่า น้าของแอนนาอาจจะฟ้องผิดคนหรือเปล่า เพราะคนที่เอารถมาจำนำ คือแนนกับแม่ น้าในฐานะผู้เช่าซื้อต้องไปฟ้องคนที่ขับรถมาจอด ไม่ใช่ไปฟ้องเจ้าหนี้คือเจ๊กันย์
เจ๊กันย์บอกว่า รถไม่เคยหวงไว้เลย เมื่อเขาบอกว่าจะเอารถกลับไป ตนก็เอาไปจอดทิ้งไว้ที่บางกะปิ เพื่อให้คนที่จะเอารถ มาเอารถกลับไปเลย แต่ก็ไม่มีใครมาเอา ไฟแนนซ์มาตามรถคืน เขาก็มาเช็กสภาพรถ พบว่ารถมันสตาร์ทไม่ได้แล้ว เป็นซากแล้ว เขาไม่รับคืนทุกกรณี สุดท้ายก็เลยฟ้องน้าของแอนนาในฐานะผู้เช่าซื้อ
ขณะที่โบกัส เพื่อนสนิทแอนนา เล่าเรื่องแอนนาว่า ชีวิตแอนนาเข้าไปในคุกได้เพราะเขาใช้เงินมือเติบ ใช้ชีวิตหรูหราฟู่ฟ่า เที่ยวต่างประเทศ ไปเดินแบบต่างประเทศ ต้องใช้เงินเยอะมาก เพื่อสร้างเครดิตให้ตัวเอง เพื่อที่ว่าขายกล่องสุ่มจะได้มีคนซื้อ เขาใช้วิธี เปิดรอบสั่งครั้งละ 15 วัน เปิด 1 รอบ ได้เงินมาเป็นสิบๆ ล้าน เอาเงินไปโปะรอบก่อนหน้า หาเงินมาปิดรอบก่อนหน้า แต่ทุกครั้งที่ทองแพงขึ้น เขาต้องขาดทุน แล้วในขณะที่ใช้ชีวิตงูกินหางแบบนี้ เขาก็ยังไม่หยุดใช้ชีวิตหรูหราแบบนี้ ยังซื้อแบรนด์เนม ยังโชว์ไลฟ์สไตล์
วันที่เขาติดคุก จริงๆ เขายังสามารถขอประกันตัวได้ แต่เขารู้ว่าถ้าประกัน เจ๊กันย์เป็นคนต้องไปหาเงินมาประกัน ต้องไปวิ่งเต้นหาเงิน เขาคิดว่า เขาเข้าคุกไป จะได้ตัดปัญหา ไม่ต้องหาเงินมาใช้หนี้ใครอีก วันที่ก่อนจะเข้าคุก ผู้เสียหายเขามาตามทวงเงิน ถ้าได้เงินวันนั้น เขาก็คงไม่ฟ้อง แอนนาบอกว่า ถ้าขอเงินเจ๊กันย์มาจ่ายคนนี้ คนต่อๆ ไปก็จะมาอีก เขาสั่งทนายไว้เลยว่า วันที่จะต้องเข้าคุก ห้ามโทรบอกเจ๊กันย์ เพราะจะไม่ยอมให้เพื่อนลำบาก
โบกัสบอกอีกว่า ตลอดเวลาที่แอนนาอยู่ในเรือนจำ เจ๊กันย์ไม่ค่อยไปเยี่ยม แต่เงินถึงตลอด ฝากเงินผ่านมาทางตนเอาไปให้แอนนา ฝากทีเป็นหมื่น เพิ่งมาหยุดให้ตอนที่มีเรื่องกับน้านี่เอง
นิกกี้ขยี้ข่าว ที่ช่วยเหลือ เจ๊กันย์ ก็ยังบอกว่า ขนาดแอนนาอยากเปิดร้านขายของในเรือนจำ อยากลงทุน ยังฝากมาขอเงินเจ๊กันต์อยู่เลย