ความคืบหน้าคดีการเสียชีวิตของชาวต่างชาติ 6 ราย ในโรงแรมหรูกลางเมือง กทม. พื้นที่ สน.ลุมพินี โดยผลชันสูตรเบื้องต้นพบว่าถูกวางยาพิษ ‘สารไซยาไนด์’
ต่อมา ตำรวจได้เชิญ ‘นายฮุ่ง’ อายุ 50 ปี สัญชาติเวียดนาม อดีตสามีของ หญิงนายหน้า อายุ 47 ปี สัญชาติเวียดนาม (หมายเลข 2) 1 ใน 6 ผู้เสียชีวิต เข้ามาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี เนื่องจากพบว่าวิดีโอคอลกับ หมายเลข 2 ก่อนเสียชีวิต
จากการสอบปากคำ นายฮุ่งให้การว่าเป็นข้าราชการเวียดนาม อยู่ระหว่างเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันไม่ได้อยู่กับ หมายเลข 2 และก่อนเกิดเหตุได้พูดคุยผ่านทางวิดีโอคอลกับอดีตภรรยา ก่อนเสียชีวิต
หลังการสอบปากคำเป็นเวลานานกว่า 5 ชั่วโมง เชื่อว่า นายฮุ่ง ไม่น่ามีส่วนรู้เห็นกับการวางยาพิษ ขณะที่ทีมข่าวได้พยายามสอบถามข้อเท็จจริงต่างๆ กับล่ามแปลภาษาของนายฮุ่ง ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ได้รับคำตอบกลับมาเป็นภาษาเวียดนาม
ส่วนการสอบปากคำ นายฟาน อายุ 35 ปี ไกด์ชาวเวียดนาม ได้ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า หมายเลข 2 เคยมาเป็นลูกทัวร์กับตนอยู่บ่อยครั้ง จึงทำให้รู้จักกันในระดับหนึ่ง ส่วนเหตุการณ์ดังกล่าว ตนได้รับการประสานจาก หมายเลข 2 ให้ไปซื้อ ‘ยางูหมายเลข 7’ ซึ่งเป็นภาษาที่รู้กันทั่วไปในกลุ่มไกด์ทัวร์ที่มีลูกทัวร์เป็นคนจีนหรือเวียดนาม ว่ายาดังกล่าวคือยารักษาอาการปวดไขข้อ
และยืนยันว่า ตนไม่รู้เรื่องกับการวางยาพิษแต่อย่างใด ซึ่งเบื้องต้นตำรวจยังไม่ได้ปักใจเชื่อ จึงนำตัวยาดังกล่าวส่งให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ชุดสืบสวนสงสัย หมายเลข 2 นายหน้าผู้ที่ชักชวนกลุ่มผู้เสียชีวิตมาร่วมลงทุน กับ หญิง อายุ 56 ปี สัญชาติอเมริกัน (หมายเลข 5) ซึ่งเป็นคนชักชวนชาวเวียดนามระดมทุนประกอบธุรกิจ รพ. ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็น 2 ผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุวางยาเพื่อนร่วมชาติ
นอกจากนี้ ได้รับการประสานข้อมูลจากหน่วยงานสืบสวนพิเศษสหรัฐอเมริกาว่า หมายเลข 5 มีประวัติถูกผู้เสียชีวิตชาวเวียดนาม แจ้งไว้ที่ตำรวจซานฟรานซิสโก ว่าถูกหมายเลข 5 ต้มตุ๋น โดยอ้างว่าสามารถขอสัญชาติอเมริกัน แลกกับค่าดำเนินการ เป็นเรื่องที่เกิดมานานกว่า 10 ปี แต่อัยการสหรัฐฯ สั่งไม่ฟ้อง ทำให้ไม่มีประวัติในการก่อคดี
ที่มา : ch 3