รายการโหนกระแสวันนี้ พูดคุยกัน กรณี คุณนา แม่ค้าอ่องมันปู ออกมาโพสต์ขอความเป็นธรรม หลัง "แม่ปูนา" หรือ "แม่บีม" ปูนาฟ้าใส สั่งซื้อสินค้าแล้วโอนเงินมาไม่ครบ เป็นเพียงบางส่วนเพื่อให้ส่งของไปให้ ส่งผลให้ยอดค้างชำระสะสมกว่า 455,845 บาท อีกทั้งยังมีการกล่าวอ้างว่าสินค้าไม่ได้คุณภาพโดยไม่มีหลักฐานตีกลับมา ทำให้เจ้าของสินค้าออกมาเรียกร้องให้มาเคลียร์หนี้ดังกล่าว
คุณนา เปิดเผยว่า รู้จักแม่ปูนามานานกว่า 7-8 ปี ทำธุรกิจร่วมกันมาตลอด โดยที่ผ่านมาไม่มีปัญหา ทุกครั้งที่มีการสั่งของจะจ่ายกันเป็นล็อต แต่ปัญหาเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเศรษฐกิจย่ำแย่ และก่อนที่แม่ปูนาไปออกรายการโหนกระแสกับคุณจั๊กกะบุ๋ม เชิญยิ้ม ก็มีการพูดคุยว่าจะเคลียร์ยอดเก่าที่ค้างอยู่ราว 80,000 บาท หลังจากรายการออกอากาศ
วันที่ 2 เม.ย. 2567 แม่ปูนาได้โอนเงินมาให้ 10,000 บาท เพื่อให้แม่ค้าทำทุนซื้อของไปผลิตอ่องมันปูเพิ่มเติม เพราะคาดหวังว่ายอดสั่งซื้อจะเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นมีการส่งของต่อเนื่อง แต่การโอนเงินกลับเป็นยอดใหม่ที่ต้องส่งของเพิ่มเติม ไม่ใช่การชำระหนี้เก่า
แม้ยอดค้างจะเพิ่มขึ้น แต่แม่ค้าก็ยังคงส่งของให้ เพราะเห็นว่าเคยร่วมงานกันมายาวนาน อีกทั้งเข้าใจว่าแม่ปูนาเองก็ติดหนี้คุณจั๊กกะบุ๋ม แต่ไม่รู้รายละเอียดว่าติดหนี้กันเรื่องอะไร จนกระทั่งแม่ปูนาให้แม่ค้าส่งสินค้าไปออกงานครัวคุณต๋อยที่หาดใหญ่ ระหว่างวันที่ 21-30 มิ.ย. 2567
แม่ค้าขอให้โอนเงินก่อนส่งของ แต่แม่ปูนาโอนมาเพียง 100,000 บาท ขณะที่ของที่ส่งมีมูลค่าเกือบ 200,000 บาท ต่อมาแม่ค้าติดต่อไม่ได้อีก กระทั่งวันงาน แม่ปูนาติดต่อมาให้ส่งของเพิ่มเติม แต่เมื่อขอให้โอนเงิน แม่ปูนากลับบอกว่าไม่มีเงิน และอ้างว่าสินค้าไม่สามารถขายได้โดยไม่มีหลักฐานใด ๆ
วันหนึ่งที่มีการทะเลาะกัน แม่ค้าสรุปยอดค้างอยู่ที่ประมาณ 250,000 บาท ไม่รวมค่าขนส่ง แม่ปูนาจึงขู่ว่าหากไม่ส่งของ จะนำค่าเสียหายจากครัวคุณต๋อยมาหักลบยอดที่ค้างอยู่ ทำให้แม่ค้าจำใจต้องส่งของให้อีก พร้อมได้รับการโอนเงินมาเพียง 10,000 บาทในวันที่ 26 มิ.ย. และอีก 15,000 บาทในวันที่ 28 มิ.ย. ซึ่งเป็นยอดโอนครั้งสุดท้ายที่ได้รับ
หลังจากนั้นไม่สามารถติดต่อแม่ปูนาได้อีก จนกระทั่งวันที่ 13 ก.ค. 2567 แม่ปูนาติดต่อมาผ่านคนรู้จัก แต่ไม่ใช่เพื่อตกลงเคลียร์ยอดหนี้ กลับเป็นการขอสินค้าเพิ่มเติม เพราะสินค้าใหม่ที่แม่ปูนาไปเอามาจาก จ.เชียงใหม่ ขายไม่ได้ แม่ค้าจึงปฏิเสธการติดต่อ เพราะต้องการได้เงินคืน
ต่อมาในวันที่ 8 เม.ย. 2568 แม่ค้าตัดสินใจโทรหาแม่ปูนาเพื่อขอเคลียร์หนี้เพียง 50,000 บาท ซึ่งแม่ปูนารับปาก แต่ภายหลังก็อ้างว่าไม่มีเงินเพราะไปทำธุรกิจบ่อปลา และโอนมาให้แค่ 10,000 บาท ก่อนจะหายเงียบ พร้อมกล่าวขอโทษแบบขอหลบหนีไป "ทางธรรมชาติ"
คุณนา ระบุว่า รู้สึกเสียใจ เพราะตลอดเวลาที่ทำธุรกิจกันมา ได้ส่งของจนแม่ปูนาได้มีชื่อเสียง แต่ตัวเองกลับต้องเป็นหนี้ รถก็ถูกยึด ไม่มีแม้แต่ความเห็นใจจากอีกฝ่าย แม้จะเคยเห็นใจแม่ปูนาในวันที่เคยโดนโกง แต่สุดท้ายต้องออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ขอให้มาเคลียร์หนี้ที่ค้าง ไม่ว่าจะยอดเต็มหรือบางส่วน เพื่อให้ตนได้มีโอกาสตั้งหลักใหม่ในชีวิต
ด้าน แม่ปูนา หลังจากมีเรื่องราวนี้ขึ้นมา แม่ปูนาออกมาโพสต์ข้อความ พาดพิงไปถึง “สารตั้งต้น” ตัวต้นเรื่องที่ทำให้แม่ปูนามีปัญหา ระบุว่า
"เนื่องจากวันนี้ มีการไปพาดพิงรายการโหนกระแสเรื่องเงิน % (ซึ่งมันไม่ใช่ความจริง 1,000,000%) มีการไปพาดพิงเพจซ้อว่าเราโทรไปขอไม่ให้เล่นข่าว (ไม่มีการติดต่อกับซ้อและซ้อไม่ได้ติดต่อมา 1,000,000%) แต่มีเพจ…ติดต่อมาสอบถามข้อเท็จจริงจากเรา จริง (เราได้ขอไว้อย่าเพิ่งเล่นข่าวจริง แต่ไม่ใช่ซ้อ)
ตามที่ได้พิมพ์ไปก่อนหน้านี้ เรื่องราวการทวงยอดครั้งนี้มันจะไม่ซับซ้อนใดๆ เลย ถ้าไม่มี “อะไร” ลับลมคมในอะใรซ่อนอยู่ในเรื่องราว ติดตามหากันมานาน อยากเคลียร์ยอดมานาน ในเมื่อเจอกันแล้วก็ควรจ่าย แล้วจบ ต่างคนต่างไปทำมาหากินเส้นทางใคร เส้นทางมัน เราก็รับปากแล้วว่า “จะเคลียร์ยอดกัน” แต่หลังจากจับต้นชนปลายได้แล้ว #มันไม่ใช่การทวงยอดเพื่อต้องการเงิน #เป็นการยืมมือมาทวงยอดเพื่อฆ่าคนให้ตายไปจากสังคมจากที่มันควรจบง่ายๆ มันก็เลยต้องใช้เวลากันหน่อยนะคะ
ฝากถึงสารตั้งต้นความวุ่นวายในครั้งนี้ นิสา #จะโง่ควรโง่คนเดียวอย่าดึงคนอื่นมาร่วมโง่ด้วย #จะเหี้_ควรเหี้_คนเดียวอย่าดึงคนอื่นมาแปดเปื้อนด้วย คุณอยู่บึงกาฬแต่ยืมมือและออกคำสั่งอีกคนที่อยู่ลำพูน ให้ออกมาพิมพ์โน่น ส่งข้อมูลนี่ตามคำสั่งการของคุณ
คุณหนีคดีได้อยู่ แต่อีกคนที่คุณยืมมือเขามาฆ่าคน เขาไม่ได้หนีคดีเก่งแบบคุณ เขาไม่ได้เลวโดยสันด_นแบบคุณ แต่เขาเพียงแค่โดนคุณครอบงำและสั่งการ หยุดเถอะ คุณอย่าดึงเขาให้ถลำลึกไปมากกว่านี้อีกเลย ทวงเงินแทนที่จะได้เงิน มันจะกลับกลายเป็นว่า…
คุณอย่าพยายามจับวัว มาชนกับควาย เพื่อให้เป็นช้าง วัวมันก็คือวัว ควายมันก็คือควาย จับวัวมาชนกับควายให้กลายเป็นช้าง มันเป็นไปไม่ได้ค่ะนิสา หยุดพฤติกรรมอันเลวทรามของคุณเถอะนะคะ เผื่อเรื่องราวยุ่งเหยิงครั้งนี้มันจะจบได้ไวขึ้น หวังว่านิสาได้อ่านโพสต์นี้แล้ว นิสาจะใช้พื้นที่สมองที่นิสาพึงมี คิด ไตร่ตรอง ว่านิสาทำให้คนอื่นเดือดร้อนมามากจนเกินไปแล้ว คาดหวังนะคะ คาดหวังว่า นิสาจะเข้าใจ ขอบคุณค่ะ"
ในรายการโหนกระแสวันนี้ นิสา อดีตแอดมินของแม่ปูนา มานั่งในรายการด้วย และบอกว่า นอกเหนือจากคุณนา ยังมีผู้เสียหายอีกมากมายที่ได้รับผลกระทบ เดือดร้อนจากแม่ปูนา ทักมาหานิสา ให้นิสาช่วย เพราะไม่มีใครกล้าออกมาสู้ เพราะแม่ปูนาหลังจากมาออกรายการโหนกระแส ก็ไปแสดงตัวว่าเป็นคนดัง กระแสสังคมแห่ไปชื่นชมเขาเยอะ ทั้งที่จริงๆ ภาพที่ออกทีวีกับตัวจริงไม่เหมือนกันเลย
วันนั้นที่เขามานั่งในรายการโหนกระแส เราเห็นแล้ว ไม่เหมือนกับคนที่เรารู้จักและร่วมงานด้วย เราเห็นว่าเขาวางแผนยังไงบ้าง วางแผนว่าจะไปชูป้าย จะลงไปดิ้น ให้คนสนใจ ให้สื่อมาช่วย จะได้ดังๆ วางแผนว่ามาออกรายการโหนกระแสแล้วจะขายของดียังไง เอาชื่อรายการไปอ้าง เอาชื่อพี่หนุ่ม กรรชัยไปอ้าง จนคนที่เป็นเจ้าหนี้เขาไม่มีใครกล้าออกมาสู้เลย
นิสาบอกว่า ไปทำงานเป็นแอดมินหลังบ้านให้เขาแค่ 3-4 วัน เราเห็นอะไรหลังบ้านเยอะมาก เห็นว่าเขาวางแผนร่วมกับเจ้าหนี้ แม้กระทั่งฉากปิดหูร้องกรี๊ดตอนที่มาออกรายการกับจั๊กกะบุ๋ม เขาก็วางแผนซักซ้อมมาแล้ว เรามีแชตมีอะไรทุกอย่าง พร้อมเอามาเปิดในรายการด้วย
แม่ปูนา ชี้แจง ในรายการว่า กรณีติดหนี้คุณนา ย้อนเล่าว่า 12 ก.ค. 67 ตอนนั้นเราพยายามติดต่อคุณนา เราโทรไม่รับ ทักหาไมตอบ ตอนนั้นเราได้เงินก้อนใหญ่มา 8 หมื่นบาท เราพยายามจะเคลียร์ก้อนนี้ เราไม่กล้าโอนเพราะยังติดต่อเขาไม่ได้ กลัวว่าโทรศัพท์จะไปอยู่กับคนอื่น กลัวว่าเขาจะไม่ปลอดภัย ให้คนรู้จักไปติดตาม ตามหาเขา กลัวว่าเขาจะประสบอุบัติเหตุเป็นอะไรหรือไม่ ยอมรับว่าตอนนั้นเราไม่ได้โอนเงินให้เขา
จากนั้นเขาก็หายไปนาน จนเขาทักมาอีกรอบ มาบอกว่านักข่าวติดต่อมาขอข้อมูล ให้โทรมาด่วน เราบอกว่าเรากลัวมิจฉาชีพ เราไม่กล้าโอนเงินให้เขา บอกให้เขารับสาย บอกให้โทรมา อยากจะยืนยันว่าเป็นเขาจริงๆ ถึงจะกล้าโอนให้
ต่อมาฝ่ายคุณนาเปิดคลิปเสียง ที่เป็นบทสนทนาทางโทรศัพท์ ที่แม่ปูนา โทรมาไล่บี้บังคับจะเอาของจากคุณนา บอกว่าการที่คุณนาไม่ส่งของให้เขา เขาขายไม่ได้ ถูกครัวคุณต๋อยปรับ จะทำยังไง ต้องเอาค่าปรับที่ป้าปูนาโดนปรับ มาหักลบหนี้กับคุณนา ถ้าคุณนาไม่ส่งของให้ก็ถือว่าหักหนี้กันไปเลย คำถามคือ จะทำแบบนั้นได้ยังไง เพราะคุณนาเองก็เดือดร้อน เพราะแม่ปูนาไม่เคลียร์หนี้ให้เขาเลย ไม่มีเงินทุนจะทำของให้เขาแล้ว
แม่ปูนาพยายามจะชี้แจงว่า ของล็อตใหญ่ที่คุณนาส่งของมาให้ไปขายที่หาดใหญ่ มันเสีย มันไม่ได้คุณภาพ ขายไม่ได้ ทำให้แม่ปูนาถูกครัวคุณต๋อยปรับ เสียหายเหมือนกัน เราก็ต้องไปบอกเขาว่า มันไม่ใช่การเล่นขายขนมกันนะ มันจริงจัง จะทำแบบนี้ไม่ได้
แม่ปูนาบอกว่า เราได้รับความเสียหายมากมาย จากบริษัทขนส่งเอาของเราไปทำแล้วทำเสีย เราเสียหายเป็นล้าน เราต้องรับผิดชอบอีกหลากหลายยอดที่เกิดความเสียหายจากธุรกิจ
แต่สุดท้ายแม่ปูนาบอกว่า เราจะเคลียร์หนี้ให้คุณนาทั้งหมด โดยโอนเงินในรายการไปเลย 5 หมื่นบาทแรก แล้ววันที่ 5 พ.ค. นี้จะโอนอีก 5 หมื่นบาท แล้วจะเคลียร์ทุกๆ วันที่ 5 งวดละ 5 หมื่นบาทเป็นอย่างน้อย โดยให้ทำสัญญาได้เลย โดยที่คุณนาไม่ต้องสละสิทธิ์การเอาผิดทางอาญา
ต่อมา แม่ปูนาโต้เดือดนิสา ว่านิสาเป็นมิจฉาชีพ เพราะตอนที่แม่ปูนาไปออกโหนกระแสเมื่อปีที่แล้ว จู่ๆ นิสาก็ทักมาหา ว่าเขาไปเปิดช่อง TikTok ใช้ชื่อ “แม่ปูนา พระราม 2” รับออเดอร์ลูกค้า ใช้บัญชีม้ารับเงิน แล้วมีคนมากมายไปสั่งกับเขาแล้วไม่ได้ของ
ตอนที่เขาสมัครเสร็จ เขาก็มาหาเรา มาขอเป็นผู้จัดการส่วนตัวให้เรา มาบอกให้เราปรับลุกส์ มาให้เราไปถ่ายรูปกับพี่หนุ่ม พี่กันจอมพลัง บอกว่าจะเอามาโพสต์ขายของ มาขอให้เราอัดคลิปไปลงในช่องเขา เพื่อรับประกันว่าเขาไม่ใช่ช่องปลอม
นิสาบอกว่า เราสมัครช่อง TikTok ใช้ชื่อปูนาฟ้าใสจริง แต่เราเป็นช่องตัวแทน มีคลิปที่แม่ปูนาพูดคอนเฟิร์มให้เราเองว่า เราไม่ใช่มิจฉาชีพ เราเป็นตัวแทน เราจะไปบังคับเขาพูดได้ยังไง
แม่ปูนาบอกว่า ที่แม่เป็นหนี้คุณนา เราพร้อมรับผิดชอบ เราพร้อมใช้เงินคืนทุกบาท แต่ที่มาเปิดหน้าออกโหนกระแสวันนี้ เพราะเราต้องการจะมาเคลียร์กับมิจฉาชีพคนนี้ ที่เขาไปหลอกลูกค้า แล้วทำให้ลูกค้ามาทวงเอาเงินคืนจากเรา เราเดือดร้อนหนักมาก
นอกจากนี้ นิสา ยังกุเรื่อง สร้างเรื่อง มารังแกเราเรื่องครอบครัว เรื่องการที่เรารับเลี้ยงเด็ก ปลอมแปลงเป็น พม. โทรมาหาเรา บอกว่าจะเข้ามาจัดการเรื่องเด็ก 3 คน ที่เราเลี้ยง ว่าไม่ใช่ลูกเรา เหมือนจะมาข่มขู่เราว่าเราเป็นผู้ป่วยจิตเวช ดูแลเด็กไม่ได้ เรายอมรับว่าเราป่วยจริง รักษาตัวอยู่จริง แต่เราก็รักษาตัว พยายามยืนให้ได้ แต่การที่เขามาสร้างปมในใจเด็ก ตั้งใจโจมตีมาลงที่เด็ก เรารับไม่ได้ เรื่องหนี้ก็มาลงที่เรา อย่าไปยุ่งอะไรกับเด็ก
นิสาบอกว่า โพสต์พาดพิงเรื่องเด็กก็โพสต์จริง แต่ว่าไม่ได้พาดพิงใคร เราโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัวของเรา ไม่ได้ระบุ แต่ป้าปูนาเปิดหลักฐานว่า นิสาเอาภาพที่เขาแอบเซฟไปจากแชตหลังบ้านเรา ไปโพสต์สื่อถึงเรา
ป้าปูนาพูดว่า เรื่องเราเป็นหนี้ ก็มาเคลียร์หนี้ แต่อย่ามาชกใต้เข็มขัด อย่ามาใช้วิธีสกปรกทำลายกัน เพราะนิสาไปติดต่อคู่กรณี แล้วเอาข้อมูลจากเจ้าหนี้เรา มาแฉเรา ทำเหมือนทวงหนี้แต่ไม่อยากได้หนี้ ทวงหนี้ทวงเงินแต่ไม่เอาเงิน เหมือนจงใจทำลายกันให้เราอยู่ในสังคมไม่ได้มากกว่า