สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุหลานคลั่งยาอาละวาดทำร้ายภรรยาและย่าตัวเอง เหตุเกิดที่บ้าน ม.5 ต.บ้านเลื่อม อ.เมือง จ.อุดรธานี ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งปูนครึ่งไม้ ที่ชั้นล่างเปิดเป็นสำนักหมอดูสูตรโบราณ โดยมีหญิง อายุ 67 ปี เจ้าของสำนัก ชี้ให้เจ้าหน้าที่ดูซากเก้าอี้พลาสติกที่พังเสียหาย 3 ตัว จากฝีมือหลานชาย อายุ 24 ปี และชี้จุดที่หลานชายทิ้งท่อนไม้ไผ่ดูดวง ยาวประมาณ 1 เมตร ที่ใช้ทุบทำลายเก้าอี้ และมีดทำครัวปลายแหลม 2 เล่ม ที่ขว้างใส่ตนและภรรยาของหลาน
หลังจากก่อเหตุ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ของย่าหลบหนีออกไปจากบ้านพร้อมภรรยา หลังจากเห็นว่าย่าโทรแจ้งตำรวจให้มาจับกุม ซึ่งยังไม่รู้ว่าหนีไปที่ไหน โดยย่าเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกำลังจะกินข้าว หลานชายมาก่อกวน ขอเปิดฮอตสปอตไวไฟในมือถือของตน ตนกลัวว่าหลานจะทุบมือถือ ตนจึงไม่ให้ หลานมีอาการโมโห เริ่มแรกก็ไปทุบตีภรรยา หนักขึ้นก็โยนข้าวของใส่ตน โยนมีดใส่ตน เห็นท่าไม่ดีกลัวว่าหลานจะคลั่ง ใช้มีดฆ่าปาดคอตน จึงวิ่งหนีออกจากบ้าน แล้วหลานก็เอาท่อนไม้ไผ่ทุบเก้าพลาสติกจนพัง หลานเอาแต่ใจมาก พ่อเขาก็อยู่กับตนที่บ้าน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลานไม่กลัวใครเลย เมื่อขอเงินไม่ได้หรือขัดใจก็จะอาละวาดแบบนี้ ที่หลานคลั่งคิดว่าคงจะเป็นเพราะฤทธิ์ยาเสพติด หลานเสพยามาตั้งแต่เรียนชั้นประถม ติดมานานกว่า 10 ปีแล้ว
หลานหนีไปอยู่ที่อื่นมาหลายปี เพิ่งพาภรรยามาอยู่ที่บ้านด้วยเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา เมื่อ 3 วันก่อนญาติซื้อมือถือให้ใหม่ เพื่อจูงใจให้เขากลับตัวกลับใจ หลานก็รับปากว่าจะออกไปทำงานช่วยพ่อเขา ตนก็ดีใจให้เงินไปอีก 600 บาท แต่กลับเอาไปซื้อยามาเสพจนคลั่งอย่างที่เห็น เมื่อมาอยู่ด้วยก็ไม่ได้ทำงานอะไร จะขอเงินตนทุกวัน ตนให้ได้ตามที่ขอและเท่าที่ตนมี อย่างต่ำก็ครั้งละ 100 บาท ทุกข์ใจมากช่วยเอาหลานไปบำบัดด้วย ไม่ไหวแล้ว ไม่อยากให้เขาอยู่ด้วยแล้ว ไม่รู้ว่าจะเกิดเหตุร้ายกับตนวันไหน
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แนะนำให้ผู้เสียหายไปแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อจะได้ดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินการตามกฎหมาย และจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าเมื่อวันที่ 5 มิ.ย.เพิ่งก่อเหตุทำร้ายภรรยาอายุคราวแม่ ขณะกำลังเดินกลับจากสถานีรถไฟอุดรธานีมาที่บ้านย่า สาเหตุเนื่องจากเงินหมด ไม่มีเงินจ้างรถกลับบ้าน ผู้ก่อเหตุอยากให้จ้างรถกลับแล้วไปเอาเงินกับย่า แต่ภรรยาเกรงใจ ผู้ก่อเหตุจึงโมโหตบตีภรรยา แต่ก็จบลงด้วยการที่ตำรวจเข้าไประงับเหตุ
ที่มา : มติชนออนไลน์