มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

‘น้องเต้าหู้’ เผยโดนลักพาตัวไปขายให้คนแปลกหน้า ถูกทำร้าย-ล่วงละเมิด ล่าสุดเดินทางกลับจีน เข้าแจ้งความ เก็บ DNA ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง


ข่าวโซเชียล
7 กรกฎาคม 256853,388
‘น้องเต้าหู้’ เผยโดนลักพาตัวไปขายให้คนแปลกหน้า ถูกทำร้าย-ล่วงละเมิด ล่าสุดเดินทางกลับจีน เข้าแจ้งความ เก็บ DNA ตามหาพ่อแม่ที่แท้จริง

‘Aurora หรือ น้องเต้าหู้’ อินฟลูเอ็นเซอร์สาวชาวจีน ที่มาเรียนและใช้ชีวิตในประเทศไทย ได้เปิดเผยเรื่องราวส่วนตัวที่ไม่เคยเปิดเผยมาก่อน โดยเพจเฟซบุ๊ก ลุยจีน ได้แปลและสรุปเรื่องราวเอาไว้ว่า

 

น้องเต้าหู้ตามหาครอบครัวที่แท้จริง โดยเธอออกมาเปิดเผยผ่านใน Douyin, Rednote ถึงความจริงที่ปวดร้าวนี้

 

น้องเต้าหู้ เล่าว่า เธอคือเด็กที่เคยถูกแก๊งลักเด็กเอาไปขาย นี่คือความจริงที่เธอไม่เคยกล้าเล่าที่ไหนมาเป็นเวลาถึง 20 ปี เพราะเธอกลัวคนอื่นจะหัวเราะหรือพูดถึงเธอในแง่ร้ายมาตลอด ซึ่งการที่เธอตัดสินใจมาพูดออกมาในครั้งนี้ เพราะเธอเห็นข่าวของคุณพ่อชาวจีนคนหนึ่งที่ตามหาลูกสาวมานานถึง 19 ปี แล้วในที่สุดก็หาเจอ ทำให้เธอรู้สึกตื้นตันมากๆ และคิดว่านี่คงถึงเวลาแล้วที่เธอเองจะตามหาครอบครัวที่แท้จริงของเธอสักที เธอพูดทั้งน้ำตาว่า... ไม่รู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงของเธอจะเป็นยังไงบ้างตอนนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะลืมเธอไปแล้วหรือยัง

 

ความทรงจำเกี่ยวกับครอบครัวที่แท้จริงที่เธอจำได้ บ้านเธอมีพ่อ แม่ พี่สาว 2 คน พี่ชาย 1 คน เธอเป็นลูกคนสุดท้อง ถึงแม้เธอจำไม่ได้ว่าชื่อจริงชื่ออะไร บ้านอยู่ไหน แต่เธอจำได้ดีคือ พ่อแม่รักเธอมากๆ ตอนหลังจำได้ว่าพ่อกับแม่แยกทางกัน พ่อพาเธอซ้อน จยย. ไปไหนมาไหนตลอด จนวันนึงไปที่ร้านขายทีวีแห่งนึงในย่านการค้า พ่อให้เธอเรียกคุณน้าคนนึงที่ร้านนั้นว่า มามี้ (แม่เลี้ยงของเธอ)

 

เธอจำได้ว่าแม่เลี้ยงรักเธอมากๆ มักจะซื้อกระโปรง, รองเท้าสวยๆ ให้เธอ เธอจะใส่กระโปรงตัวสวยเต้นไปมาในร้านบ่อยๆ จนวันนึงขณะที่เธอเล่นอยู่นอกร้าน มีคุณป้าคนแปลกหน้ามาทักเธอว่า “จะพาไปเล่นที่สนุกๆ เอาไหม เดี๋ยวพาไป” ด้วยความไร้เดียงสา เธอขึ้นรถของป้าคนนั้นไป แล้วนั่นคือจุดเริ่มต้นของฝันร้ายของเธอ

 

ป้าคนนั้นพาเธอไปยังที่ๆ ไกลมากๆ ไปฝากไว้กับคนแปลกหน้าอีกคน (จุดเปลี่ยนถ่าย) เธอจำได้ ที่นั่นมีเด็กเล็กๆ เหมือนเธออีกหลายคน ไม่รู้ว่าตอนนี้เด็กเหล่านั้นจะโตมาเป็นอย่างไรกันบ้าง

 

มีชายนึงสนใจมาซื้อเธอไป ซึ่งก็คือพ่อเลี้ยงคนปัจจุบันของเธอ เธอจำได้ว่าพ่อเลี้ยงกับคนแปลกหน้าที่จุดเปลี่ยนถ่ายน่าจะเป็นเพื่อนกัน คนแปลกหน้าคนนั้นพาเธอไปที่สถานีรถไฟแห่งหนึ่ง แล้วให้เธอยืนนิ่งๆ จากนั้นถ่ายรูปให้เธอเพื่อส่งไปให้พ่อเลี้ยงซึ่งเป็น ‘ผู้ซื้อ’ ก่อนจะส่งตัวเธอขึ้นรถไฟไป ซึ่งภาพดังกล่าว เธอไปพบเข้าในอัลบั้มรูปใน QQ ของพ่อเลี้ยง และแอบเซฟเก็บไว้มานาน

 

คนแปลกหน้าให้ลูกสาวตัวเองเป็นคนพาเธอนั่งรถไฟ มาลงที่มณฑลเหอหนาน ตอนมาถึงเธอยังไม่ได้เจอพ่อเลี้ยง เพราะเขาทำงานอยู่ต่างเมือง เลยเอาเธอมาฝากไว้ที่บ้านของพี่สาวพ่อเลี้ยง (ป้า) แล้วลูกสาวคนแปลกหน้าคนนั้นก็กลับไป ทิ้งเธอไว้ที่บ้านป้าคนนั้นตั้งแต่นั้น

 

ป้าใช้งานเธอทำงานบ้านสารพัด และยังทำร้ายร่างกาย ด่าทอเธอบ่อยครั้ง เธอจำได้ว่าป้าชอบหยิกแก้ม หยิกตามแขนขา รวมถึงตบหน้าเธอเวลาไม่พอใจ เธอรับรู้ได้ว่าป้าเกลียดเธอมาก อาหารที่เธอได้กินที่บ้านป้าบ่อยๆ คือ หมั่นโถว, ซุปแป้ง (น้ำร้อนผสมแป้งทำอาหาร) กับผักดอง แต่ถ้าเวลามีญาติหรือเพื่อนมาหา ป้าก็จะพูดจากับเธอดีๆ และทำอาหารดีๆ ให้เธอร่วมโต๊ะด้วย

 

เธอจำได้ว่า ครั้งนึงมีญาติป้ามาที่บ้าน ป้าทำอาหารต้อนรับเต็มโต๊ะ มีจานนึงเป็นหมู เธออยากกินมากๆ ก็เอื้อมตะเกียบจะไปคีบ แล้วป้าก็มองเธอตาขวาง เธอกลัวมากๆ จึงรีบหดมือกลับ และคีบกินแค่อาหารที่อยู่ตรงหน้า

 

อีกความทรงจำที่เธอจำได้ดีตอนอยู่บ้านป้าคือ ตอน 4-5 ขวบ เธอฉี่รดที่นอน สามีป้า (ลุง)  ได้ล่วงละเมิดเธอ เธออยากหนีออกจากบ้านหลังนั้นมาก แต่ก็กลัวไปหมด และไม่กล้าบอกเรื่องที่ถูกล่วงละเมิดกับใคร เพราะถ้าป้ารู้ ป้าตีเธอตายแน่ๆ

 

เธอยังเคยเล่าว่าชีวิตช่วงวัยเด็ก-วัยรุ่นของเธอเคยพยายามจบชีวิตตัวเอง ถึง 4 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ เธอบอกว่าที่เธอเคยพยายามจะจบชีวิตตัวเอง ไม่ใช่เพราะไม่อยากมีชีวิต แต่อยากให้ความเจ็บปวดนี้จบลงเสียที

 

พ่อเลี้ยงมารับเธอไปอยู่ที่บ้านในเมือง เธอบอกว่าในสายตาคนภายนอก พ่อเลี้ยงเธอดูเป็นคนดีคนซื่อๆ แต่ลับหลังกับเธอมีแต่ความรุนแรง และชอบคอยเอาแต่ควบคุมบงการชีวิตเธอ เวลามีเรื่องอะไรที่เธอทำแล้วเขาไม่ชอบ ก็จะเอาแต่คอยบ่นกรอกหูเธออยู่นานมากๆ บางครั้งพอยิ่งบ่นไปอารมณ์ก็จะขึ้น แล้วมาตบหน้าหรือเอาเท้าถีบเธอล้ม

 

เธอมารู้หลังอยู่กับพ่อเลี้ยงว่า ที่พ่อเลี้ยงซื้อเธอมาเพราะอยากให้เธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยสูงๆ แบบ ม.ชิงหัว หรือ ม.ปักกิ่ง พ่อเลี้ยงจะได้ดูมีหน้ามีตาในหมู่ญาติๆ เธอเกลียดพ่อเลี้ยงคนนี้มากๆ เพราะเธอรู้ว่าเขาไม่ใช่พ่อที่แท้จริงของเธอ ส่วนตัวพ่อเลี้ยงก็เหมือนจะรับรู้ได้เหมือนกันว่าเธอเกลียดเขา เธอพยายามดื้อและไม่เชื่อฟังเขาตลอด

 

เธอเองผลการเรียนไม่ได้ดีมาก พ่อเลี้ยงก็จะเอาแต่ด่าเธอเรื่องผลการเรียนตลอด ทั้งด่าทั้งทุบตีแบบวันเว้นวัน เธอรู้สึกได้ว่าตอนนั้นเธอเหมือนมึนๆ ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวตลอดเวลา แม้แต่เพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็ยังรู้ว่าพ่อเลี้ยงดุเธอตีเธอบ่อยๆ มีครั้งนึงผลการเรียนไม่ดี เธอถูกพ่อเลี้ยงทุบตีจนฉี่ราด แต่วิชาเรียนที่เธอทำได้ดีคือวิชาพละ เธอบอกชอบออกกำลังกายมากๆ อย่างการแข่งขันกีฬาของโรงเรียนเธอจะได้ที่ 1-2 ตลอด

 

มีอยู่วันหนึ่ง เพื่อนบ้านที่เป็นผู้หญิงและอายุใกล้เคียงกับเธอมาขอนอนด้วยที่บ้าน กลางดึกเธอรู้สึกว่ามีมือมาลูบคลำที่ส่วนล่างของร่างกายเธอ เธอแอบเปิดตามองพบว่าคือพ่อเลี้ยงกำลังลวนลามเธออยู่ โดยมีเพื่อนบ้านเธอนอนข้างๆ ตอนนั้นเธอกลัวและอยากกรี๊ดมากๆ แต่ก็ไม่กล้า ได้แต่แกล้งทำเป็นนอนดิ้นพลิกตัว พ่อเลี้ยงถึงไม่ทำอะไรเธอต่อ

 

หลังจากเหตุการณ์ถูกลวนลามวันนั้น เธอแอบหนีออกจากบ้าน จำได้ว่าวิ่งไปไกลมากๆ จนมาถึงที่คลองแห่งนึง เธอตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเองที่คลองแห่งนี้ เลยมายืนที่ริมคลอง ทำท่าเตรียมจะกระโดด แล้วก็มีคุณน้าคนหนึ่งมาจับแขนเธอไว้ไม่ให้โดดลงไป คุณน้าคนนั้นพาเธอไปที่บ้าน ให้เธออาบน้ำเปลี่ยนเสื้อ แล้วทำอาหารอร่อยๆ ให้เธอกิน เป็นครั้งแรกที่เธอรับรู้ ‘ความรักของแม่’ จากคุณน้าคนนั้น

 

คุณน้าคนนั้นอยู่คนเดียว ตั้งแต่นั้นมา เมื่อเธอมีเวลาเธอก็จะมาหาคุณน้าคนนั้นที่บ้านบ่อยๆ เหมือนคุณน้าคนนั้นเป็นกำลังใจให้เธอมีชีวิตอยู่ต่อ แต่เธอบอกว่าคุณน้าป่วยหนักต้องกินยา จนสุดท้ายผมร่วงหมดหัว (ทำคีโม) มีวันนึงเธอเลิกเรียน รีบไปหาคุณน้าเพื่อไปทานข้าวเย็นด้วยกัน พอผลักประตูเข้าไปก็ไม่เห็นมีอาหารบนโต๊ะหรือมีคนในห้องรับแขก เธอเลยผลักประตูห้องนอนคุณน้าเขาไปดู เห็นคุณน้านอนอยู่บนเตียง เมื่อมาดูใกล้ๆ จึงพบว่า คุณน้าหมดลมแล้ว

 

คุณน้าได้โอนบ้านที่เธอมาหาประจำไว้เป็นมรดกให้เธอ คุณน้าบอกว่าบ้านหลังนี้จะเป็นที่ให้เธออยู่ถ้าไม่มีที่ไป และเธอต้องเข้มแข็ง ต้องอดทน ถ้าเธอสามารถอยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว ขอให้หนีไปให้ไกล โดยน้องเต้าหู้บอกว่า ตอนนี้เธออยู่ได้ด้วยตัวเองแล้ว มีความสุขดี

 

ภาพวัยเด็กที่เป็นเบาะแสเดียวที่โดนแก๊งลักเด็กถ่ายที่สถานีรถไฟ ชาวเน็ตจีนได้ช่วยกันสืบค้นจนพบว่าคือ สถานีรถไฟที่กวางโจว Guangzhou North Station จริงๆ

 

 

วันที่ 6 ก.ค. 2568 เธอโพสต์คลิปล่าสุดที่เดินทางไปกวางโจว โดยเธอบอกว่าได้เข้าไปแจ้งความเรื่องโดนลักพาตัวในวัยเด็ก ที่สถานีตำรวจใกล้สถานีรถไฟดังกล่าว รวมถึงเข้าไปติดต่อที่ศูนย์ตามหาคนหาย โดยได้เก็บเลือดเพื่อเอาตัวอย่าง DNA ของเธอไปเทียบเคียงกับในระบบค้นหาคนหาย หากโชคดีพ่อแม่ของเธอได้เคยมาเก็บเลือดไว้กับศูนย์ฯ เธอก็จะได้รู้ว่าพ่อแม่ที่แท้จริงคือใคร ซึ่งอย่างเร็วที่สุดน่าจะทราบผลใน 5-7 วัน

 

เธอไม่ได้พูดถึงพ่อเลี้ยงของเธอแต่อย่างใด ว่ายังติดต่ออยู่ไหมหรือได้ตัดขาดไปแล้ว ด้านชาวเน็ตจีนรวมถึงแฟนคลับชาวไทยที่ทราบเรื่องดังกล่าวของเธอต่างก็แห่ให้กำลังใจเธอ และขอให้เธอได้พบกับครอบครัวที่แท้จริงของเธอโดยเร็ว ช่างเป็น 20 ปีที่ยาวนานมากๆ สำหรับลูก 1 คนที่ทุกข์จากพรากจากพ่อแม่ รวมถึงพ่อแม่ที่ต้องทุกข์จากการสูญเสียลูกตัวน้อยสุดที่รักไป

 

เหตุการณ์ที่น้องเต้าหู้นำมาเล่า ถือเป็น 1 ในหลายแสนเคสของคดีเด็กหายในจีน ที่ในยุคหนึ่งพ่อแม่ทั่วจีนต่างต้องอกสั่นขวัญแขวน กลัวว่าลูกเล็กของตนเองจะถูกแก๊งลักเด็กอุ้มไปในที่สาธารณะ ซึ่งจนถึงปัจจุบัน เหล่าเด็กๆ ที่เคยถูกลักพาไป มีเพียงจำนวนหลักพันเท่านั้นที่หาครอบครัวที่แท้จริงตนเองเจอ และหลายเคสพ่อแม่ของเด็กก็ไม่ได้มีลมหายใจอยู่เพื่อเจอกับลูกแล้ว นั่นจึงทำให้คดีลักเด็กเข้าข่ายความผิดฐานค้ามนุษย์ และถือเป็นคดีร้ายแรงในจีนที่ยังมีโทษสูงสุด คือประหารชีวิต อยู่ในปัจจุบัน

 

และล่าสุด ทางเพจได้อัปเดตว่า

- 4 ก.ค. บินไปจีน ไปลงที่เมืองกวางโจว ถึงประมาณตี 1 ของอีกวัน

- 5 ก.ค. เช้า-บ่าย เข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจในท้องที่ของสถานีรถไฟที่อยู่ในภาพถ่าย เขตฮัวตู ตำรวจพาน้องไปทำสำนวนประกอบด้วยการพาไปพิกัดสถานที่จริง เจอตำแหน่งเสาต้นที่น้องยืนในภาพเป๊ะๆ ซึ่งแม้หลายๆองค์ประกอบในภาพจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ตึก เสา และทางเชื่อม ยังคงอยู่ตามเดิม

 

- 5 ก.ค. บ่าย-ดึก ตำรวจพาน้องไปที่กรมกำกับการคดีอาญา มีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ดูแลคดีค้ามนุษย์มารับเรื่องไว้อย่างเป็นทางการ มีการซักประวัติของน้องอย่างละเอียด ส่วนรายละเอียดของการดำเนินคดี น้องไม่สามารถเปิดเผยได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลือเธอดีมากๆ คอยทำงานและช่วยเหลือเธอจนถึงตี 3 ของอีกวัน จึงเสร็จสิ้นกระบวนการเบื้องต้น (รวมมีการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อเอา DNA ไปเทียบเคียงในฐานข้อมูลคนหาย)

 

- 6 ก.ค. ถึงจะมีเวลาโพสต์คลิปอัปเดตนี้

 

น้องเต้าหู้ ขอบคุณเพื่อนๆ ชาวเน็ต รวมถึง FC ทุกช่องทาง ที่ได้เข้าให้กำลัง และคอยให้คำแนะนำอย่างล้นหลาม และทุกคนทำให้เธอกล้าที่จะกลับมาเผชิญหน้ากับฝันร้ายนี้อย่างกล้าหาญ

 


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#น้องเต้าหู้#อินฟลูฯจีน#เพจลุยจีน#ลักพาตัว