ดาราอดีตนางงามป่วยแอดมิตด่วน เบี้ยวหมายครั้งที่ 2 ‘ลูกหมี-ลิลลี่’ วอนมาเจรจาไกล่เกลี่ย เพราะไม่อยากดำเนินคดี

จากกรณีที่ ‘ลูกหมี รัศมี’ อดีตนางแบบดัง แถลงถูกอดีตนางงามและนักแสดง ยืมเงิน 2 ล้านบาท ไม่ยอมคืน แถมจ่ายเช็คเด้ง อ้างนำไปทำธุรกิจขายกระเป๋าหรู แต่โดนคนอื่นโกงอีกทอดหนึ่งนั้น

ล่าสุด กลุ่มผู้เสียหายซึ่งมีทั้งดาราและบุคคลทั่วไป ความเสียหายรวมประมาณ 16 ล้านบาท ได้เดินทางมาพร้อมกับลูกหมีและทนายกุ้ง ทีมงานทนายคลายทุกข์ เพื่อพบพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ ซึ่งวันนี้เป็นหมายเรียกครั้งที่ 2 แต่ดาราคนดังหล่าวก็ไม่มาอีกเช่นเคย โดยได้ส่งใบรับรองแพทย์มา คาดเครียดจนเข้า รพ.

ทนายกุ้ง กล่าวว่า ก่อนที่จะถึงวันนี้ เขาส่งทนายความมา 2 สำนักงาน เพื่อขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับเคสของลูกหมีก่อน แล้วจะนัดกันอีกครั้ง อ้างว่าจะไกล่เกลี่ย แต่วันนี้มาไม่ได้ ส่งใบรับรองแพทย์มาให้กับตำรวจ บอกว่าเข้า รพ. เนื่องจากเครียดเห็นข่าวตามสื่อ แต่เดี๋ยวมีการเจรจาเคสลูกหมี แต่วันนี้มีผู้เสียหายคนอื่นๆ ที่มาเพราะเห็นข่าว

ถ้าเขามีความประสงค์ที่จะไกล่เกลี่ย ทางนี้ก็ให้โอกาสว่าลองมาคุยกัน ว่าเป็นไปได้ยังไงบ้าง ยังให้โอกาสอยู่ ถ้าคิดจะเจรจานะ ถ้าหลังจากนั้น นัดแล้วไม่มาอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ประวิงคดี ทางนี้ก็คงไม่ยอม ก็คงจะให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป ยังไม่ได้นัดวันมา เดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกทีนึง วันนี้มาแจ้งเพิ่มประมาณ 5-6 ราย แต่ยังมีที่ไม่มาอีกก็เยอะ

ลูกหมี เผยว่า พอเราแถลงข่าวไป ผู้เสียหายทุกท่านก็ได้พูดคุยกับลูกหมี วันนี้นัดกันมา ซึ่งแต่ละท่านก็มีความเสียหาย เท่าที่รวบรวมได้ประมาณ  15-16 ล้านบาท จะมีรายนึง 6 ล้าน พี่ผู้ชายที่ให้ยืมไปตอนนี้ก็ป่วยหนัก วันนี้เขามอบอำนาจมา ซึ่งลูกสาวเขาก็รู้จักกับทางครอบครัวของพี่... เหมือนว่าลูกชายเป็นเพื่อนกัน พอสนิทสนมก็ไปกู้ยืมเงินกัน

ทนายกุ้ง กล่าวต่อว่า เคส 6 ล้านบาท เป็นการชักชวนลงทุน แต่ว่าไม่มีธุรกิจจริง ส่วนข้อหาที่แจ้งความก็แตกต่างกันไป แต่ละเคสไม่เหมือนกัน ตอนนี้กำลังรวบรวมดู อาจจะเข้าข่ายฉ้อโกง พรบ.เช็ค ต้องดูว่าแต่ละเคสเป็นยังไงบ้าง ก็เพิ่งเห็นเอกสาร เพราะผู้เสียหายรวมตัววันนี้

ด้าน ‘ลิลลี่ เหงียน’ นักแสดงชาวเวียดนาม หนึ่งในผู้เสียหายที่ก่อนหน้านี้เคยออกมาร่ำไห้ขอเงินคืนหลายครั้ง กล่าวว่า ยังมีความรัก ความเมตตาดีให้กับพี่… อยู่ เขาเป็นคนเดียวที่ยืมเงินแล้วยังพูดคุยกัน แล้วก็ยังเป็นพี่น้องกัน ไปสังสรรค์ด้วยกัน ก็คิดว่าพี่… ก็ยังใจดีกับเรา

แต่วันนี้ที่ออกมาแค่รู้สึกเสียใจว่ามันเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ต้องใช้รักษาลูก และต้องจ่ายค่าประกันให้กับคุณแม่ พี่... ก็บอกว่าเดี๋ยวขอยืมก่อน ยืมตอนบ่ายโมง เดี๋ยว 2 ทุ่ม จะคืนให้ ก็ให้ไป 70,000 บาท และตั้งแต่วันนั้นก็ไม่ได้ นี่คือเหตุผลที่ออกมา แค่เสียใจตรงจุดนี้ ไม่อยากให้พี่เขาโกรธ และหนูก็อยากได้เงินคืนจริงๆ เพราะว่ามันลำบากจริงๆ ล่าสุดหนูก็เพิ่งขายนาฬิกาไป แล้วต้องเอาเงินไปจ่ายค่าประกัน

ยอดรวม ณ ปัจจุบันก็คือ 670,000 บาท แต่ก่อนหน้านั้นที่รู้จักกันวันแรก พี่เขาก็ขอยืมเงิน 800,000 บาท หนูก็ให้ไป ด้วยความที่เราเชื่อใจและเห็นว่าพี่เขาเป็นนักแสดงด้วย และก็สังคม ครอบครัวพี่เขาด้วย หนูก็เลยคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา

ก็ยังคุยกันอยู่ทุกวัน ก็ทวงเงิน 600,000 บาท ยังไม่ได้ไม่เป็นไร ขอ 70,000 บาท ก่อนได้ไหม แล้วเขาบอกว่าพี่ถามเพื่อนก่อน รอก่อนๆ คือรอแบบนี้ มันเป็นคำพูดเดิมที่เขาเคยจะให้หนูเมื่อหลายเดือนก่อน แล้วเอาเงินก้อนแรกไป 800,000 บาท แล้วก็ไม่ได้สักที กว่าจะได้เงินคืนใช้เวลาหลายเดือน หนูก็เลยรู้สึกท้อ

ถ้า 600,000 บาท ไม่ได้ไม่เป็นไร ขอแค่มิตรภาพเรายังเป็นอยู่อย่างนี้ แต่ขอ 70,000 บาท เพราะว่าอันนี้มันสำคัญมากๆ หนูต้องไปจ่ายค่าประกันให้กับคุณแม่และก็ลูกชาย นี่คือเหตุผลที่หนูออกมา

เมื่อวานก็คุยกัน พี่เขาก็บอกว่าน้องลิลลี่อย่าออกไปได้ไหม ถ้าเกิดว่าพี่หาเงินได้ 170,000 บาท ขอให้น้องอย่าออกไปนะ หนูก็บอกว่าถ้าพี่ให้ หนูก็จะไม่ออกมา เพราะว่าหนูก็ลำบาก มันเยอะมากสำหรับหนู แต่สุดท้ายหนูก็ไม่ได้ เขาโกหกขอผ่อนมาหลายรอบมาก ไม่ต้องพูดถึงเรื่องหลายเดือนก่อน แค่พูดเงิน 70,000 บาทนี้ ตั้งแต่ 2 ทุ่มวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ หนูก็ทวงทุกวัน หนูไม่มีสัญญากู้ยืม หนูให้เพราะว่าเรารักกันเป็นพี่น้อง มีแชตไลน์ มีหลักฐานการโอน

ด้านทนายกุ้ง กล่าวเสริมว่า แม่ว่าไม่มีสัญญาก็ไม่เป็นไร เพราะว่าน้องเขามีแชตไลน์ หลักฐานชัดเจน ไม่จำเป็นต้องใช้ ถ้ามีแชตไลน์หลักฐานการกู้เงินก็ถือว่าใช้ได้แล้ว เพราะน้องเขาก็มีหลักฐานครบเลย

การจะได้เงินคืนก็รอ มีความหวังอยู่ เพราะไม่แน่ใจว่าเคสลูกหมีเขาก็ติดต่อเข้ามาเพื่อจะขอเจรจาแล้ว แต่เราไม่แน่ใจว่าเวลานัดจริงๆ แล้วเขาจะเข้ามาหรือเปล่า หรือจะมีอะไรอย่างอื่นที่เลื่อนไปอีกไหม เพราะทุกคนที่มาที่นี่ไม่ได้ต้องการดำเนินคดีหรือเป็นคดีความอะไร อยากได้เงินทุกคน ก็อยากให้ออกมาคุย

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ด้วยความที่ยอดรวมเยอะ 15-16 ล้านบาท ถ้าเกิดเขาไม่มีเงินจริงๆ กฎหมายสามารถบังคับได้อย่างไรบ้าง ทนายกุ้งตอบว่า ถ้าเป็นคดีอาญาก็เข้าข่ายฉ้อโกง มีโทษจำคุกอยู่แล้ว ในส่วนถ้าเป็นคดีแพ่งก็ไปบังคับคดีในส่วนทรัพย์สินเอา ถ้าสมมติเลวร้ายจริงๆ ไม่มีทรัพย์สินอะไรเลย หนี้บุคคลธรรมดาเกิน 1 ล้านบาท ก็ต้องล้มละลายไป ส่วนทางสามีเขาไม่ได้มีการติดต่อมา

“ลูกหมีอยากให้เข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย เพราะก็เกิดความเครียดกันทุกฝ่าย การไกล่เกลี่ยจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะพอเราอยู่ในวงการเดียวกันก็อยากให้รับผิดชอบในการกระทำของตัวเอง และการไกล่เกลี่ยมันก็ง่ายที่สุด พร้อมเมื่อไหร่ทางเราก็พร้อม ก็เชิญที่โรงพักทองหล่อได้เลย” ลูกหมีกล่าว

หนึ่งในผู้เสียหายอีกคน เผยว่า เสียไป 1,200,000 บาท แฟนรู้จักกับสามีเขาก่อน หนูถึงได้มาคุยกันกับพี่... มีการยืมชักชวนไปลงทุน เขาบอกว่าเอาไปทำคอลลาเจน มาทราบทีหลังว่าไม่มีการลงทุนจริงๆ

ที่มา : ข่าวสด