มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแสthaich3ช่อง 3 กด 33
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube
honekrsaaehonekrsaae
thaich3ช่อง 3 กด 33honekrsaae
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
search
ปิด
honekrsaae
honekrsaae
มาร่วมตีแผ่กระแสที่แรงที่สุดในสังคม กับรายการโหนกระแส
thaich3ช่อง 3 กด 33
หน้าหลัก
ข่าวกำลังโหน
โหนทุกข่าว
โหนบันเทิง
โหนไปมู
โหนร้องทุกข์
วีดีโอ
Live
ติดต่อเราfacebooktiktokxyoutube

เปิดใจญาติ รปภ. ถูกแก๊งขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ถอยรถชนเสียชีวิต ลั่นคนขับรถไม่ต้องมาขอขมา หวังอยากเจอหน้าสักครั้ง ทำไมตำรวจไม่ยอมให้เจอเลย


ข่าวด่วน
3 มิถุนายน 2568565
เปิดใจญาติ รปภ. ถูกแก๊งขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ถอยรถชนเสียชีวิต ลั่นคนขับรถไม่ต้องมาขอขมา หวังอยากเจอหน้าสักครั้ง ทำไมตำรวจไม่ยอมให้เจอเลย

จากกรณีแก๊งคนร้ายชายฉกรรจ์ 4-5 คน ขับรถตู้บุกโกดังสเตเดียม การท่าเรือฯ เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เมื่อคืนวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่องัดตู้คอนเทนเนอร์ของกลางของกรมศุลกากร ขโมยบุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมาก ก่อนหลบหนี โดยขณะถอยรถออกจากที่เกิดเหตุ ได้พุ่งชนและทับนายบุญนาค  เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เสียชีวิตคาที่ ขณะพยายามเข้าขัดขวาง

 

โดยก่อนหน้านี้ ตำรวจสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย โดยหนึ่งในนั้นถูกแจ้งข้อหา "รับของโจร" จากการให้ที่พักและเก็บของกลางไว้ ล่าสุดมีรายงานว่า นายสิทธิศักดิ์ หรือนายแบงค์ ผู้ต้องหาคนสำคัญซึ่งเป็นคนขับรถตู้ชน รปภ. ได้เข้ามอบตัว

 

รายการโหนกกระแสวันนี้ ได้พูดคุยกับ นายเฉลิมศักดิ์ บัวแก้ว ผู้อำนวยการส่วนของกลาง กองสืบสวนปราบปราม กรมศุลกากร เปิดเผยว่า พื้นที่เก็บของกลางของกรมศุลกากรมีจำกัด ทำให้ต้องไปเช่าพื้นที่ของ การท่าเรือแห่งประเทศไทย ในการเก็บของกลางที่ผิดกฎหมายศุลกากร เป็นการเช่ารายปี มีตู้คอนเทนเนอร์ทั้งหมด 55 ตู้ มีของกลางทั้งหมด 25 ตู้ ที่เหลือจะเป็นเอกสารอะไรต่างๆ 

 

โดยแต่ละตู้ไม่มีป้ายติดบอกว่าในตู้คืออะไร จะมีแค่คนในที่รู้ว่าตู้ไหนคืออะไร สำหรับบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง เรียกได้ว่ามีจำนวนมหาศาล เก็บมาหลายปี แต่การที่คนร้ายเข้าไปตัดตู้ จะรู้ได้อย่างไรว่าเป็นตู้ไหน ก็มีความเป็นไปได้ว่า “คนใน” อาจมีส่วนในการชี้เป้า สอดคล้องกับที่ญาติผู้เสียชีวิตบอกว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เคยเป็น รปภ. ด้วยกัน ซึ่งทางคุณลุงบุญนาค ผู้เสียชีวิต ก็เคยรู้จักหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุด้วย

 

แต่หากว่ามีการตรวจสอบแล้ว พบว่าคนใน ข้าราชการของกรมศุลกากรคนไหน มีส่วนในการกระทำความผิด ต้องไล่ออกแน่นอน ไม่มีการช่วยเหลือ

 

ครอบครัวของนายบุญนาค รปภ.ที่เสียชีวิต เล่าว่า เขาเป็น รปภ.ที่นี่มา 5 ปี แต่ว่าไม่ได้เป็น รปภ.ประจำจุดที่เกิดเหตุ จะประจำจุดพัสดุของการท่า นายบุญนาคเคยมาเล่าให้ที่บ้านฟังว่า มีวัยรุ่น มีโจร เข้ามาขโมยตัดสายไฟ ตัดแม่กุญแจตู้คอนเทนเนอร์บ่อยๆ พอจับได้แล้วเอาไปส่งตำรวจทุกครั้ง พอส่งตำรวจตอนค่ำ เช้ามาก็ถูกปล่อยออกมาแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมตำรวจไม่จับให้มันเป็นเรื่องเป็นราว

 

ขณะที่หลานสาวเล่าว่า ตอนเกิดเหตุ มี รปภ.ไปเจอผู้ต้องหาเข้ามาลักทรัพย์ในพื้นที่ รปภ. ว.เรียกกำลังเสริม ลุงบุญนาครีบไปช่วย แต่พอไปถึง ก็เจอเหตุการณ์นี้ คนที่ก่อเหตุ พอเห็นว่านายบุญนาคขี่รถตามไล่หลังมา คนร้ายเข้าเกียร์ถอยหลัง ก่อนพุ่งชนรถ จยย.ของนายบุญนาค อัดก็อปปี้กับรถที่ตามหลังมาจนเสียชีวิต

 

ญาติของผู้ตายเล่าอีกว่า หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เคยเป็น รปภ.มาก่อน และลุงบุญนาคก็รู้จักดี เป็นไปได้ไหมว่าการพุ่งรถถอยมาชน จะเป็นการตั้งใจชนเพราะรู้ว่าลุงบุญนาคจำหน้าได้ เป็นการเจตนาฆ่า ไม่ตรงกับคำให้การของแก๊งผู้ต้องหา ที่อ้างว่าไม่ได้ตั้งใจชน

 

ส่วนประเด็นที่ทางญาติติดค้างคาใจสุดๆ คือประเด็นของ “นายเบิร์ด” หนึ่งในผู้ต้องหา ที่ตำรวจจับได้คนแรกๆ แต่พอเอาตัวไปสอบสวน ญาติผู้ตายซึ่งรู้จักนายเบิร์ดอยู่แล้ว พยายามเข้าไปเอาเรื่อง แต่ตำรวจขวางไว้ โดยบอกว่า ถ้ามีพยานหลักฐานมัดตัวว่านายเบิร์ดผิดจริง จะเอาออกมาให้พวกเอ็งกระทืบเลย แต่สุดท้าย พอตำรวจเอาตัวนายเบิร์ดไปสอบสวน กลับปล่อยตัวนายเบิร์ดออกมาซะอย่างนั้น โดยให้เหตุผลว่าไม่มีพยานหลักฐานชัดเจน ทั้งที่ผู้ร่วมก่อเหตุก็ชี้ตัวชัดเจนว่า นายเบิร์ดไปก่อเหตุด้วยกัน

 

เรื่องนี้ รองแต้ม บอกว่า ผู้ต้องหาที่ชี้ว่านายเบิร์ดไปด้วยกัน ถือว่าเป็น “ประจักษ์พยาน” ถ้าศาลตัดสิน จะถือว่าเป็นพยานที่มีน้ำหนักมาก ไม่เข้าใจว่าทำไมตำรวจถึงไปอ้างแบบนั้น ยังไงก็ต้องควบคุมตัวนายเบิร์ดไว้ก่อน ญาติผู้ตายที่มารอที่ สน.ท่าเรือ 10 กว่าคน บอกว่า เห็นนายเบิร์ดจะขี่รถออกจากโรงพัก จึงเข้าไปขวางเอาไว้ ไม่ยอมให้หนี ล้อมไว้ไม่ให้กลับ สุดท้ายตำรสจต้องมาเอาตัวนายเบิร์ดกลับไปควบคุมตัวไว้ที่ห้องสืบ ทำให้พวกญาติพี่น้องไม่ยอมกลับ นั่งเฝ้าที่โรงพัก ไม่ยอมให้หนี

 

ขณะที่ พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากการซักถามนายแบงค์ หนึ่งในผู้ต้องหา ที่มามอบตัวคนสุดท้าย ให้การว่าก่อเหตุมาแล้ว 2 ครั้ง โดยครั้งแรกทำวันที่ 27 พ.ค.หลังจากนั้นก็ทำแบบนี้อีก 3 ครั้ง ได้ของออกมาทั้ง 3 ครั้ง และครั้งล่าสุดที่เกิดเรื่องคือ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา มีคนในพื้นที่ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญเป็นคนคอยชี้เป้าให้ และมีความสนิทสนมกับนายแบงค์ ตอนนี้ตำรวจทราบตัวแล้วว่าเป็นใคร

 

ส่วนที่ขับรถชน รปภ. เสียชีวิต นายแบงค์ยังยืนยันว่าเป็นการใส่เกียร์ผิด ไม่ได้มีเจตนา แต่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ส่วนข้อมูลที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลไม่ตรงกับกรมศุลกากรว่าไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะแบบนี้มาก่อน เพราะตำรวจยังไม่ได้รับแจ้งความจากกรมศุลกากร จะต้องรอให้กรมศุลกากรรวบรวมข้อมูล โดยเฉพาะรายการบัญชีของกลางเพื่อนำมาตรวจสอบ

 

ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีที่กลุ่มผู้ต้องหา 6 คน ยืนยันว่า ที่บอกว่า ตำรวจ สน.ท่าเรือปล่อยตัวนายเบิร์ดออกมา ไม่เป็นความจริง เจ้าตัวถูกควบคุมตัวไว้ตั้งแต่วันแรก ที่มีการไปบอกว่านายเบิร์ดเป็นเด็กนาย เป็นนิ้วของตำรวจ จริงๆ ก็ไม่ใช่ เพราะนายเบิร์ดมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ก็อาจจะมีบ้างที่ตำรวจในโรงพัก ว่าจ้างนายเบิร์ดเข้ามาซ่อนนั่น ซ่อมนี่ นิดๆ หน่อยเท่านั้นเอง

 

ขณะที่ญาติของผู้ตายบอกว่า จนถึงปัจจุบัน ทางเจ้าหน้าที่ไม่เปิดเผยข้อมูลเรื่องการสอบสวนกับทางครอบครัวเลย ไม่รู้เลยว่า จับใครได้บ้าง จับยังไง มีใครบ้าง อยากเห็นหน้าผู้ต้องหาสักครั้ง ไม่เคยเห็นหน้าจริงๆ เลยสักที สำหรับคนที่วิ่งหนีออกไปจากรถ ถ้าเขาจะมาขอขมาศพก็มาได้ แต่คนที่ถอยรถมาทับร่างลุงบุญนาค ไม่ให้อภัยแน่นอน ที่อ้างว่าเข้าเกียร์ผิด มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว ถอยมาทับคนทั้งคน จะไม่รู้เรื่องเลยหรือไง 

 

ขณะที่นายเก่ง หลานของผู้เสียชีวิต บอกอีกว่า ฝากถึงนายเบิร์ดด้วยว่า ถ้าเข้าไปข้างใน มีเพื่อนเก่ารออยู่ ชื่อ “เจี๊ยบเป๋” คู่กรณีเก่าของเขาเอง รออยู่แดน 4 เข้าไปก็ไปทักทายเขาด้วย


แท็กที่เกี่ยวข้อง
#ชนรปภ#ขโมยบุหรี่ไฟฟ้า