สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่กองสาธารณสุข อบต.บางเสาธง ร่วมกันเข้าตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ หญิง อายุ 73 ปี ที่ห้องพักคนงานภายในบริษัทขนส่งแห่งหนึ่ง ต.บางเสาธง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีหญิงสูงอายุ ถูกลูกสะใภ้ทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บ มีบาดแผลเขียวช้ำตามร่างกายและมีแผลถูกตีศีรษะแตก
เมื่อเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึง พบยายนั่งอยู่ที่หน้าห้องพัก ใบหน้าด้านซ้าย ใต้ตา มีรอยเขียวช้ำ เหนือริมฝีปากซ้ายมีรอยแผลเย็บ จากการสอบถาม กล่าวว่า ตนพักอาศัยอยู่กับลูกชาย ลูกสะใภ้ และหลานชาย อายุ 4 ขวบ ตนลูกสะใภ้กับลูกชายทำร้ายร่างกาย สาเหตุเกิดจากตนหาฟันปลอมไม่เจอ ถามลูกชายกับลูกสะใภ้ บอกว่าเอาไปทิ้งแล้ว จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน นอกจากนี้ ตนอยู่บ้านเฉยๆ จึงหวังดีเอาเสื้อผ้าของลูกชายที่อยู่ในตะกร้าไปซัก แต่กลับถูกลูกชายและสะใภ้ดุด่า ตนยอมรับว่าเคยลื่นล้มเองบ้าง แต่ยืนยันแผลที่ใบหน้าและศีรษะแตกถูกลูกชายกับสะใภ้ทำร้าย ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าเจ้าหน้าที่จะช่วยพาไปอยู่ที่อื่น อยากไปไหม ยายตอบว่า ไม่อยากไป ผู้สื่อข่าวพูดต่อ ถ้ายายไม่ไป กลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก ยายหยุดคิด ใบหน้าเศร้า ตอบว่า จะให้ไปไหนก็ไป
ด้านลูกชาย อ้างว่า ช่วงเกิดเหตุวันที่ 1 ก.ค.ตนออกไปทำงาน แม่อยู่กับภรรยาของตนที่ห้อง ส่วนรอยแผลของแม่ ภรรยาบอกว่าแม่ลื่นล้มเองและถ่ายรูปส่งมาให้ดู เมื่อตนกลับมาถึงห้องพัก จึงพาแม่ไปส่ง รพ. หลังจากนั้นวันที่ 2 ก.ค. ภรรยาก็บอกว่าแม่ลื่นล้มอีกแล้ว หน้าตาเขียวหมดเลย ตนก็พาไปหาหมออีก โดยส่วนตัว ตนคิดว่าบาดแผลแบบนี้มีลักษณะรอยแตกยาว แม่น่าจะโดนทำร้าย เพราะแผลลื่นล้ม ลักษณะไม่ใช่แบบนี้ ส่วนสาเหตุตนไม่แน่ใจว่าเกิดจากอะไร
แต่ถามภรรยา ยืนยันว่าไม่ได้ทำร้าย เคยถามแม่ว่าโดนใครทำร้ายมา แม่บอกว่าลื่นล้มเอง แต่บางครั้งก็บอกว่าโดนคนอื่นทำร้าย ที่ผ่านมาแม่มีอาการหลงๆ ลืมๆ ชอบทำอะไรซ้ำๆ รื้อข้าวของทุกวัน ส่วนภรรยาก็จะเป็นคนคอยตามเก็บของ เขาจะบ่นนิดหน่อยแต่ไม่ถึงกับทำร้ายแม่
ส่วนเพื่อนข้างห้อง กล่าวว่า ตนเคยได้ยินเสียงยายร้องขอความช่วยเหลือ แต่ไม่กล้าเข้าไปช่วย เนื่องจากเป็นปัญหาภายในครอบครัว เคยเข้าไปช่วยเวลาที่ลูกชายกับลูกสะใภ้ของยายออกไปทำงาน พบว่ายายกินข้าวบูด จึงหาข้าวใหม่ให้กิน ตนไม่คิดว่าเหตุการณ์ทำร้ายจะเกิดขึ้นใกล้ตัว บางครั้งทนไม่ได้ต้องออกไปข้างนอก ไม่อยากได้ยินเสียงร้องของยาย สุดท้าย เห็นยายถูกทำร้ายหัวแตก หน้าตามีรอยบวมช้ำ ทนไม่ไหว บอกเจ้านายให้ทราบเรื่องและแจ้งเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
เบื้องต้น หลังจากพูดคุยเจรจากันหลายส่วน เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.สมุทรปราการ ได้รับตัวยายไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัว นำเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองดูแลชั่วคราว พร้อมให้คำแนะนำปรึกษากับครอบครัว เพื่อสามารถดูแลผู้สูงอายุที่มีภาวะหลงลืม กระทั่งมั่นใจว่าจะอยู่ร่วมกันได้อย่างปลอดภัย จึงจะส่งตัวผู้สูงอายุคืนกลับไปอยู่กับลูกหลานเหมือนเดิม ส่วนเรื่องคดีความ ขึ้นอยู่กับลูกชายของยาย ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป