ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในซอยวัดลาดปลาดุก จ.นนทบุรี ชาย อายุ 53 ปี เปิดเผยหลังจากไม่สามารถถอยรถเข้าออกบ้านของตัวเองได้ จึงตัดสินใจจอดรถหน้าบ้าน แต่ถูกด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย พร้อมกับถูกข่มขู่ โดยตนกลับมาถึงบ้านประมาณสี่ทุ่ม ปรากฏว่ามีรถจอดอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านหลายคัน คันหนึ่งเป็นของท้ายซอย แต่มาจอดที่กลางซอย และตนไม่สามารถตีวงเพื่อถอยรถเข้าบ้านได้ จึงตัดสินใจจอดหน้าบ้าน โดยในวันนั้นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ตนจึงคิดว่าทำไมตนต้องจอดอยู่ในบ้านคนเดียวด้วย
ก่อนหน้านี้เคยมีปัญหากันว่าหน้าบ้านเขา ทำไมเขาถึงจอดรถไม่ได้ ก็เลยตัดสินใจจอดรถหน้าบ้านบ้าง วันต่อมาตนจึงรีบกลับบ้านมาเร็วเพื่อที่จะจอดรถหน้าบ้าน จะได้ไม่มีปัญหาว่าอีกฝั่งมาจอดแล้วเข้าบ้านไม่ได้ จนสุดท้ายบ้านข้างในสุดไม่สามารถขับรถเข้าออกได้ จึงอัดคลิปโพสต์เฟซบุ๊ก ด่าตนด้วยถ้อยคำหยาบคาย บอกว่า กูทำให้อยู่ดีๆ กันไม่ชอบ จอดรถแบบนี้ เดี๋ยวกูจะระเบิดให้หมดเลย
ตนจึงรู้สึกว่าทำไมคนทั้งซอยจอดได้และทำไมตนถึงจอดไม่ได้ ซึ่งอยู่บ้านนี้มา 12 ปี ไม่เคยจอดรถหน้าบ้านมาก่อนเลย แต่มาจอดได้ 2 วันกลับมีปัญหา ตนต้องการให้มันเกิดมาตรฐาน ถ้าหากจอดได้ก็ควรจะจอดได้ทุกหลัง แต่ถ้าหากจอดไม่ได้ ก็ไม่ควรมีบ้านหลังไหนที่จอดได้เหมือนกัน
ซึ่งในซอยมีเพียงแค่บ้าน 2 หลัง คือบ้านของตนและบ้านของคุณป้าที่มีอายุคนหนึ่ง ซึ่งบ้านท้ายซอยอ้างว่า เดี๋ยวนี้เขาจอดรถในบ้านแล้ว ซึ่งถ้าดูกล้องวงจรปิดก่อนหน้านี้ 2 วัน เขาก็ยังจอดรถหน้าบ้านอยู่เลย ตอนที่ตนมาอาศัยอยู่ที่นี่ตนก็เห็นว่าบ้านหลังนี้จอดรถอยู่หน้าบ้านมานานแล้ว
ต่อมาตนจึงโทรไปเคลียร์กับอีกฝ่าย เนื่องจากว่าเป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก แต่ก็ไม่เป็นผล เพราะอีกฝ่ายบอกว่า อย่ามายุ่งกับเขา เดี๋ยวจะเจ็บหนัก เราจึงไม่ได้มีการเผชิญหน้ากัน มีแต่คุยผ่านทางโซเชียลเท่านั้น มองว่าอีกฝ่ายเลือกด่าเฉพาะบ้านคนพิการบ้านคนแก่
ตนไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับเรื่องนี้แล้ว เพราะว่าจอดในบ้านตนก็โดนต่อว่าอีก เพราะว่ามีหน้าบ้านเอารถมาจอดด้านหน้า แล้วตนก็ไม่สามารถถอยรถจอดได้ เวลาที่ถอยออก ตนก็จะบีบแตร เพื่อให้เจ้าของรถมาเลื่อนรถให้ ซึ่งก็ยอมรับว่าทุกครั้งที่เป็นแบบนั้น มันก็อาจจะสร้างความไม่พอใจให้กับคนที่ต้องออกมาเลื่อนรถ แต่เราไม่ได้ทะเลาะกัน และเมื่อเป็นแบบนั้นบ่อยๆ บ้านหลังนั้นก็ไม่ได้เอารถมาจอดแล้ว แต่ให้รถบ้านด้านในสุดมาจอดแทน
หลังจากที่เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น ตนก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.ไทรน้อย เนื่องจากว่าก่อนหน้านี้เวลามีปัญหาอะไรกันเรื่องที่จอดรถ ตนก็ได้บอก ตำรวจที่อยู่แถวบ้าน เขาก็ตอบกลับมาว่า เจอแบบเดียวกัน ก็ไปซื้อบ้านใหม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ตนอยากจะทำให้มันเกิดขึ้นคือ อยากให้หน่วยงานภาครัฐมองเห็นปัญหาเรื่องที่จอดรถของคนที่ซื้อบ้านในราคาถูก ว่าควรจะมีกฎหมายที่บ่งบอกชัดเจน เรื่องของการจอดรถหน้าบ้านว่าควรจอดรถได้หรือไม่ได้
ต่อมา คู่กรณี และเป็นเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ด้านในสุด เผยว่า คืนเกิดเหตุวันที่ 27 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนขี่รถจักรยานยนต์กลับมาที่บ้าน ก็เห็นว่าภายในซอยบ้านมีรถจอดอยู่หน้าบ้านทั้งสองฝั่ง ซึ่งทำให้บ้านของตนและคนที่อยู่ด้านในสุดไม่สามารถขับรถใหญ่เข้าออกได้เลย ทำให้รู้สึกโมโห เพราะคิดว่าถ้าหากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินอะไรขึ้นมา แล้วคนอยู่ด้านในสุดจะออกยังไง
ตนจึงเดินไปที่หน้าบ้านของอีกฝ่ายแล้วก็อัดคลิปต่อว่า ก่อนจะโพสต์ลงเฟซบุ๊กด้วยความโกรธ ประกอบกับก่อนหน้านี้เห็นเฟซบุ๊กของอีกฝ่ายโพสต์แขวะเรื่องที่จอดรถด้วย ก็เลยทำให้โกรธมากขึ้นกว่าเดิม จากนั้นวันต่อมาก็ได้พูดคุยกับอีกฝ่าย ก็ไม่สามารถตกลงกันได้ ตนพยายามบอกว่า ถ้าหากคุณจอดรถหน้าบ้านแบบนี้ คนอื่นก็มาจอดกันหมด แต่รู้สึกว่าอีกฝ่ายพยายามพูดกดดันตน
จริงๆ แล้ว ตนคือ ผู้ประสบภัยที่สาม เนื่องจากบ้านของตนอยู่ในสวน ถ้าหากเอารถมาจอดหน้าบ้านกันแบบนี้ เวลาเกิดเหตุอะไรมันก็ลำบาก อย่างกรณีของตนแม่เคยมีอาการสโตรกขึ้นมา ก็ทำให้พาไปหาหมอลำบากมาก ซึ่งที่ผ่านมาตนก็ด่าทุกคนที่เอารถมาจอดหน้าบ้านว่า เห็นแก่ตัวตลอด ไม่ได้ด่าแค่เขาคนเดียว
ส่วนประเด็นที่ตนต่อว่าอีกฝ่ายด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย เรื่องนี้ตนยอมรับว่าตนผิดจริง เนื่องจากโมโหมาก แและก็ขอโทษอีกฝ่ายไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนหลังจากนี้อีกฝ่ายจะแจ้งความดำเนินคดีอะไรตน ก็ปล่อยให้มันเป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย
ที่มา : ข่าวสด