จากกรณีที่มีคลิปวิดีโอ อ้างว่าเป็นชาวลาว เปิดร้านขายของอยู่หน้า รพ. แห่งหนึ่งใน จ.กำแพงเพชร หากินในประเทศไทย แต่กลับใช้ถ้อยคำดูถูกเหยียดหยามในทำนองว่า ตนเองนั้นเปิดกิจการเป็นของตัวเอง ส่วนคนไทยเป็นขอทาน ก่อนจะลบคลิปดังกล่าวออกไป พร้อมทำคลิปขอโทษ แต่ก็ไม่ช่วยให้กระแสเบาบาง ในโลกออนไลน์ทั้งคนไทยและคนลาว ต่างวิพากษ์วิจารณ์หญิงคนดังกล่าวอย่างหนัก
ล่าสุดวันนี้ สำนักงานจัดหางานจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองกำแพงเพชร และตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 6 ได้สืบหาข้อเท็จจริงจนทราบว่า แม่ค้าชาวลาวคนดังกล่าว ลักลอบเปิดร้านขายไส้กรอกอีสาน โดยตั้งร้านบริเวณปากทางเข้า รพ.พรานกระต่าย จังหวัดกำแพงเพชร จึงได้เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ พบหญิงชาวลาว อายุ 38 ปี ซึ่งยอมรับว่า บุคคลในคลิปที่เผยแพร่ออกไปเป็นตนเองจริง พร้อมยอมรับว่าตนเองเดินทางมาจากประเทศลาว และมีสามีเป็นคนไทย ขออนุญาตทำงานที่ จ.ศรีสะเกษ ในตำแหน่งกรรมกร ก่อนจะเดินทางมา จ.กำแพงเพชร สามีทำงานบริษัท ส่วนตนเองเปิดร้านขายไส้กรอกอีสานเพื่อหารายได้เสริม เนื่องจากมีลูก
จากนั้น เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้เชิญตัวหญิงคนดังกล่าวมาสอบปากคำเพิ่มเติม ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดกำแพงเพชร
ส่วนกรณีคลิปวิดีโอที่มีการโพสต์ออกไป หญิงคนดังกล่าว เล่าว่า ตอนนั้นกำลังดูไลฟ์ติ๊กต็อกของพี่ที่เป็นชาวลาวด้วยกัน ซึ่งจะอยู่ในกลุ่มของคนลาว แต่จู่ๆ ก็มีคนไทยคนหนึ่งเข้ามาคอมเมนต์ว่า “คนลาวตาขาว” ซึ่งคำว่าตาขาวสำหรับประเทศลาวเป็นคำที่แรงมาก ตนจึงขอขึ้นไลฟ์ทันที
ยอมรับว่าตนพูดแรงจริงเรื่องคำว่าคนไทยขอทาน จริงๆ แล้วเจตนาจะบอกว่า “คนไทยยังมีขอทานอยู่เลย มาพูดว่าคนลาวตาขาว ประเทศไทยยังมีขอทานอยู่เลย พี่พูดแบบนี้กลับไปดูประเทศพี่ก่อนไหม” แต่ก็ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ผิด พร้อมออกมาขอโทษที่พูดไป เพราะตนมาอยู่ประเทศไทยตั้งแต่อายุ 15 ปี ประเทศไทยดีกับตนมาก แต่ที่พูดออกไปเพราะตนหลุดไปแล้ว
ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นคนต่างด้าวทำงานนอกเหนือจากที่มีสิทธิ์จะทำได้ ตามมาตรา 8 มีโทษตามมาตรา 101 แห่งพระราชกำหนดการวริหารการจัดการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. 2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติมฯ ก่อนจะส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.พรานกระต่าย ดำเนินคดีต่อไป