ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านหลังหนึ่งใน ต.นาชุมแสง อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี มีสามีและภรรยา เลี้ยงหลานสาววัยขวบกว่า ๆ ไม่ไหว เพราะฐานะยากจน จึงอยากมอบหลานให้คนอื่นที่อยากเลี้ยง เพราะแม่ของหลานไม่ส่งเสียดูแลทิ้งให้เลี้ยงตามลำพัง
ต่อมาผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปพบกับหญิง อายุ 65 ปี และชาย อายุ 72 ปี โดยครอบครัวนี้อยู่ด้วยกัน 4 ชีวิต มีตา ยาย หลานสาววัยขวบเศษและหลานชายวัย 9 ขวบ
หญิง อายุ 65 ปี ยายของเด็ก ๆ กล่าวว่า ตนมาอยู่บ้านหลังนี้กับสามีได้ 7 ปีแล้ว ตอนนี้ลำบากมาก เพราะลูกสาวของตนซึ่งเป็นแม่ของเด็กๆ นำลูกมาให้เลี้ยง 2 คน คนโตอายุ 9 ขวบ คนเล็กเป็นหญิงอายุขวบเศษ แม่เขาไปตัดอ้อยที่ จ.สุพรรณบุรีไม่เคยส่งเงินมาดูแลลูกเลย ตนก็ลำบากไม่มีอาชีพ อาศัยเพียงเงินผู้สูงอายุซื้อข้าวซื้อน้ำกิน บางวันไม่มีเงินซื้อนมให้หลานต้องต้มน้ำข้าวให้หลานกิน
ส่วนหลานชายไปโรงเรียนบางวันก็ไม่มีเงินให้ไปโรงเรียน หยุดเรียนไปเลย สำหรับหลานคนเล็กพ่อเขาเสียชีวิต เคยเอาไปให้ย่าเขาเลี้ยง เขาบอกปัดจะเอาไปให้สถานสงเคราะห์ที่ไหนก็เอาไปเลย บอกไม่สนใจ จึงนำมาที่บ้านหลังนี้
สำหรับลูกสาวตนที่เป็นแม่ของเด็กไปทำงานต่างจังหวัด และมีลูกทั้งหมด 6 คน แต่เกิดคนละพ่อ และเขาโกหกว่าทำหมันแล้ว โดยปู่และย่าเด็กรับไปเลี้ยงแล้ว 3 คน ตอนนี้เหลืออยู่ 3 คน อยู่กับตน 2 คน อีกคนลูกสาวของตนเอาไปอยู่ด้วย
หญิงคนดังกล่าวบอกอีกว่า “ตอนนี้ยายเลี้ยงหลานสาววัยขวบเศษไม่ไหวแล้ว ใครมีจิตเมตตาอยากจะอุปการะเลี้ยงดูมาเอาไปได้เลย หรือสถานสงเคราะห์อยากได้ก็มาเอาไปได้เลย ยายก็สงสารหลาน แต่อยากให้หลานมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่านี้ไม่ต้องมาลำบาก และหากวันใดวันหนึ่งตาและยายจากโลกนี้ไป แม่ของเด็กคงปล่อยทิ้งตามยถากรรม”
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้โทรสอบถามแม่ของเด็ก กล่าวว่า จะไม่ยอมยกลูกให้คนอื่น เพราะอีกประมาณ 10 วัน จะกลับบ้านมารับลูกไปอยู่ด้วย เนื่องจากช่วงเวลานั้นงานตัดอ้อยเสร็จแล้ว
ขณะที่ชาวบ้านก็คัดค้านว่า ไม่เชื่อว่าจะเลี้ยงลูกได้ เพราะลูกทั้งหมด 6 คน ก็ไม่ได้เลี้ยงเอง ให้ปู่ย่า ตายายเลี้ยง พร้อมแนะนำว่าถ้าไม่พร้อมที่จะเลี้ยง ถ้ามีคนใจบุญยื่นมือมารับเลี้ยงแทน ก็ต้องปล่อยให้ลูกไปอยู่ที่ที่ดีกว่า
ที่มา : ข่าวสด