จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งโพสต์ภาพโครงกระดูกมนุษย์ปริศนาบนตึกร้างแห่งหนึ่ง พร้อมระบุข้อความว่า “รบกวนเช็กให้ทีครับว่าตึกไหน เรื่องมีอยู่ว่าผมได้ทำโทรศัพท์ตกหายตรงข้ามซอยทางเข้าแจ้งวัฒนะ 14 แล้วมีคนหนึ่งเหมือนจะเป็นคนสติไม่ดี เก็บได้ ผมเลยได้โทรเข้าเบอร์ตัวเองเครื่องที่หายแล้วเค้ารับสาย ผมเลยพยายามนัดไปเอาโทรศัพท์ผมคืน พอมาถึงห้องผมได้เปิดโทรศัพท์เช็กดู เห็นรูปถ่าย ไม่รู้ว่าอยู่ตึกไหน ทางผมได้ไปแจ้งความไว้แล้ว ฝากทุกๆ ท่านช่วยพาเค้าได้กลับบ้าน ตามเรื่องให้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบด้วยนะครับ” (อ่าน : ‘กัน จอมพลัง’ ลงพื้นที่ตึกร้าง หลังพลเมืองดีแจ้งข้อมูล ผงะ! พบโครงกระดูกมนุษย์ปริศนา สภาพแห้ง-ผุอยู่บนที่นอน)
ต่อมา สภ.ปากเกร็ด ได้ติดตามตัวชาย อายุ 30 ปี คนเจอโทรศัพท์และเป็นคนถ่ายรูปโครงกระดูกดังกล่าวได้ที่บ้านหลังหนึ่ง เล่าว่า ตนเดินออกจากบ้านมา และไปเดินเล่นแถวห้าง เจอโทรศัพท์มือถือตกอยู่ 1 เครื่อง จึงเก็บมา หลังจากนั้นตนก็เดินออกมาเรื่อยๆ และลองกดโทรศัพท์ดู แต่โทรศัพท์ล็อก ไม่สามารถเล่นได้ ถ่ายรูปได้อย่างเดียว ตนจึงเดินไปที่ตึกร้าง เพราะเคยเข้าไปนอนเล่นอยู่ภายในนั้นเมื่อปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ตนเคยโดนจับคดีลักทรัพย์ที่ สภ.ปากเกร็ด ก่อนโดนจับตนเข้าไปอาศัยในตึกร้างนี้มาก่อน ตอนที่เจอโทรศัพท์จึงไม่รู้จะไปที่ไหน ตัดสินใจไปที่ตึกร้าง และเดินถ่ายรูปเล่น ถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเอง ซึ่งตึกนี้ที่ตนเข้าไปบ่อย ชอบไปเก็บของเก่า เอาขยะไปวางบ้าง แต่ไม่เคยเจอใครเข้ามาก่อนหน้านี้ และไม่เคยเห็นคนเข้ามาอาศัยในนี้ด้วย ซึ่งตึกนี้จะต้องปีนขึ้นไปเล็กน้อยถึงจะเข้าได้ ตนเคยไปนอนชั้นล่างประมาณ 2-3 ครั้ง ไม่เคยขึ้นไปข้างบนเลย
แต่วันนี้ที่เก็บโทรศัพท์ได้ จึงไปเดินเล่น มีสายโทรเข้ามาที่โทรศัพท์หลายสาย แต่ไม่ใช่เจ้าของ เป็นร้านหมูกระทะ มีคนจะส่งของบ้าง ตนจึงรอให้เจ้าของโทรมา เพื่อที่จะส่งเครื่องคืน แต่จังหวะที่รออยู่ ตนเดินขึ้นไปที่ตึกร้างชั้น 3 ปรากฏว่าเจอโครงกระดูก ตนตกใจจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายภาพไว้ เพราะปกติแล้วตนไม่เคยเดินขึ้นมาเลย แต่อยากถ่ายเซลฟี่หน้าตัวเอง อยากลองกล้องโทรศัพท์ถ่ายวิว แต่มาเจอโครงกระดูกแทน
พอผ่านไปสักพัก เจ้าของโทรศัพท์ติดต่อมา บอกว่าจะเข้ามาเอาโทรศัพท์และจะให้เงินเป็นการตอบแทน ตนจึงให้เขาเข้ามาเอา นัดกันที่ร้านสะดวกซื้อหน้าตึกร้าง พอเขามาตนก็เอาโทรศัพท์ส่งคืนให้เจ้าของไป หลังจากที่คืนไปแล้ว ตนก็เดินกลับบ้านไปหาตายาย แล้วตำรวจก็มาหาตนที่บ้าน ตนจึงมา สภ.ปากเกร็ด เล่าเหตุการณ์ให้เขาฟัง ตนก็ไม่สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ว่าเจอโครงกระดูก เพราะตนไม่มีโทรศัพท์ ตอนนี้รู้สึกว่าตกใจนิดๆ เพราะไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน