จากกรณี ‘พระครูปลัดธีระฯ’ หรือ ‘พระปีนเสา’ เป็นกระแสถูกสังคมวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม ล่าสุด พระครูสุวรรณวิจิตร เจ้าอาวาสวัดสามชุก ซึ่งเป็นต้นสังกัด ได้ออกคำสั่งให้พระปีนเสาพ้นจากสังกัดสามชุกแล้ว
โดยมีหนังสือจากเจ้าอาวาสวัดสามชุก ส่งถึงพระปลัดธีระฯ ใจความส่วนหนึ่งว่า
ตามที่ท่านได้มาขอเข้าสังกัดวัดสามชุก ตั้งแต่ปี พ.ศ.2565 เมื่อทำหนังสือสุทธิเรียบร้อยแล้ว ท่านไม่เคยมาพักค้างอยู่จำวัด หรือจำพรรษาในวัดสามชุกเลย และไม่เคยบอกให้ทราบว่าไปทำกิจอยู่ที่ไหน จวบจนกระทั่งเกิดปัญหา ออกสื่อไปทั่วโลกเมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2567 ผมได้มีหนังสือให้ท่านกลับไปที่วัด ท่านก็กลับไปในวันที่ 4 พ.ย. เพียงระยะเวลาสั้นๆ ถ่ายคลิปเอาไปเป็นหลักฐานให้ตนเองว่ากลับไปตามที่มีหนังสือเรียกแล้ว โดยในวันนั้นผมก็ได้แนะนำให้ยุติการกระทำที่ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ไม่ดี ท่านก็รับปากว่าจะหยุด แต่วันที่ 5 พ.ย. ท่านก็ไปยืนแถลงข่าวที่หน้ากองบังคับการตำรวจกองปราบปราม ตามที่ท่านทราบดีอยู่แล้ว
ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าอาวาสเจ้าสังกัด ก็ยังมีเมตตาได้มีหนังสือสั่งให้ท่านกลับไปอยู่ประจำที่วัดเช่นพระภิกษุผู้อยู่ในสังกัดรูปอื่นๆ ภายใน 7 วัน และมีคำสั่งห้าม 3 ข้อ แนะนำให้ปฏิบัติ 1 ข้อ พร้อมกับกำชับมาด้วยว่า หากไม่กลับหรือไม่เชื่อฟังคำสั่ง ไม่อยู่ในโอวาทของเจ้าอาวาส ผมจะสั่งให้ท่านพ้นจากสังกัดวัดสามชุก
แม้วันนี้จะยังไม่ครบ 7 วันตามเงื่อนไขแรก แต่ดูจากพฤติกรรมแล้ว ท่านไม่ได้ให้ความสำคัญกับการจะรีบกลับอยู่ที่วัด ยังคงเดินทางไปปรากฏตัวตามที่ต่างๆ และที่สำคัญ ท่านได้แสดงออกทางกายและวาจาผ่านสื่อโซเชียล ละเมิดข้อห้ามอย่างไม่สนใจในคำสั่งของผม อันแสดงให้เห็นว่าท่านไม่ให้ความสำคัญกับคำสั่งของเจ้าอาวาส จงใจจะฝ่าฝืนคำสั่ง
เมื่อเป็นดังนี้ จึงเท่ากับว่าท่านเพียงขอเอาชื่อมาเข้าสังกัดไว้พอให้ได้ชื่อว่าเป็นพระมีสังกัด ส่วนท่านเองจะไปแสดงพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อองค์กรคณะสงฆ์ครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าจะเสียหายร้ายแรงเสื่อมเสียเพียงใด ท่านก็ไม่สะทกสะท้าน แม้สังคมจะรุมประณามตำหนิติเตียนอย่างไร ท่านก็ไม่มีความละอาย ไม่มีสมสัญญาตามที่ควรเป็นเลยแม้แต่น้อย
ผลจากการกระทำของท่าน ทำให้ผมซึ่งเป็นเจ้าอาอาวาสเจ้าสังกัดของท่าน และผู้ปกครองตั้งแต่เจ้าคณะตำบลขึ้นไป และส่วนราชการที่เกี่ยวข้องพลอยถูกตำหนิติเตียนอย่างรุนแรงไปด้วย และเสี่ยงต่อการที่จะถูกร้องทุกข์กล่กล่าวโทษในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ด้วยเหตุผลดังกล่าว ผมขออาศัยอำนาจตามความในมาตรา 38 (2) แห่งพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ พ.ศ.2505 แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2535 ออกคำสั่งให้ท่านพ้นจากสังกัดวัดสามชุก ทันทีที่ท่านได้อ่านหนังสือฉบับนี้ ไม่ว่าจะโดยทางช่องใดก็ตาม เนื่องจากผมไม่สามารถส่งเอกสารไปให้ท่านได้ เพราะท่านไม่เคยบอก และไม่เคยให้ที่อยู่สำหรับการติดต่อส่งเอกสาร และให้ท่านรีบนำหนังสือสุทธิมาย้ายชื่อออกจากสังกัดวัดสามชุกโดยเร็ว
ล่าสุด ทางด้านพระปีนเสาก็ได้โพสต์ภาพจดหมายคำสั่งดังกล่าวผ่านติ๊กต็อกชื่อบัญชี @whracrupladteera พร้อมระบุข้อความสั้นๆ ว่า
“คำสั่ง ฉบับที่ 3 ออกมา สำนักพุทธฯ ดีใจเนื้อเต้น โทรศัพท์มาเยาะเย้ยอาตมา”
ด้านชาวเน็ตก็เข้ามาคอมเมนต์กันอย่างล้นหลาม เช่น
“ขอบคุณท่านที่เกี่ยวข้อง ได้ทำหน้าที่ได้ดีแล้ว สร้างศรัทธาให้ชาวพุทธเรา”
“เร่ร่อนวรารามตามที่ท่านเคยพูดไว้”
“อยู่ไหน”
“สึกออกมาทำคอนเทนต์เลย คนตามเยอะอยู่”
ฯลฯ