หญิงวัย 47 ปี ขอความเป็นธรรม ถูกแก๊งเงินกู้พ่นควันบุหรี่ใส่หน้า พอปัดมือออกกลับถูกแจ้งความข้อหาทำร้ายร่างกาย ตำรวจบอกอยู่ระหว่างตรวจสอบข้อเท็จจริง ยืนยันให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย

จากกรณีที่มีคลิปเผยแพร่ผ่านเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่าเกิดเหตุที่อำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี หญิงรายหนึ่งระบุว่า ขณะเปิดร้านอาหารอยู่ ได้มีชายกลุ่มหนึ่งซึ่งเชื่อว่าเป็นแก๊งเงินกู้ มายืนดูดบุหรี่อยู่หน้าร้าน ตนจึงยกมือไหว้ขอให้ไปสูบที่อื่นเนื่องจากมีลูกค้า แต่ชายคนหนึ่งไม่สนใจ และยังพ่นควันใส่หน้าตน เมื่อตนจะถ่ายทะเบียนรถเพื่อนำไปแจ้งความ ชายคนดังกล่าวกลับเดินมาพ่นบุหรี่ใส่อีก ตนจึงปัดมือของชายคนนั้นด้วยความตกใจ ทำให้ถูกกล่าวหาว่าทำร้ายร่างกาย พร้อมขู่ว่ารู้จักตำรวจทั้งโรงพัก

ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 29 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุ ในเขตเทศบาลบ้านบึง ได้คุยกับหญิงเจ้าของร้านวัย 47 ปี เล่าว่า เหตุเกิดช่วงหัวค่ำวันก่อน โดยมีกลุ่มชายวัยรุ่น 4 คน ซึ่งเชื่อว่าเป็นกลุ่มเงินกู้ มายืนดูดบุหรี่ใกล้ร้านอาหารของตน ตนแพ้ควันบุหรี่และมีโรคประจำตัว จึงขอร้องให้ออกไปสูบที่อื่น หากไม่เช่นนั้นจะโทรแจ้งตำรวจ ชายคนดังกล่าวกลับไม่พอใจและท้าทายให้แจ้งความ

ขณะตนกำลังเดินไปถ่ายภาพรถเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน ชายคนนั้นกลับเดินเข้ามาพ่นควันใส่หน้า ด้วยความตกใจจึงยกมือปัดควัน กลายเป็นเหตุทะเลาะวิวาทตามคลิป และทั้งสองฝ่ายได้ไปแจ้งความกัน ซึ่งตนต้องเสียค่าปรับด้วย จึงตัดสินใจส่งคลิปไปยังเพจสายไหมเพื่อขอความเป็นธรรม เพราะตนไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นเรื่องและไม่ได้เกี่ยวข้องกับเงินกู้แต่อย่างใด

ด้าน พ.ต.ท.เอกชัย ภาควัตร รอง ผกก.สภ.บ้านบึง เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นหลัก ได้แก่

1. ตรวจสอบเรื่องเงินกู้ ว่ามีการปล่อยกู้จริงหรือไม่ โดยจะเชิญลูกหนี้และผู้ปล่อยกู้มาสอบสวน
   
    
2. ตรวจสอบการพ่นควันบุหรี่ในที่สาธารณะ ว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบหรือกฎหมายอื่นใดหรือไม่
   
    
3. กรณีทำร้ายร่างกาย จะให้ผู้เสียหายไปตรวจร่างกายเพื่อเก็บหลักฐานประกอบสำนวนคดี และจะเชิญทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำเพิ่มเติม
   
    

เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า หญิงทั้งสองรายที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการกู้เงิน และจะดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียด พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายอย่างแน่นอน