พ่อแม่ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมพยาบาลในหอพัก ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิต ยอมรับเสียใจ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่งใน อ.เมือง จ.ตรัง ซึ่งเป็นบ้านของ ชาย อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาในคดีฆาตกรรมพยาบาลในพอหัก พื้นที่เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี บ้านหลังดังกล่าวอยู่กันจำนวน 3 คน คือ พ่อ แม่ และพี่สาวของผู้ต้องหา ทุกคนต่างเสียใจกับเหตุการณ์ที่ลูกชายกระทำขึ้น

ชาย อายุ 54 ปี พ่อผู้ก่อเหตุ กล่าวว่า ตนทราบข่าวว่าลูกเป็นผู้ก่อเหตุเมื่อวาน นี้ โดยมีคนใกล้ชิดเอาข่าวจากโทรศัพท์มือถือมาให้ดู ผู้ก่อเหตุเป็นลูกชายคนสุดท้อง ในอดีตเขาเคยทำงานในห้างสรรพสินค้า ก่อนจะไปทำงานที่เกาะสมุยได้ประมาณ 2 ปี

ถ้าถามว่านิสัยของลูกชายเป็นยังไง เขาเป็นคนใจเย็น กับเพื่อนฝูงได้ทั้งนั้น ไม่มีพฤติกรรมที่จะก้าวร้าวอะไรเลย แต่หลังจากที่ลูกไปทำงานที่เกาะสมุย ก็ไม่ค่อยได้ติดต่อหรือพูดคุยกัน ประมาณซัก 2 ถึง 3 เดือนได้คุยกันสักครั้ง เขาไม่ได้รับผิดชอบหรือต้องส่งเงินมาดูแลครอบครัว

ลูกชายเคยมีครอบครัวมาก่อน กับภรรยาคนแรกแต่งงานมีลูกด้วยกัน 1 คน ตอนนี้เรียนอยู่ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 แล้ว ส่วนภรรยาคนที่อยู่ด้วยกันในปัจจุบัน ก็มีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 4 ขวบ ทั้งสองคบหากันตอนอยู่ที่ จ.ตรัง ก่อนจะพากันไปทำงานที่เกาะสมุย ลูกชายเพิ่งกลับบ้านมาล่าสุดเมื่อช่วงเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนสาเหตุที่ลูกก่อเหตุลงไปในครั้งนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เพราะลูกไม่ค่อยได้พูดคุยหรือบอกอะไรกับตน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนเสียใจอย่างมาก เมื่อเกิดการสูญเสียไปแล้วทุกคนก็เสียใจเหมือนกันทั้งนั้น และเมื่อตอนเช้าลูกชายได้โทรมาหาว่าจะขอมอบตัว ตนก็ได้บอกไปว่าให้มอบตัวไปเลย และให้รับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา ซึ่งตอนที่โทรมาฟังจากน้ำเสียงก็น่าจะร้องไห้ และตนยังได้บอกอีกว่าให้ทำใจ เข้มแข็ง มีสติให้เยอะๆ และให้ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนบวนการทางกฎหมาย ซึ่งตนก็น่าจะไปเยี่ยมลูกในวันพรุ่งนี้

วันนี้ หากตนสื่อสารไปยังญาติของผู้เสียชีวิตได้ จะบอกว่า เมื่อเกิดความสูญเสียแล้ว ทุกคนเสียใจกันทั้งหมด เสียใจมากๆ กับสิ่งที่ลูกชายตนได้ทำลงไป อยากจะขอโทษ

หญิง อายุ 56 ปี แม่ของผู้ต้องหา ได้ยกมือขอโทษไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมบอกว่า ตนขอโทษอย่างยิ่ง ตนก็เสียใจมาก เข้าใจในคำว่าสูญเสีย เมื่อคืนลูกชายก็โทรมา ตนก็พยายามบอกให้เข้ามอบตัว อย่าหลบหนี หากรักแม่สงสารแม่ก็ให้เข้ามอบตัว ก่อนที่ลูกชายจะติดต่อขอเข้ามอบตัวในช่วงเช้าที่ผ่านมา

ส่วนมูลเหตุ ลูกชายก็ไม่ได้บอกแม่เลยว่าเกิดจากอะไร เพราะน้อยครั้งมากๆ ที่จะได้ติดต่อกัน ครั้งล่าสุดที่ลูกชายกลับมา ก็ได้กอดและหอมแม่ ก่อนจะบอกว่า “กลับแล้ว” แม่ก็บอกไปว่าให้ใช้ชีวิตกันดีๆ หากมีจังหวะหรือมีโอกาสก็ย้ายกลับมาทำงานที่ จ.ตรัง

ตนไม่ใช่อยากจะยกยอลูกตัวเองที่ก่อเหตุไป แต่ลูกชายเป็นคนที่มีความรับผิดชอบมาก อยู่กับภรรยาคนแรก 13 ปี ได้รับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่างมาโดยตลอด ก่อนที่จะขาดกันไป ต่อมาก็ขอแม่ว่าจะไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ซึ่งไปประจำการอยู่ 2 ปี มีเงินเก็บกลับมา 80,000 บาท ก็นำมาฝากไว้กับตน และมามีภรรยาคนที่สองนี้