เมื่อวันที่ 13 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก หญิง อายุ 38 ปี เจ้าของ “น้องซากิ” แมวสายพันธุ์บริติช ชอร์ตแฮร์ เพศเมีย อายุ 10 เดือน หลังพาน้องแมวตัวนี้ไปอาบน้ำที่ร้านแห่งหนึ่งใน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี หลังจากรับน้องแมวกลับบ้าน ปรากฎว่าน้องแมวมีอาการผิดปกติ และเสียชีวิต โดยแพทย์ระบุว่าสาเหตุเกิดจากน้ำท่วมปอด ซึ่งตนทำใจไม่ได้ที่ต้องสูญเสียน้องแมวไป และอยากเรียกร้องขอความเป็นธรรมเนื่องจากทางร้านปัดความรับผิดชอบ บอกไม่เกี่ยวข้องกับการอาบน้ำ
ตอนนี้ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงยังรับไม่ได้กับการที่เจ้าของร้านอาบน้ำแมวไม่ยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ช่วงเวลา 13.00 น. ตนได้พาซากิไปอาบน้ำที่ร้านอาบน้ำตัดขนหมาแมวแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บางกรวย จังหวัดนนทบุรี ราคา 900 บาท
พอไปรับน้องช่วงเวลาประมาณ 17.00 น. สังเกตว่าน้องมีอาการผิดปกติ ไม่ร่าเริง ซึมและกลัวคน พอพากลับไปที่บ้านก็สังเกตว่าอาการน้องยังไม่ดีขึ้น จึงรีบพาไปคลินิก และได้โทรสอบถามทางร้านอาบน้ำตัดขนว่าเกิดอะไรขึ้น ร้านก็ยอมรับว่าตอนที่อาบน้ำ ได้พอกน้ำยาทิ้งไว้ และจับน้องใส่ตะกร้าขังไว้ น้องมีอาการวิ่งชน จึงได้เล่าอาการนี้ให้สัตวแพทย์ฟัง สัตวแพทย์จึงฉีดยาลดปวดบวมให้ แต่ปรากฏว่าพอข้ามวันอาการก็ยังไม่ดีขึ้น จึงพาไปโรงพยาบาลสัตว์
ปรากฎว่าโรงพยาบาลสัตว์ต้องรีบทำการรักษาเพราะตรวจพบเกิดภาวะน้ำท่วมปอด และได้ตรวจโรคทั้งแบคทีเรียและไวรัสปรากฏว่าไม่ได้มีการติดเชื้ออะไรเลย จึงลงความเห็นว่ามีความเป็นไปได้ ที่แมวจะเกิดภาวะตกใจ ทำให้อวัยวะภายในผิดปกติ จนเกิดน้ำท่วมปอดและเสียชีวิตในที่สุด
ตอนแรกตนได้พยายามติดต่อและพูดคุยกับทางร้านอาบน้ำแมว ปรากฏว่าทางร้านก็บอกว่าจะเดินทางมาเผาศพน้อง และช่วยเหลือค่าใช้จ่าย แต่สุดท้ายก็หายไป ไม่ติดต่อมาเลย จนกระทั่งทางครอบครัวได้จัดพิธีฌาปนกิจศพ น้องเมื่อวานนี้ วันที่ 12 ส.ค. ที่ผ่านมา และวันนี้จึงตัดสินใจร้องสื่อ อยากให้เจ้าของร้านยอมรับผิดในสิ่งที่เกิดขึ้น เพราะทางร้านก็ยังคงยืนยันว่าไม่ได้เกิดจากการอาบน้ำของทางร้าน แต่เกิดจากอวัยวะภายใน ซึ่งส่วนตัวแล้วก็มั่นใจว่าที่น้องเสียชีวิตเกิดจากอาการตกใจช็อก จนเกิดภาวะน้ำท่วมปอด ซึ่งก็เกี่ยวข้องกับกระบวนการขั้นตอนในการอาบน้ำที่มีการจับน้องขังไว้ในกรงนาน
ปกติแล้วแมวพันธุ์นี้ร้านอาบน้ำจะทราบดีอยู่แล้วว่าแมวพันธุ์นี้ค่อนข้างที่จะเซนสิทีฟ และจะต้องอาบเป็นตัวๆ ไม่อาบน้ำพร้อมกันหลายตัว พอสอบถามถึงภาพจากกล้องวงจรปิด ปรากฏว่าทางร้านก็ไม่มีวงจรปิดช่วงเวลาอาบน้ำแมวให้ดู รวมถึงตรวจสอบแล้วไม่มีใบ ขออนุญาตประกอบกิจการอีกด้วย สำหรับเหตุการณ์นี้จริงๆ ไม่ได้ต้องการรับการเยียวยาเป็นเงินสด หรืออะไรเลย เจ้าของร้านยอมรับผิดและปรับปรุงขั้นตอนการดูแลสัตว์ที่เจ้าของได้นำไปฝากไว้ เท่านั้น แต่ปรากฏว่าเคสนี้ปัดความรับผิดชอบ และไม่ยอมรับผิด จึงขอให้ชดใช้ค่าเสียหาย ทั้งค่าบริการ ค่ารักษาพยาบาล และค่าทำศพ
ขณะที่ทางทีมข่าวก็ได้โทรสอบถามเรื่องนี้กับทางเจ้าของร้านคู่กรณี ก็บอกกับทีมข่าวว่าไม่ได้นิ่งนอนใจ รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยืนยันว่าได้พูดคุยเรื่องนี้กับทางเจ้าของแมวแล้ว และยังคงยืนยันว่าสาเหตุการเสียชีวิตของแมวนั้นไม่ได้เกิดจากทางร้าน และสะดวกที่จะให้การชี้แจงเรื่องนี้อีกครั้งในสัปดาห์หน้า