หลานทาสยา ขอเงินยายซื้อลูกชิ้น 20 บาท ไม่พอใจยายให้ช้า กระโดดใช้กำปั้นทุบหัวจากด้านหลัง ยายล้มคางแตก

เพจ เหยี่ยวข่าวช่วยชาวบ้าน โพสต์คลิปชาวบ้านช่วยกันจับชายคลุ้มคลั่ง พร้อมระบุข้อความว่า “จะฆ่าแม่ แม่บาดเจ็บหนัก ผมรีบนำตัวส่ง รพ.นายูง” ต่อด้วยคลิปตำรวจ สภ.นายูง จ.อุดรธานี มาควบคุมตัวที่เพิงหน้าร้านของชำ ต.โนนทอง อ.นายูง จ.อุดรธานี ไปดำเนินคดีที่โรงพัก เหตุเกิดเมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา

ต่อมา เมื่อเวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังร้านขายของชำ ดังกล่าว พบกับ หญิง อายุ 27 ปี เจ้าของร้านของชำ ซึ่งเป็นหลานของผู้บาดเจ็บ ได้พาชี้จุดที่ผู้บาดเจ็บเดินหนีผู้ก่อเหตุมาจากฝั่งตรงข้าม ทราบว่าผู้บาดเจ็บเป็นคุณยาย อายุ 71 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นชาย อายุ 23 ปี เป็นหลานชายในไส้ของคุณยายที่ชุบเลี้ยงมาตั้งแต่ยังเล็ก จึงเรียกยายว่าแม่

หลานชายได้กระโดดใช้กำปั้นทุบด้านหลังศีรษะยายสุดแรง จนคุณยายล้มหน้าคะมำลงกับพื้นถนนลาดยาง ได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ คางแตก ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ได้วิ่งไล่จับกุมตัว ก่อนแจ้ง นายคำมี วุวรรณไชย ผู้ใหญ่บ้าน ช่วยกันจับมัดไว้รอตำรวจ

จากนั้น หลานสาวคนเจ็บ ได้พาผู้สื่อข่าวไปดูบ้านของผู้ก่อเหตุ ที่อยู่ด้านหลังร้านของชำ พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียว มีสภาพทรุดโทรม โดยผู้ก่อเหตุอาศัยอยู่ตามลำพังมาประมาณ 2 เดือน เนื่องจากมีอาการคลุ้มคลั่งทุบทำลายข้าวของในบ้านกระจัดกระจาย ประตูบ้านทุกบานทุกทุบพังเสียหาย สายไฟและลูกกรงเหล็กถูกถอดรื้อไปขายเพื่อซื้อยาบ้าเสพ จนยายกลัวจะได้รับอันตราย จึงออกไปพักอาศัยอยู่ที่บ้านยายตน ซึ่งเป็นพี่สาวของยายคนเจ็บ แต่สุดท้ายก็มาถูกหลานชายคนแรกที่รักมากทำร้าย

หลานสาวคนเจ็บ เล่าว่า วันนี้ผู้ก่อเหตุขอเงินยาย 20 บาท คาดว่าจะไปซื้อยาบ้ามาเสพ ยายจึงให้ไป 20 บาท แต่ก็ยังไม่พอใจ จึงเข้าทำร้ายขณะยายเดินหนีออกมาจากบ้านพี่สาวของยาย และข้ามถนนมาที่ร้านตน ผู้ก่อเหตุได้วิ่งตามเข้ามาด้านหลัง กระโดดใช้กำปั้นทุบที่หัวยายจนยายล้ม ตนจึงรีบเข้าไปช่วยพยุงยายลุกขึ้น และมีชาวบ้านที่มาซื้อของเห็นท่าไม่ดี ก็เข้าไปช่วยกันไล่จับมัดไว้ แล้วให้ผู้ใหญ่บ้านโทรแจ้งตำรวจมารับตัวไป

ก่อนหน้านี้ยายก็อยู่กับผู้ก่อเหตุที่บ้าน ระยะหลังเขาก็มีอาการหนักขึ้นเรื่อยๆ จนยายต้องไปอาศัยอยู่ที่บ้านพี่สาวยาย ผู้ก่อเหตุไม่ได้ทำงานอะไร วันๆ ก็ขอแต่เงินยายไปซื้อยาบ้ามาเสพ หนักเข้าก็อาละวาดทุบทำลายบ้าน รื้อบ้านเอาสายไฟและเหล็กไปขาย ยังไม่ได้นำตัวเข้ารับการบำบัดสักครั้งเลย

ผู้ก่อเหตุติดยามาจากที่ทำงานเก่า ใน จ.ชลบุรี แล้วเขาก็เคยทำร้ายแม่เขาที่ทำงานด้วยกัน จนแม่เขาทนไม่ไหว ส่งลูกชายกลับมาอยู่กับยายที่บ้าน เขาเป็นคนอารมณ์รุนแรงจนยายอยู่ด้วยไม่ได้ ตนก็ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ เพราะยายรักเขามาก และตามใจเขาทุกอย่าง มีอะไรก็หาให้

ยายจะพาเขามาร้านค้าประจำ ถ้ายายไม่มีเงินก็จะพาเขามาเชื่อเอาไว้ ซึ่งเขาก็จะเอาเงินกับยายอีก 100 บาท และขอโทรศัพท์จากยายโทรหาแม่ ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยทำร้ายยายมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกก็หนักเลย โชคดีที่ยายไม่เป็นอะไรมาก แต่หมอก็ให้นอนดูอาการที่ รพ.

ยายเสียใจมากที่โดนหลายชายทำร้ายร่างกาย ทำให้ความดันขึ้น 200 กว่า เพราะแกรักหลานคนนี้มาก แกมีหลานชาย 2 คน คนเล็กไปอยู่กับแม่ที่ จ.ชลบุรี ส่วนผู้ก่อเหตุเป็นหลานชายคนโต

ตนก็อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยปราบปรามยาบ้าให้หมดไปเสียที ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวไหนอีกแล้ว เขามาตีมาทำร้ายคนในครอบครัว พวกตนก็ไม่อยากจะเอาไว้ ถ้าออกมาก็จะมาทำแบบนี้อีก ถ้าเกิดอยู่กันแค่สองยายหลานก็อาจจะเกิดเรื่องที่ร้ายแรงกว่านี้ ตนก็จะให้ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ต่อมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง สภ.นายูง พบว่า พ.ต.อ.อาทิตย์ จันทา ผกก.สภ.นายูง ได้นำผู้ก่อเหตุออกมาจากห้องควบคุม เพื่อมาสอบปากคำ ผู้ก่อเหตุยังมีอาการคล้ายกับคนหลอนยาอยู่ ให้การรู้เรื่องในบางช่วงบางตอนว่า ตนเองเดินไปขอเงินยายซื้อลูกชิ้น 20 บาท แต่ยายไม่ให้ ก็เลยโมโหต่อยยายเข้าที่บริเวณหลังศีรษะ แล้วยายก็ล้มลงกับพื้นถนน แต่ไม่ได้ทำร้ายซ้ำ ชาวบ้านใส่ร้ายตน ซึ่งตนยอมรับว่าได้เสพยาบ้ามาเมื่อวันเสาร์ที่แล้ว

ที่ทำร้ายยายไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องเสพยา เริ่มแรกตนหิวข้าว แต่ยายมีอาการเหมือนไม่พอใจตนไม่ขอชี้แจงอะไรมากไปกว่านี้ เพราะคิดว่าตนเองไม่ผิด ตนโดนมาเยอะที่โดนใส่ร้าย ที่ไปทำร้ายยายมันก็ผิดในสายตาคนอื่น และตนขอโทษยาย ตนไม่เหมือนคนปกติ เพราะเสพยาบ้าวันละ 1 แถว หรือ 10 เม็ด บางทีก็ขอเงินกับยายบ้าง วันนี้ตนขอโทรศัพท์กับยายเพื่อจะโทรไปขอเงินแม่ 20 บาท มาซื้อลูกชิ้นกิน วันนี้แกไม่ได้ให้ และทำไม่ถูกใจและขัดใจตน ตนจึงได้ทำร้ายยาย

ส่วนตอนอยู่ จ.ชลบุรี ไม่ได้ตีแม่ กลับมาอยู่บ้านตั้งแต่เดือน ก.ค. ปีที่แล้ว ส่วนเรื่องทำลายข้าวของที่บ้าน ขอให้เป็นเรื่องส่วนตัว เพราะเป็นบ้านของตนที่อาศัยมาตั้งแต่เกิด

พ.ต.อ.อาทิตย์ จันทา ผกก.สภ.นายูง เปิดเผยว่า จากการสอบสวน ผู้ก่อเหตุยังให้การวกวน เนื่องจากได้เสพยามาก่อนหน้านี้ 2-3 วัน ประมาณ 10 เม็ด แต่ก็ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุทำร้ายร่างการยายที่เป็นคนเลี้ยงดูเขามาจริง สาเหตุเกิดจากขอเงินยาย แต่ยายให้ช้า จึงไม่พอใจและโกรธ แล้วยังมีประเด็นที่ทำให้ผู้ก่อเหตุโมโห คือ ขอโทรศัพท์ยายโทรไปขอเงินแม่

ในเบื้องต้นได้ตรวจปัสสาวะ พบมีผลเป็นบวก และกำลังรอผลตรวจร่างกายคุณยายจากทาง รพ. เพื่อนำมาประกอบสำนวน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษโดยผิดกฎหมาย เป็นภัยสังคม ส่วนข้อหาทำร้ายร่างกายบุพการี ต้องรอผลตรวจจากแพทย์ ว่ากระดูกกรามแตกหักหรือไม่ หลังมีการสอบปากคำญาติของยายไปแล้วบางส่วน ควบคุมตัวดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป