"เวย์" เข้าพบ ตร. รับทราบข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ แจงปมยืมเงิน "เดย์"  2 ล้าน ทำสัญญาใจกัน รับเครียดข่าวฉาวทำสปอนเซอร์เทคอนเสิร์ต ยันสถานะครอบครัวกับ "นานา" ยังปกติ

"เวย์ ไทยเทเนียม" เข้าพบตำรวจ ปอศ. รับทราบข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ พร้อมแจงปมหนี้สิน "เดย์" ยืนยันยืมแค่ 2 ล้านบาทเป็นสัญญาใจ เผยกระทบงานคอนเสิร์ตหนัก

วันที่ 12 ธันวาคม 2568 นายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทยเทเนียม พร้อมด้วยนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความ ได้เดินทางเข้าพบ พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผบก.ปอศ. และพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์   หลังจากมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วก่อนหน้านี้

นายปริญญา เปิดเผยภายหลังการให้ปากคำว่า วันนี้เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหาพร้อมชี้แจงกรณีที่ เดย์ จำรัส ทัศนละวาด หรือ เดย์ ไทยเทเนียม ออกมาพูดถึงความสัมพันธ์ภายในวง โดยยอมรับว่ามีการยืมเงินกันจริงจำนวน 2 ล้านบาทเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งเป็นการทำข้อตกลงกันเองในฐานะเพื่อนสนิทที่ร่วมงานกันมากว่า 25 ปี เป็นลักษณะสัญญาใจและไม่ได้บอกใคร ส่วนกระแสข่าวที่เดย์ระบุว่ายอดเงินสูงถึง 8 หลักนั้น เจ้าตัวยืนยันว่าไม่ทราบเรื่องดังกล่าว และขอย้ำว่ายอดหนี้มีเพียง 2 ล้านบาทเท่านั้น

เวย์ ระบุต่อว่า ตลอดเวลาที่เกิดเรื่องได้พยายามติดต่อพูดคุยกับอีกฝ่ายมาโดยตลอด ส่วนเรื่องการคืนเงินในข้อตกลง หากอีกฝ่ายต้องการก็สามารถแจ้งได้ แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการพูดถึงประเด็นนี้ จนกระทั่งมาเห็นคลิปวิดีโอที่เดย์พูดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งยอมรับว่ารู้สึกตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

สำหรับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ นายปริญญา ยอมรับว่าส่งผลโดยตรงต่องานคอนเสิร์ตที่จะจัดขึ้น โดยมีสปอนเซอร์และศิลปินหลายรายขอถอนตัว ซึ่งหลังจากนี้จะต้องหารือกับทีมทนายความว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป  โดยยืนยันว่าสถานะความเป็นสามีภรรยากับ นานา ไรบีนา ยังคงเดิม

ขณะที่ทนายสายหยุด กล่าวว่า วันนี้พาลูกความเข้ามาพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในข้อหา ”ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์“ จากกรณีที่ นักธุรกิจชื่อดัง โอนเงินเข้าบัญชีของนายปริญญา อินทชัย หรือ เวย์ ไทเทเนี่ยม จำนวน 10 ครั้งเป็นเงินจำนวน 14 ล้านบาท ตั้งแต่เดือนมี.ค. 65 ทำให้ผู้เสียหายเข้าแจ้งความ โดยเข้าใจว่าร่วมกระทำกับนางไรบีนา อินทชัย ภรรยา ในการฉ้อโกง โดยในข้อเท็จจริงจากการพูดคุยกับลูกความ พบว่าเงินจำนวนดังกล่าวนายปริญญา ไม่ทราบว่าภรรยาติดต่อกับผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่บัญชีดังกล่าว ทราบเพียงว่านางไรบีนาแจ้งว่าเงินโอนเข้ามาในบัญชี และให้นำเงินจำนวนดังกล่าวไปใช้ตามที่บอก ซึ่งเจ้าตัวไม่ทราบว่า แหล่งที่มาของเงินดังกล่าวมาจากบุคคลใด ทั้งนี้ยังทราบว่านางไรบีนา ได้บอกกับทางผู้เสียหายว่าไม่ให้นำเรื่องที่ติดต่อกันไปบอกทางนายปริญญา

ทนายสายหยุด กล่าวด้วยว่า นายปริญญา ทราบเรื่องว่ามีปัญหากับผู้เสียหายในช่วง เดือนตุลาคมก่อนจะเริ่มมีการใช้หนี้ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคม จำนวน 1.5 บ้านบาท โดยเป็นการโอนตรงไปยังผู้เสียหาย นอกจากนี้ยังชี้แจงว่า ในการไปร่วมรับประทานอาหารกับผู้เสียหายที่มีทั้งนางไรบีนา และนายปริญญา และนักธุรกิจอีกหลายคน ก็ไม่ได้มีการพูดคุยกันเรื่องธุรกิจ ยืนยันว่านายปริญญา ไม่ทราบถึงการลงทุนของนางไรบีนา และผู้เสียหาย และยืนยันว่านายปริญญา ไม่เคยชักชวนใครลงทุน

ทนายสายหยุด ยืนยันว่า ยอด 14 ล้านบาทในวันนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับยอดเงินจำนวน 50 ล้านบาทในคดีก่อนหน้านี้ ส่วนการชดใช้เงินให้กับผู้เสียหาย ทนายสายหยุด ยอมรับว่า ขณะนี้ลูกความทั้งสองคนค่อนข้างกระสับกระส่ายในเรื่องการหาเงินมาใช้เนื่องจากมี กระแสข่าวทำให้กระทบกับงานของทั้งคู่ จนถูกยกเลิกงาน และสปอนเซอร์ถอนตัวจากคอนเสิร์ต นอกจากนี้ยังโดนโจมตีจากกระแสข่าวจนทำให้การขายหุ้นร้านตัดผมจากเดิมที่ขายได้ 300 ล้านบาทเหลือเพียงแค่ 180 ล้านบาท รวมถึงกำลังสอบถามเรื่องของบ้านที่กำลังขายว่ามีการติดจำนองกับเจ้าหนี้รายใดหรือไม่

สำหรับยอดความเสียหายที่นางไรบีนา จะต้องชดใช้ ทุกคดีรวมกันอยู่ที่ 152 ล้านบาท ยืนยันว่านางไรบีนาก็จะต้องชดใช้หนี้จำนวนดังกล่าว