ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ได้รับเรื่องร้องเรียนผ่านทางเฟซบุ๊ก กรณีหญิงสาวร้องไห้ฟูมฟายพร้อมกับบอกว่า ตนเองอยากออกมานั่งเล่นหน้าบ้านก็นั่งไม่ได้ ได้ยินแต่เสียงพระสวดเสียงดัง เหตุเพราะเพื่อนบ้านเปิดเสียงบทสวดมนต์ทั้งกลางวันและกลางคืนค่ำมืดดึกดื่นก็ไม่เว้น ยิ่งดึกยิ่งดัง โดยเฉพาะช่วงวันโกนและวันพระ แจ้งตำรวจไปก็ไม่มีใครทำอะไรได้ เดือดร้อนกันหมด หญิงคนนี้กำลังตั้งครรภ์ มีภาวะเครียดสะสม มีหน่วยงานไหนช่วยได้บ้าง
ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลงพื้นที่ไปยังบ้านของผู้ร้อง ใน อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา เจ้าของบ้านที่ร้องเรียนเล่าว่า ที่บ้านของตนเองมีอาชีพทำหัวโขนและเศียรพ่อแก่ ซึ่งอาศัยอยู่ที่นี่มานานกว่า 40 ปี ตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายและที่บ้านของตนเองเป็นศูนย์การเรียนรู้เรื่องการทำหัวโขน ซึ่งจะมีนักเรียนแวะเวียนมาเรียนการทำหัวโขนจำนวนมาก ที่ผ่านมาก็อยู่กันด้วยความสงบ
กระทั่งช่วงประมาณปี 2559 เพื่อนบ้านคู่กรณีมาซื้อบ้านข้างๆ และย้ายมาอยู่อาศัย ซึ่งไม่เคยพูดคุยอะไรกันเลย เพราะเพื่อนบ้านคู่กรณีจะเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในบ้านและร้องเรียนบ้านของตนเองด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง เช่น ทำกับข้าวทั้งกลิ่น ทั้งควันรบกวน เพราะบ้านของตนใช้เตาถ่าน , ร้องเรียนเรื่องเครื่องซักผ้าเสียงดัง , สุนัขที่บ้านของตนเองเดินผ่านหน้าบ้านเพื่อนบ้านคู่กรณี , แมวที่บ้านไปขึ้นหลังคาบ้านเขาและทำให้กระเบื้องหลังคาแตก
ร้องเรียนว่า บ้านตนเองค้ายาเสพติดด้วย แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาตรวจสอบอยู่ตลอด แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย ซึ่งที่ผ่านมาบ้านของตนเองจะถูกกลั่นแกล้งร้องเรียนในลักษณะแบบนี้เรื่อยมาซึ่งตนก็อดทนมาโดยตลอด กระทั่ง 4-5 ปีหลังมานี้ เพื่อนบ้าน เริ่มเปิดบทสวดมนต์เสียงดังจนคนในบ้านตนเองต้องตะโกนคุยกัน
ทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ลองใช้แอปฯ ในโทรศัพท์มือถือวัดระดับเสียงอยู่ที่ประมาณ 40-50 เดซิเบล ไม่เกินที่กฎหมายกำหนด เพราะกฎหมายห้ามเสียงดังเกิน 70 เดซิเบล ซึ่งเจ้าของบ้านบอกว่า ถึงแม้เสียงจะไม่ดังเกินกว่ากฎหมายกำหนด แต่เพื่อนบ้านคู่กรณีเปิดเสียงบทสวดมนต์ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่มีพัก
ตนเองเคยไปร้องเรียนทั้งหน่วยงานในพื้นที่และแจ้งตำรวจ แต่ก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ไม่สามารถแก้ปัญหาได้หนำซ้ำเพื่อนบ้านคู่กรณียังยิงปืนขู่ด้วย พอตนเองออกไปถ่ายคลิปเก็บไว้ เพื่อนบ้านคู่กรณีก็รีบกลับเข้าบ้านไป
นอกจากนี้เวลาพระเดินบิณฑบาตตอนเช้า เพื่อนบ้านคู่กรณีจะปล่อยหมาออกมาเห่าและวิ่งไล่พระที่กำลังเดินบิณฑบาตอยู่ จนเคยเกิดเหตุการณ์ บาตรหล่น ข้าวปลาอาหารกระจายเต็มพื้น ส่วนแม่ยายของตนเองเคยขี่รถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้านเพื่อนบ้านคู่กรณี ก็ถูกเพื่อนบ้านคู่กรณีกระโจนเข้าใส่ จนรถเกือบล้มและมีปากเสียงตะโกนด่าทอกัน
ภรรยาของเจ้าของบ้าน บอกว่า ตนเองเครียดมาก เครียดจนแท้งลูกคนแรกเมื่อ 3 เดือนก่อน ซึ่งอายุครรภ์ตอนนั้นประมาณ 2-3 เดือน จู่ๆ มีเลือดออกที่ช่องคลอด พอไปหาหมอ ถึงได้รู้ว่า แท้งลูก ซึ่งตนก็ใช้ชีวิตปกติ ไม่ได้หกล้มหรือไปกระแทกอะไรมา มีแต่ความเครียดสะสมเรื่องเสียงบทสวด
เวลาตนเองได้ยินเสียงบทสวดมนต์จะรู้สึกหงุดหงิด ถ้านานๆเปิดที หรือเปิดแค่เป็นบางช่วงเวลา ก็อาจจะลูกสึกสงบ แต่นี้เปิดตลอด 24 ชั่วโมงแม้กระทั่งดึกดื่นตอนนอนก็จะได้ยินเสียงบทสวดอยู่ตลอด ซึ่งตอนนี้ตนเองกำลังตั้งท้องที่ 2 ก็กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เครียดจนแท้งลูกอีก
ล่าสุด นายเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านที่ถูกร้องเรียนชี้แจงกับทีมข่าวเที่ยงวันทันเหตุการณ์ ว่า สาเหตุที่ตนเองต้องเปิดเสียงบทสวดมนต์เพื่อไล่แมวของบ้านผู้ร้องเรียน เพราะที่ผ่านมาแมวจากบ้านผู้ร้องเรียนชอบปีนขึ้นหลังคาจนทำให้หลังคาพังทะลุเป็นรู แต่พอตนเองเปิดเสียงบทสวดมนต์แล้วมันได้ผลแมวไม่ปีนเข้ามาในบ้านของตนอีกเลย ตนจึงจำเป็นต้องเปิดเสียงบทสวดเพราะมีเหตุผล
ส่วนบ้านของผู้ร้องเรียนก็เคยก่อความเดือดร้อนให้กับตนเองเหมือนกันทั้งเรื่องกลิ่นและควันจากการทำอาหารเผาถ่าน , เปิดเสียง ว.วิทยุตำรวจตลอดทั้งวัน ทั้งคืน , จุดประทัดเสียงดังก่อกวน ซึ่งที่ผ่านมาตนเองได้ลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ภาชี ไม่ต่ำกว่า 4 ครั้ง ตำรวจมาคุย เจรจาแล้วก็ไป ไม่เห็นจะแก้ปัญหาอะไรได้
ซึ่งตนมองว่าเป็นปัญหาปกติทั่วไปของเพื่อนบ้านที่จะกระทบกระทั่งกันเรื่องเล็กน้อยไม่ได้ถึงขั้นทำร้ายร่างกายกันและตนเองไม่มีอาวุธปืน ไม่เคยยิงปืนข่มขู่ด้วย แต่เป็นการจุดประทัดไล่แมวบ้านผู้ร้องเรียน
ที่มา : เที่ยงวันทันเหตุการณ์