สีกาคู่กรณีของพระอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชื่อดังใน จ.กาฬสินธุ์ เตรียมเข้ายื่นหนังสือต่อผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อขอให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังของอดีตเจ้าอาวาส หลังมหาเถรสมาคมมีมติให้ปาราชิกตั้งแต่ปี 2557 แต่ยังคงจัดการการเงินภายในวัด
เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.ย. 2568) เวลา 10.00 น. สีกาคู่กรณีของพระอดีตเจ้าอาวาสวัดป่าชื่อดังใน จ.กาฬสินธุ์ จะเข้าพบรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลังของวัดและอดีตเจ้าอาวาส หลังมหาเถรสมาคมมีมติให้ปาราชิกและพ้นจากความเป็นพระตั้งแต่วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2557
การยื่นหนังสือครั้งนี้สืบเนื่องจากกรณีอธิกรณ์สงฆ์ที่ยืดเยื้อมานานกว่า 9 ปี ระหว่างสีกาคู่กรณีกับพระอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งสิ้นสุดลงด้วยคำวินิจฉัยของศาลสงฆ์ชั้นฎีกา ตามมติที่ประชุมมหาเถรสมาคมที่ 695/2568 ให้พระรูปดังกล่าวต้องปาราชิกตั้งแต่ปี 2557
แหล่งข่าวเผยว่า แม้อดีตเจ้าอาวาสจะขาดจากความเป็นพระตั้งแต่ปีดังกล่าว แต่ยังคงแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ และมีอำนาจในการจัดการด้านการเงินของวัดต่อไป ทำให้มีความจำเป็นต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินย้อนหลัง เพื่อความโปร่งใส และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย
ข้อมูลยังระบุว่า อดีตเจ้าอาวาสเคยแต่งตั้งผู้หญิงคนหนึ่งเป็นไวยาวัจกร ระหว่างปี 2538–2564 ซึ่งขัดต่อกฎมหาเถรสมาคม พ.ศ. 2536 ที่กำหนดว่าไวยาวัจกรต้องเป็นผู้ชายเท่านั้น
นอกจากนี้ ยังพบข้อพิรุธเกี่ยวกับบัตรประจำตัวประชาชนของอดีตเจ้าอาวาส ที่มีอยู่ 2 หมายเลข แต่ระบุวันเดือนปีเกิดเดียวกันคือ 29 ธันวาคม 2489 ซึ่งเจ้าหน้าที่สอบสวนจะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้เพิ่มเติม
ทั้งนี้ ยังมีการร้องขอให้ตรวจสอบกลุ่มข้าราชการในกระบวนการยุติธรรม ทั้งอัยการและตำรวจ ที่ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือและปกปิดความผิด รวมถึงใช้อำนาจกลั่นแกล้งผู้บริสุทธิ์ จนได้รับความเดือดร้อน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย และป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต